คล้ายกับราชินีเงื่อนงำ แบร์นาแดตสัมผัสถึงการมาเยือนของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เธอวางม้วนคัมภีร์โบราณในมือลง หันเหความสนใจไปยังแขกพิเศษหน้าประตู
ไคลน์ทำความเคารพพอเป็นพิธี กล่าวเข้าประเด็น
“ขอยืมตะเกียงวิเศษประทานพรหนึ่งวัน”
แบร์นาแดตพยักหน้ารับ ยกมือขึ้นและหยิบตะเกียงวิเศษด้านข้างขึ้นมา
ทาสรับใช้ล่องหนของหญิงสาว ถือตะเกียงรูปทรงประหลาดดังกล่าวมาส่งให้ไคลน์
ไคลน์เหยียดแขนไปรับ กล่าวเสียงต่ำ
“ขอบคุณ”
แบร์นาแดตมิได้กล่าวสิ่งใด ไม่ได้กลัวเลยสักนิดว่า ตัวเองจะตายอย่างเป็นปริศนาเนื่องจากข้อพรเกินขีดจำกัด
หญิงสาวเชื่อว่า มิสเตอร์ฟูลสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพราะตัวตนลึกลับรายนี้เคยแสดงพลังในทำนองเดียวกันมาก่อน
วินาทีถัดมา ไคลน์ซึ่งอยู่ในร่างเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เลือนหายไปร่าง ‘รุ่งอรุณ’ และกลับมายังปราสาทต้นกำเนิด
มันวางตะเกียงวิเศษประทานพรลงบนโต๊ะ และพบว่าไส้ตะเกียงถูกจุดขึ้นเอง ก่อตัวเป็นร่างสีทองซีดอันบิดเบี้ยวและพร่ามัว
“เจ้ายังมิได้ทำตามสัญญา ข้าจะไม่มอบพรใดให้เจ้าอีก” เทพแห่งตะเกียงกล่าวด้วยน้ำเสียงองอาจสง่างาม “อย่าได้ลืมว่าเจ้าของตะเกียงคนปัจจุบันคือบุตรสาวของโรซายล์ ในคราวก่อน ความปรารถนาแรกของเจ้าคือการถ่ายโอนจำนวนครั้งการขอพรของเธอมาเป็นของเจ้า เปลี่ยนให้เจ้ากลายเป็นผู้แบกรับผลข้างเคียงของพรข้อที่สามแทน… แต่ในตอนนี้ ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าทำซ้ำในเรื่องเดิม”
ในตอนที่ไคลน์ใช้ตะเกียงพิเศษประทานพรหลบหนีจากสถานการณ์ยากลำบาก ความเป็นเจ้าของของสมบัติปิดผนึกระดับ 0 ชิ้นนี้มิได้ถูกโอนถ่ายมาด้วย ราชินีเงื่อนงำแบร์นาแดต ยังคงเป็นเจ้าของอยู่เหมือนเดิม
ดังนั้น จำนวนครั้งการขอพรของทั้งไคลน์และแบร์นาแดตจึงถูกไปนับพร้อมกัน
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาดังกล่าว ความปรารถนาแรกของไคลน์คือการโอนถ่ายจำนวนการขอพรสองครั้งของแบร์นาแดตมายังตน ส่งผลให้จำนวนการขอพรของแบร์นาแดตกลายเป็นศูนย์ และจำนวนการขอพรของไคลน์คือสอง
แต่ในเวลาเดียวกัน ความปรารถนาดังกล่าวย่อมต้องถูกนับจำนวนครั้งด้วย ส่งผลให้จำนวนการขอพรของแบร์นาแดตกลายเป็นหนึ่ง และจำนวนการขอพรของไคลน์กลายเป็นสาม
ถัดมา ไคลน์ทำการขอพรข้อที่สอง ซึ่งนั่นทำให้จำนวนครั้งของแบร์นาแดตและไคลน์เพิ่มขึ้นพร้อมกัน
ลงเอยด้วย จำนวนการขอพรของแบร์นาแดตกลับไปเป็นสองครั้งเท่าเดิม ยังไม่เกิดจุดวิกฤติ ส่วนไคลน์กลายเป็นสี่ครั้ง และผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาด เมื่อทำการละเมิดกฎของตัวตนระดับเทพภายนอก ชายหนุ่มต้องเสียชีวิตอย่างกะทันหันภายในวิหารโครงกระดูกของอาดัม ประสบความสำเร็จในการหลุดพ้นจากสถานการณ์ยากลำบาก
ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว หากไคลน์ขอพรเพิ่มอีกข้อ จำนวนการขอพรของแบร์นาแดตจะกลายเป็นสาม และนั่นจะทำให้เธอต้องเผชิญเหตุการณ์สุดสยดสยองอย่างมิอาจเลี่ยง
