“ฉันเริ่มจากการนำเหล็กกล้ากับถ่านหินจากชายฝั่งตะวันตกไปขายที่เฟเนพ็อต และนำยาสูบ กาแฟ และโกโก้จากเฟเนพ็อตกลับมาขายที่อาณาจักรอินทิส แต่เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือปลอดภัย การแข่งขันจึงสูงมาก ฉันต้องการถีบตัวเองออกจากตลาดดังกล่าวโดยเร็ว จึงรีบเก็บเงินและเลื่อนลำดับพลัง เพื่อจะได้เปลี่ยนไปค้าขายกับเกาะอาณานิคมแทน แต่โชคร้าย หลังจากฉันเริ่มคุ้นเคยกับเส้นทางเดินเรือและพอจะทำเงินได้บ้าง ขณะกำลังเดินทางไปยังไบลัมตะวันตกครั้งที่สอง เรือของฉันถูกเทรซี่ดักปล้น ในตอนนั้น เธอยังเป็นเพียงสตรีแห่งโรคภัยและมีเรือแค่ลำเดียว มิใช่พลเรือโทโรคภัยเหมือนทุกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทรงพลังมาก การขัดขืนของฉันและพวกพ้องกลายเป็นสิ่งไร้ค่า เทรซี่ไม่ฆ่าคนส่งเดช เพียงปล้นทรัพย์สินของพวกเราไปทั้งหมด รวมถึงตัวฉัน”
สมแล้วที่ได้ชื่อว่าพิสดารกว่าแม่มดคนอื่น…
ไคลน์นั่งฟังอย่างตั้งใจ อาศัยพลังตัวตลกในการควบคุมอารมณ์และระงับความเขินอาย และซักถามออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“พวกคุณกำลังคบกันใช่ไหม”
“ไม่ใช่!” เอลเลนปฏิเสธเสียงแข็ง “เธอใช้กำลังบังคับฉัน! ฉันก็แค่ไม่อยากตาย ท…ทำได้เพียงกัดฟันอดทนเอาไว้ และเหนือสิ่งอื่นใด
“…เธอเป็นผู้หญิง!”
มาดาม ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้นก็ได้ ผมแค่ถามว่าคุณมีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนรึเปล่า… ทำไมต้องออกอาการขนาดนี้… เธอต้องของคุณฉันต่างหาก ที่ยังคงความเป็นสุภาพบุรุษและไม่ถามตรงประเด็นเกินไป…
เฮ่อ… ถึงเกอร์มัน·สแปร์โรว์จะเป็นโจรสลัดอำมหิตและบ้าบิ่น แต่ก็ยังให้เกียรติสตรี… ในจุดนี้คือนิสัยของเราเอง…
ไคลน์ถามต่อโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“คุณชอบกินอาหารประเภทใด? อาหารจานโปรดคืออะไร? ชอบหวานหรือเค็ม? หรือตรงกลาง? ไม่ชอบอาหารประเภทใดเป็นพิเศษไหม? แพ้อาหารรึเปล่า? คำพูดติดปากล่ะ? คุณชอบพูดว่าอะไร”
“…”
ชุดคำถามข้างตนทำให้เอลเลนรู้สึกราวกับตนกำลังอยู่ในความฝัน มิใช่ความจริง
เธอคาดไม่ถึงว่าจะมีใครกล้าถามเรื่องส่วนตัวซอกแซกขนาดนี้ ประหนึ่งโรคจิตที่กำลังตามจีบหญิงสาวสักคนก็มิปาน
ไม่ใช่… คนร้ายลักพาตัวคงไม่ถามไถ่เพื่อหวังผลในเชิงชู้สาว… ต้องแฝงความนัยบางอย่างไว้ อาจเป็นการนำข้อมูลของเราไปใช้ทำบางสิ่ง…
ฮึม! ไม่มีผู้หญิงที่ไหนชอบให้ถามแบบนี้กันหรอกนะ! ไม่ต่างอะไรกับแบบสอบถามของจักรพรรดิโรซายล์เลยสักนิด!
เขาเล็งอะไรไว้กันแน่ ทั้งที่เพิ่งถามเรื่องพวกนั้นออกมา ทำไมถึงยังทำหน้าไร้อารมณ์ได้อีก…
น่ากลัวชะมัด…
เอลเลนเงียบงันไปพักใหญ่ จากนั้น ท่ามกลางสายตาเย็นชาของไคลน์ หญิงสาวตัดสินใจไล่ตอบไปทีละคำถามโดยไม่ตกหล่น
ชายหนุ่มโน้มตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย เริ่มถามในประเด็นถัดไป
“มีท่านั่งประจำบ้างไหม ทำให้ดูหน่อย”
ยิ่งเอลเลนตอบ เธอก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่น กังวลว่าตนจะหายไปโดยมีใครสักคนมาแทนที่!
