ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ นิยาย บท 1381

สรุปบท ราชันเร้นลับ 1381 : อำนาจ: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ 1381 : อำนาจ – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ตอนนี้ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ราชันเร้นลับ 1381 : อำนาจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ณ หอคอยสีขาว สำนักงานใหญ่ของเทพปัญญาความรู้

หลังจากลูก้าบรูว์สเตอร์ซึ่งถูกขังอยู่ใต้ดินสวดวิงวอนเสร็จ มันหันเหความสนใจกลับมาคิดเกี่ยวกับผนึกที่ถูกเสริมความแข็งแกร่ง

มันอยากศึกษาสถานการณ์เบื้องต้น และประเมินว่าตนจะไขปริศนาเบื้องหลังพวกมันได้หรือไม่ เพื่อคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ ในการใช้พลัง

ขณะไล่ตรวจสอบสมบัติปิดผนึกไปทีละชิ้น ลูก้าชะงักฝีเท้ากลางคัน

สีหน้าของมันเผยความสับสน ไม่แน่ใจว่าครั้งถัดไปควรก้าวเท้าซ้ายหรือเท้าขวาก่อน

อาจฟังดูเป็นคำถามง่ายๆ แต่ลูก้ากลับมิอาจหาคำตอบได้เป็นเวลานาน

ณ ทวีปใต้ ใกล้กับวิหารเทพธิดารัตติกาล

เลียวนาร์ดหยิบแก้วกาแฟสดที่บดจากเมล็ดพันธุ์ท้องถิ่น เตรียมนำขึ้นมาจิบ

ระหว่างนั้น มันมองไปทางประตูและหน้าต่างที่ปิดสนิทตามความเคยชิน พยายามค้นหาสิ่งผิดปรกติ

ในสถานการณ์ปัจจุบัน เลียวนาร์ดมิอาจออกไปจากห้องนี้ได้ ถูกขังปิดตายอยู่ภายในอย่างแน่นหนา และชายชราพาลีส·โซโรอาสเตอร์ก็เงียบไปกะทันหัน ไม่ตอบคำถามแม้แต่ข้อเดียว

โชคดีที่ไม่มีอันตรายใดเพิ่มเติม เลียวนาร์ดจึงยังนั่งอยู่ในห้องด้วยความสบายใจ พลางใช้สมองคิดแทนการออกแรง

ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ มันจ้องแก้วกาแฟบนโต๊ะพลางขมวดคิ้ว กล่าวกับตัวเองด้วยสีหน้าฉงน

“เมื่อครู่เราคิดจะทำอะไรนะ?”

หมู่เกาะรอสต์ ภายในเมืองบายัมที่ถูกปกปิด

เดนิสมิได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมแม้แต่น้อย เอาแต่จดจ่ออยู่กับการส่งโทรเลขแบบมีสาย

ฝันทองคำเพิ่งเข้าสู่น่านน้ำทะเลโซเนียและจอดเทียบท่าเรือที่มีสำนักงานโทรเลข เดนิสจึงต้องการเชิญอีกฝ่ายมายังบายัมในฐานะแขก เพื่อให้ทุกคนเห็นความยิ่งใหญ่ของ ‘ท่านลอร์ดเดนิส’

หากเป็นไปได้ มันอยากให้ฝันทองคำใช้ท่าเรือบายัมเป็นแหล่งกบดาน ตนจะได้กลับเรือบ่อยครั้ง เข้าร่วมการผจญภัยตามหาขุมทรัพย์ รวมถึงการเข้าเรียนคาบสอนของกัปตัน

ในฐานะผู้ชำนาญรอบด้าน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเดนิสช่ำชองการใช้เครื่องส่งโทรเลข ปัจจุบันกำลังนั่งอยู่หน้าเครื่องส่ง รัวนิ้วเพื่อส่งข้อความที่เตรียมไว้ในใจ

เดิมที มันออกแบบข้อความอย่างชัดเจนและฉะฉาน จึงพร้อมแล้วที่จะส่งด้วยความภาคภูมิใจ

สายตามองตรง มือของมันยังคงกดปุ่มอย่างต่อเนื่อง ราวกับเป็นพฤติกรรมจากสัญชาตญาณ

หลังจากส่งโทรเลขเสร็จ เดนิสถอนหายใจออก หยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาจิบ

“เร็วกว่าที่คิด… ถึงเราจะตกงานในอนาคต แต่ก็สามารถไปสมัครเป็นคนส่งโทรเลขและมีการงานที่ดีทำได้” เดนิสขบคิดด้วยความภาคภูมิใจเจือกังวล

