ขณะกล่าวด้วยเสียงล่องลอย แจ็คเงยหน้ามองโจชัวผู้กำลังสวมถุงมือสีแดงเข้ม
“หิว…”
ทันใดนั้น เด็กชายพลันอ้าปากกว้างฉีกไปถึงใบหู เผยให้เห็นฟันซี่ขาวเรียงราย และน้ำลายสีใสเหนียวข้นไหลหยดจากมุมปาก
เพียงพริบตา แจ็คกระโจนใส่โจชัวด้วยความเร็วสุดน่าทึ่ง เร็วเสียจนเกิดเป็นภาพตกค้างบนพื้นหิน
แม้โจชัวจะตื่นตัวตลอดเวลา แต่ก็ยังตอบสนองการจู่โจมซึ่งหน้าไม่ทัน
ขณะโจชัวยังไม่ทันเคลื่อนไหว เด็กชายแจ็คก็กระโจนจ่อปลายจมูกเรียบร้อยแล้ว
ตึง!
ห่างจากโจชัวไปเล็กน้อย เด็กชายผมสีเหลืองพุ่งกระแทกกับกำแพงล่องหนเสียงดัง
แจ็คยังคงลอยตัวค้างกลางอากาศ ออร่าสีดำกึ่งแดงไหลซึมออกจากร่างอย่างท่วมท้น พวกมันพยายามไหลซึมกัดกร่อนกำแพงล่องหนตรงหน้า
ขณะเดียวกัน นักล่าปีศาจโคลินผู้ยืนอยู่ด้านหลังโจชัวและเดอร์ริค ทำการคุกเข่าหนึ่งข้างและเสียบดาบอาบขี้ผึ้งปักลงบนพื้นหิน
ไม่กี่อึดใจถัดมา วิวทิวทัศน์รอบแท่นบูชาพลันสว่างไสวประหนึ่งแสงอาทิตย์รุ่นอรุณ
โคลินดึงดาบกลับ พร้อมกับแยกร่างเป็นภาพมายาจำนวนหลายร้อยจนเต็มห้องแท่นบูชาซึ่งกำลังส่องสว่าง
ทุกร่างมายาตั้งท่าเตรียมแทง คมดาบจำนวนมหาศาลเริ่มอาบแสงรุ่งอรุณจนสุกสว่างแสบตา
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
ดาบแสงรุ่งอรุณพุ่งเสียบร่างแจ็คจากรอบทิศทางอย่างไร้ความปรานี
ภายใต้แสงแรกแย้มของวันใหม่ ร่างกายสีดำกึ่งแดงมลายหายไปการกระหน่ำโจมตีของพายุดาบแสง
ห้องแท่นบูชาใต้ดินถูกปกคลุมด้วยแสงเจิดจ้าเป็นเวลานาน แสบตาเสียจนเดอร์ริคอดทนจ้องต่อไปไม่ไหว จำเป็นต้องหรี่ตาลง
ก่อนจะปิดสนิท
…
เมื่อร่างกายกระตุกตื่นจากภวังค์ เด็กหนุ่มรีบกวาดสายตามองไปรอบตัวจนพบกับกองไฟและค่ายพักชั่วคราวของหน่วยสำรวจ พวกพ้องหลายคนกำลังนั่งล้อมกองไฟ บางส่วนกำลังยืนเวรยาม
นักล่าปีศาจโคลิน ผู้กำลังนั่งขัดสมาธิข้างเสาหินต้นใหญ่ ลืมตาขึ้นและออกคำสั่งด้วยเสียงทุ้ม
“เราจะเริ่มออกเดินทางในอีกห้าสิบฟ้าผ่า”
ได้ยินเช่นนั้น เดอร์ริครีบแหงนมองด้านบน และพบว่าสายฟ้ามีอัตราการผ่าค่อนข้างต่ำ ความมืดมิดยังคงปกคลุมดินแดนต้องคำสาปแห่งนี้เช่นเคย
เด็กหนุ่มจินตนาการถึงเมืองข้างหน้าและวิหารของพระผู้สร้างเสื่อมทรามภายในเมืองดังกล่าว ก่อนจะเริ่มเกิดความประหม่า
หลังจากใช้เวลาทำใจสักพักจนเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ เดอร์ริครีบกินอาหารและเตรียมตัวเข้าสู่ภาวะพร้อมรบตลอดเวลา
ในวิหารจะมีอะไรบ้างนะ…
เด็กหนุ่มเดินไปปะปนกับทีมสำรวจโดยถือขวานเฮอร์ริเคนไว้ในมือขวา
ภายในค่ายพัก ตะเกียงหนังสัตว์ไส้เทียนไขจำนวนสี่ดวงถูกจุดอย่างพร้อมเพรียง เป็นสัญญาณการเริ่มต้นภารกิจสำรวจ
…
15 ถนนมินส์
ไคลน์เพิ่มความร้อนให้กับอ่างน้ำ รอจนอุณหภูมิพอเหมาะจึงค่อยทิ้งตัวลงอาบ
หลังจากได้ชำระล้างร่างกายจนรู้สึกเบาสบาย ชายหนุ่มเดินถอยหลังทวนเข็มสี่ก้าว และส่งตัวเองเข้าสู่ห้วงมิติเหนือสายหมอกเพื่อทำนายถามเกี่ยวกับวิญญาณมาร
ท่ามกลางพระราชวังโบราณ ไคลน์เอนกายพิงเก้าอี้พร้อมกับก้มหนึ่งตรึกตรองเป็นเวลานาน มันต้องหาข้อสรุปให้ตัวเองว่า ตนควรเลือกใช้เทคนิคทำนายประเภทใด และเขียนประโยคทำนายว่าอย่างไร แน่นอน เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพราะต้องกำหนดให้อยู่ในกรอบความเป็นไปได้ทางศาสตร์เร้นลับ
ไคลน์เงียบงันหลายนาที ก่อนจะโน้มตัวมาด้านหน้าและเขียนประโยคทำนาย :
“วิญญาณมารในซากปรักหักพัง ได้ปิดบังเจตนามุ่งร้ายต่อเราและชารอน”
หลังจากปลดจี้บุษราคัมจากข้อมือซ้าย ชายหนุ่มใช้มือข้างเดียวกันกำโซ่และปล่อยให้ลูกตุ้มวิญญาณลอยเหนือกระดาษประโยคทำนายเพียงเล็กน้อย ตามด้วยการเข้าฌานและสะกดจิตตัวเองให้หลับ
มันพึมพำกับตัวเองสักพัก ก่อนจะลืมตาและสังเกตผล
จี้บุษราคัม…
กำลังหมุนตามเข็มนาฬิกาอย่างบ้าคลั่ง!