แน่นอนว่า ชายหนุ่มสามารถเลียนแบบความปรารถนาเดิมได้ โดยการโอนถ่ายจำนวนครั้งของแบร์นาแดตมายังตนและยอมเสียสละโควตาการ ‘คืนชีพ’ อีกสักครั้ง ทว่า เทพแห่งตะเกียงได้ออกตัวชัดเจนแล้วว่า หากไคลน์ขอพรเพิ่ม มันจะทำการบิดเบือนความปรารถนา จนออกมาในรูปแบบที่ไคลน์ไม่อยากเห็น
เฮ้อ… คราวก่อนเรารีบเกินไป แถมโรซายล์ยังได้รับผลกระทบจากดวงจันทร์บรรพกาล ส่งผลให้มีช่องโหว่ในการขอพร… ตอนนั้นเราควรแนบรายละเอียดไปด้วยในพรข้อแรก ว่าให้จำนวนครั้งการขอพร ถูกนับเฉพาะฝ่ายเรา หรือไม่ก็แทรกความปรารถนาระหว่างพรข้อแรกและข้อที่สอง โอนถ่ายสิทธิ์ความเป็นเจ้าของจากแบร์นาแดตมายังเรา และหลังจากที่เราตายไป ความเป็นเจ้าของก็จะสิ้นสุดลง และตะเกียงวิเศษประทานพรก็จะกลับคืนสู่เจ้าของเดิม… ไคลน์ถอนหายใจกับตัวเอง พลางยิ้มให้เทพแห่งตะเกียง: ไอรีนโนเวล
“คงรู้จักการ ‘แผลง’ และ ‘ผนวกใหม่’ ใช่ไหม? ด้วยระดับของตะเกียงและสถานะปัจจุบันของเจ้า ข้าสามารถใช้พลังปราสาทต้นกำเนิดเพื่อ ‘ปลูกถ่าย’ ความเป็นเจ้าของจากแบร์นาแดตมายังตัวข้าได้ หรือไม่ก็ยังมีอีกหลายวิธี เช่นการ ‘ขโมย’ เป็นไง?”
ร่างสีทองอันบิดเบี้ยวของเทพแห่งตะเกียงปิดปากเงียบ กล่าวหลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที
“แม้จะไม่เจ้าเล่ห์เหมือนหมอนั่น แต่ความไร้ยางอายแทบไม่ต่างกัน… เปล่าประโยชน์ เมื่อเจ้าสะสมความปรารถนาและถึงคราวเสียชีวิตจากผลของกฎ กรรมสิทธิ์ของตะเกียงจะกลับไปอยู่กับบุตรสาวของโรซายล์อีกครั้ง ถึงตอนนั้นข้าจะทำการบิดเบือนกฎ นับความปรารถนาของเจ้ารวมเข้ากับจำนวนการขอพรของหล่อน… อย่างที่ได้กล่าวไป จนกว่าเจ้าจะทำตามสัญญา ข้าจะไม่มอบพรใดให้เจ้าอีก”
ไคลน์ยังคงยิ้ม
“ครั้งหนึ่ง ข้าเคยฟังเรื่องราวเกี่ยวกับนักลงทุน: ในยามบริษัทมีปัญหา นักลงทุนรุ่นแรกมีแนวโน้มที่จะเต็มใจช่วยเหลือมากกว่า ทั้งที่เคยจ่ายเงินให้บริษัทไปแล้วมากมาย แต่ถ้าไม่จ่ายเพิ่ม สิ่งที่เคยลงทุนมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า… แต่แน่นอน หากสามารถทวงคืนเงินที่เคยลงทุนไป หรือเปลี่ยนหุ้นที่ถืออยู่ให้เป็นเงินก้อนโตได้ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง… เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นแบบไหน”
เทพแห่งตะเกียงจ้องหน้าไคลน์บนเก้าอี้เดอะฟูล ยิ้มและตอบ
“ดูเหมือนว่า หลังจากควบคุมปราสาทต้นกำเนิดในเชิงลึก เจ้าจะได้รับคารมคมคายนักต้มตุ๋นของหมอนั่นมาด้วย… อย่างไรก็ดี เว้นเสียแต่เจ้าจะคลายผนึกให้ข้า ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องยาก ที่ข้าจะสร้างอิทธิพลใดในขอบเขตของลำดับ 0… อย่างมากก็ทำได้เพียงอาศัยกฎจากเหนือลำดับ ลงโทษให้เจ้าตายโดยไร้สาเหตุ… แต่ดูเหมือนว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวจะไม่มีประโยชน์กับสิ่งที่เจ้าพยายามกระทำ เพราะความตายหมายถึงความล้มเหลว และเจ้าคงรู้อยู่แก่ใจดี อาการเสียสติที่เกิดขึ้นขณะเลื่อนลำดับจะส่งผลกับร่างโคลนทั้งหมด มิอาจเลี่ยงได้โดยการปลูกถ่าย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