มันหยิบต้นฉบับโทรเลขขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ หวนนึกถึงขั้นตอนการส่งเมื่อครู่ จากนั้นก็ค่อยๆ ทำสีหน้าแปลกประหลาด

“ว่าแต่… เราส่งข้อความแบบไหนไป?” เดนิสอดไม่ได้ที่จะพึมพำ

ดูเหมือนว่า เนื้อหาของโทรเลขน่าจะเป็นการเยาะเย้ยรองกัปตันและผู้ช่วยกัปตันเรืออย่าง ‘กายาเหล็ก’ และ ‘ถังไม้’ จากนั้นก็เป็นการสารภาพรักกับกัปตันเอ็ดวิน่าด้วยภาษาเร่าร้อน

จบสิ้นแล้ว… ทำไมเราถึงเขียนความในใจออกไปแบบนั้น… ใบหน้าเดนิสพลันซีดเผือด เชื่อโดยสนิทใจว่าตนถูกอิทธิพลจากโอสถเล่นงาน เนื้อหาที่เขียนไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองจากสมองแม้แต่น้อย

มันยุ่งอยู่กับการส่งโทรเลขฉบับใหม่ โดยแจ้งว่าเนื้อหาของฉบับเมื่อครู่ไม่ใช่ฝีมือของตน แต่เป็นกลอุบายของแอนเดอร์สัน

ทันใดนั้น มันตระหนักถึงความผิดปรกติจากภายนอก ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทาหม่นโดยสมบูรณ์ ไม่มีเมฆแม้แต่ก้อนเดียว

ณ โลกดารา เหล่าตัวตนที่ถูกเทพธิดาซ่อนเร้น ทยอยหลุดพ้นจากพันธนาการและกลับสู่โลกความจริง

เฉกเช่นร่างต้นของอามุนด์ ทุกคนกำลังเฉื่อยชาและไม่ตอบสนอง

กระทั่งเทพธิดารัตติกาลก็ยังหยุดนิ่งกลางอากาศด้วยสีหน้าเหม่อลอย ราวกับไม่ได้คิดเผื่อไว้ว่าจะทำสิ่งใดต่อ มีเพียงสัญชาตญาณในการปกป้องตัวเองเป็นอันดับแรก

วายุสลาตัน สุริยันเจิดจรัส และปัญญาความรู้ซึ่งถูก ‘แสงปริซึม’ กักขังไว้ในอาณาจักรเทพส่วนตัว ล้วนได้รับความเปลี่ยนแปลงบางอย่างไม่ต่างกัน ความเกรี้ยวกราดในการตอบโต้ลดลงจากเดิมมาก บางคนตั้งคำถามกับตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ อีกฝ่ายใช่ศัตรูแน่หรือ

เทพแห่งตะเกียงทิ้งหนังสือทองเหลืองทรันซอสต์ทันทีและหนีกลับเข้าไปในตะเกียง คล้ายกับร่างกายถึงขีดจำกัดแล้ว มันอาจเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถจดจำบางสิ่งได้ และพยายามหลีกเลี่ยงตามสัญชาตญาณ

อันทีโกนัสซึ่งเพิ่งฟื้นคืนสติ คล้ายกับใบหน้าของมันเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

เราเป็นใคร? อยู่ที่ไหน? กำลังทำอะไร? เกิดอะไรขึ้นที่นี่?

ณ ดินแดนเทพทอดทิ้ง เงายักษ์ของสุริยันบรรพกาลจางลงจากเดิมมาก มันถอนหายใจแผ่วเบาพลางกล่าวอีกหน:

“จงสว่าง!”

โลกดาราพลันสว่างไสว แสงทะลวงเข้าไปใน ‘ดวงตา’ ของร่างจริงอามุนด์ เหล่าร่างโคลน แม่มดบรรพกาล ปราชญ์เร้นลับ และสิ่งมีชีวิตอื่น

เพียงพริบตา พวกมันทยอยฟื้นคืนสติกลับมา ระยะเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน

กระแสข้อมูลแตกตัวในทันที ผสานเข้ากับสัญลักษณ์โดยรอบและเลือนหายไป

หนวดรยางค์คล้ายงูดำที่มีดวงตา หดกลับอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครทราบว่าปลายทางคือที่ใด

ร่างจริงของอามุนด์จ้องไคลน์ที่เพิ่งเลื่อนลำดับ มันตัดสินใจไม่ฉวยโอกาสสร้างอิทธิพลบางอย่างกับชายหนุ่มซึ่งอยู่ในสภาพไม่มั่นคง เพียงยกมือขึ้นจับกรอบแว่นตาผลึกข้างขวา.