หมายความว่า เจตนาร้ายจากวิญญาณมาร สูงกว่าจินตนาการของไคลน์ไปมาก!
แต่ขณะเผชิญหน้ากัน เรากลับไม่ตระหนักถึงจิตมุ่งร้ายแม้แต่น้อย…วิญญาณมารตนนั้นคงมีลำดับสูงและสามารถขัดขวางพลังทำนายได้ประมาณหนึ่ง…หึหึ แต่มันคงคาดไม่ถึงแน่ ว่าหนึ่งในพวกเราจะฝึก ‘การข่มแรงกระหาย’ มานานหลายปี จึงไม่หลงมัวเมาไปกับรางวัลตอนแทบมหาศาล ส่วนอีกคนก็เคยผ่านประสบการณ์ ‘ขอหนังเสือจากเสือ’ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน…
ถอนหายใจหนึ่งครั้ง ไคลน์ส่งตัวเองกลับโลกความจริงและทิ้งตัวลงบนเตียงเย็นเฉียบ
น่าเสียดาย ความร้อนจากเข็มกลัดสุริยันเป็นเพียงภาพมายาทางใจ ไม่ใช่ความอบอุ่นจริงทางร่างกาย…
ก่อนจะหลับสนิท ไคลน์ตัดพ้อเสียงเศร้า
…
ย่านทิศใต้ของสะพาน โบสถ์ฤดูเก็บเกี่ยว
หลังจากเช็ดทำความสะอาดเก้าอี้ตัวสุดท้ายภายในวิหารเสร็จ เอ็มลิน·ไวท์เดินตรงไปหาหลวงพ่อยูทรอฟสกี้อย่างกระตือรือร้น
“ข้าทำงานของวันนี้เสร็จแล้ว!”
ตาแก่ อย่าได้มีความคิดแผลงๆ อย่างการให้ข้าคัดลอกพระคัมภีร์เด็ดขาด!
เอ็มลินสวดภาวนาในใจ
ช่างน่าขัน เป้าหมายการวิงวอนของแวมไพร์หนุ่มได้กลายเป็นพระแม่ธรณีแทนดวงจันทร์ไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
หลวงพ่อยูทรอฟสกี้ก้มมอง ด้วยขนาดของร่างกาย แวมไพร์เอ็มลินจึงดูเหมือนกับเด็ก
บิชอปร่างยักษ์เผยรอยยิ้ม
“พักหลังมานี้ ระหว่างการทำกิจกรรมอุทิศตนด้วยความมุ่งมั่นและสำนึกในบุญคุณของพระแม่ ผมสังเกตเห็นว่าคุณเริ่มตระหนักถึงความผ่อนคลาย จิตใจเริ่มสงบนิ่งและสุขุม ฉะนั้น จงกลับไปเถิด กลับไปซึมซับความสุขอันแท้จริง จากการเต้นของชีพจรแห่งชีวิตอันเกิดจากกิจกรรมข้างต้น”
“ข้ามิได้รู้สึกเช่นนั้นสักนิด!” เอ็มลินปฏิเสธขึงขัง
โดยไม่กล่าวสิ่งใดเพิ่ม หลวงพ่อยูทรอฟสกี้เพียงจ้องมองเอ็มลินด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ตามด้วยการนั่งลงและเริ่มการสวดมนต์ยามราตรี
ริมฝีปากแวมไพร์หนุ่มพลันสั่นกระตุก คล้ายกลับมันต้องการกล่าวบางสิ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกลืนลงคอ และเดินออกจากวิหารฤดูเก็บเกี่ยวโดยปิดประตูตามหลัง
เมื่อกลับถึงบ้าน เอ็มลินพบว่าบ้านของตนมืดสนิท พ่อและแม่ปิดไฟออกไปข้างนอก
มันเริ่มฉุกคิดได้ว่า ค่ำคืนนี้มีงานเลี้ยงรวมตัวของผีดูดเลือดภายในกรุงเบ็คลันด์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