ร่างของมันแยกออกจากกัน กลายเป็นประตูกึ่งจริงกึ่งมายาจำนวนมาก

ประตูทั้งหมดเปิดและปิดในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้ตัวตนอย่างเทพธิดารัตติกาลมิอาจระบุได้ว่าร่างต้นอามุนด์หลบหนีไปทางบานไหน

อันทีโกนัสนั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้หินยักษ์ภายในซากวังสักพัก รู้สึกราวกับเพิ่งผ่านความฝันอันยาวนาน

ภายในปราสาทต้นกำเนิด ไคลน์นั่งบนเก้าอี้เดอะฟูล จดจ่ออยู่กับการรักษาสภาพจิตใจให้มั่นคง

เฉกเช่นคราวก่อน หากจิตใจยังขาดเสถียรภาพ ชายหนุ่มมิอาจพึ่งพาความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ส่วนตัวได้ ทางออกเดียวคือการไปขอให้นักสร้างฝันอาดัมช่วยรักษา แต่นั่นอาจทำให้ยิ่งบ้ามากกว่าเดิม

เมื่อมั่นคงขึ้นเล็กน้อย ไคลน์ตรวจสอบอำนาจใหม่ทันที:

ชื่อของมันคือ ‘ปั่นหัว’!

ไม่เพียงจะประกอบด้วยอำนาจทางประวัติศาสตร์ กาลเวลา ชะตากรรม การเปลี่ยนแปลง และการปกปิดบางส่วน แต่ยังรวมถึงอำนาจในขอบเขตจิตใจอย่าง ‘สมองเสื่อม’ – สามารถลดระดับสติปัญญาของศัตรูได้ง่ายดาย

ขณะไคลน์เตรียมทดสอบเพิ่มเติม สัมผัสวิญญาณของมันถูกกระตุ้น

มีใครบางคนบุกรุกปราสาทต้นกำเนิด!

และถ้าบุกรุกไม่สำเร็จ สัมผัสวิญญาณก็จะไม่ร้องเตือน!

ไคลน์เงยหน้าขึ้น มองไปทางโต๊ะทองแดงยาวลวดลายโบราณ และเห็นหมอกสีเทาอ่อนเริ่มก่อตัวเป็นบานประตูทางฝั่งตรงข้าม

ร่างที่แต่งกายด้วยหมวกปลายแหลมและชุดคลุมสีดำทรงโบราณเดินออกจากด้านในประตู

อามุนด์!

ดวงตาของมิสเตอร์ข้อผิดพลาดรายนี้มีสีเข้มกว่าปรกติเล็กน้อย รอยยิ้มค่อนไปทางบ้า

มันมองไปรอบตัวด้วยท่าทีผ่อนคลาย ขยับกรอบแว่นพลางกล่าว

“ตกใจไหม?”

ไคลน์เตรียมระดมพลังปราสาทต้นกำเนิดเพื่อขับไล่อีกฝ่าย แต่ทันใดนั้นก็พบว่า อามุนด์เองก็ควบคุมปราสาทต้นกำเนิดได้เช่นกัน!

อามุนด์จ้องหน้าไคลน์ ดึงเก้าอี้ออกมานั่งและพูดพลางยิ้ม

“ข้าเลิกกำราบเจตจำนงของราชันเร้นลับภายในร่าง… เมื่อเจ้านั่นเป็นเจ้าของปราสาทต้นกำเนิด ข้าเองก็เป็นเช่นกัน จึงเข้ามาได้ไม่ยากเย็น… วิธีนี้มีความเสี่ยงสูงมาก แม้แต่ข้าก็ไม่เคยคิดจะทดสอบมาก่อน แต่ในเมื่อเจ้าพัฒนามาไกลถึงเพียงนี้ เห็นทีไม่เสี่ยงก็คงจะไม่ได้… น่าตื่นเต้นทีเดียวเชียว ผลลัพธ์ก็ไม่เลว”

ขณะกล่าว ใต้ชุดคลุมของอามุนด์มีหนวดรยางค์ผิวลื่นงอกออกมาทีละหนึ่ง

มันเป็นฝ่ายปลุกราชันเร้นลับให้ตื่นด้วยตัวเอง ยอมกลายเป็นเทพครึ่งบ้าเพื่อให้ได้เข้ามาในปราสาทต้นกำเนิด

……………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