จนกระทั่ง ‘แบบสอบถาม’ จบลง แต่หญิงสาวก็ยังไม่ผ่อนคลาย ด้วยเกรงว่าภัยคุกคามอาจยังไม่หมดแค่นี้
เราควรกระโดดออกจากรถม้าในตอนที่เขาเผลอดีไหม? เอลเลนคิดเป็นจริงเป็นจัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากพิจารณาจนมั่นใจว่าอีกฝ่ายปราศจากท่าทีคุกคาม หญิงสาวจึงพับเก็บแผนดังกล่าวไปก่อน ภาวนาให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและสันติ
เมื่อไคลน์เสร็จสิ้นขั้นตอนการเก็บรายละเอียดรูปลักษณ์ภายนอก อุปนิสัย บุคลิก ความชอบส่วนตัว และงานอดิเรก มันวกกลับเข้าเรื่องพลเรือโทโรคภัยทันที
“คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเทรซี่บ้าง”
เอลเลนเงียบงันเป็นเวลานาน ริมฝีปากสั่นระริกหลายหน คล้ายกับต้องการกล่าวบางสิ่ง
จนกระทั่งรถม้าเคลื่อนตัวเป็นระยะทางไกล หญิงสาวมอบคำตอบด้วยสีหน้าขื่นขม
“เธอแข็งแกร่งในการต่อสู้ เชี่ยวชาญการพรางตัวและคำสาป สามารถลบตัวตนอย่างสมบูรณ์ได้ชั่วขณะ รวมถึงการเปลี่ยนร่างกายให้เบาเหมือนขนนก สามารถสลับตำแหน่งกับกระจกเงาหรือคทาได้ในพริบตา เชี่ยวชาญเพลิงทมิฬและพลังหอกน้ำแข็ง ขณะต่อสู้ ศัตรูในรัศมีใกล้ตัวจะป่วยไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นได้ทั้งไข้หวัดธรรมดา ปอดบวม กระเพาะอาหารอักเสบ และอีกมาก ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อ อาการป่วยก็ยิ่งทรุดหนัก เคยมีผู้วิเศษบางรายหัวใจวายตายเฉียบพลันมาแล้ว อีกทั้งยังมีพลังสร้างด้ายล่องหน ใช้เพื่อรัดรึงศัตรูให้แน่นิ่ง เธอรู้จักร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดี และสามารถมอบความสุขได้ด้วยการสัมผัส เป็นความสุขในเรื่องอย่างว่า เธอสามารถหว่านเสน่ห์ได้ตามใจชอบ โจรสลัดที่พยายามเข้าใกล้ส่วนมากมักหักห้ามใจไว้ไม่อยู่ เธอค่อนข้างเป็นมิตรกับพวกพ้อง แต่จะโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนกับศัตรู มีงานอดิเรกชอบทำลายสิ่งสำคัญของอีกฝ่าย มอบความเจ็บปวดและสิ้นหวังแสนสาหัสเข้าไปถึงดวงวิญญาณ”
เอลเลนมิได้ลงลึกว่าเทรซี่ทำลายสิ่งสำคัญของผู้อื่นอย่างไรบ้าง แม้จะมีเรื่องน่าขันอยู่บ้าง แต่เรื่องราวส่วนใหญ่มักโหดร้ายเกินกว่าจะเปล่งออกจากปาก ตัวอย่างเช่น เทรซี่เคยบังคับให้สองพ่อลูกร่วมสายเลือดต้องเข่นฆ่ากันเอง หรือกระทั่ง เคยกระตุ้นให้ภรรยาของศัตรูนอกใจ และกระทำเรื่องอย่างว่าต่อหน้าสามี
สมแล้วที่เป็นลำดับ 5 แม่มด ‘ทุกข์ระทม’ ถัดจาก ‘สุขสม’ ขึ้นมาหนึ่งขั้น…
ไคลน์วิเคราะห์รูปแบบการต่อสู้ของเทรซี่ ก่อนจะเริ่มถามข้อถัดไปอย่างสุขุม
“เทรซี่มีสมบัติวิเศษไหม”
“มี เป็นกำไลข้อมือเลี่ยมเพชร เพียงสวมไว้ เทรซี่ก็ยากจะได้รับบาดเจ็บ” เอลเลนออกท่าทางลังเลเมื่อต้องเปิดเผยความลับของพลเรือโทโรคภัยให้คนแปลกหน้าฟัง
ไคลน์ยิงคำถามต่อไปอีกสักพัก จนกระทั่ง ชายหนุ่มเว้นวรรคหนึ่งลมหายใจและเอนตัวมาข้างหน้า
“เทรซี่ค้าช่วยนิกายแม่มดค้ามนุษย์ใช่ไหม”
ไคลน์คาใจประเด็นนี้มานาน นับตั้งแต่ได้ยินข้อมูลจากปากพลเรือโทธารน้ำแข็ง
นิกายแม่มดร่วมมือกับอินซ์·แซงวิลล์เพื่อทำงานบางอย่างให้ราชวงศ์โลเอ็น เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับอาคารโบราณที่ยังระบุไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหน…
เทรซี่ร่วมขบวนการนี้ในฐานะนักค้ามนุษย์…
ขณะเดียวกัน ‘บาลุน’ ที่แฮงแมนระบุว่าอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของทาสจากทวีปใต้ และชนพื้นเมืองจำนวนมากบนเกาะอาณานิคม ได้ปรากฏตัวในอาคารโบราณหลังดังกล่าวด้วย
รวมถึงประเด็นที่บอดี้การ์ดของคาพิน นักค้ามนุษย์ชื่อดังแห่งกรุงเบ็คลันด์ ล้วนมาจากเส้นทาง ‘ผู้ตัดสิน’ ทั้งหมด โดยเส้นทางดังกล่าวอยู่ในความควบคุมของราชวงศ์โลเอ็นและเฟเนพ็อต
ข้อมูลข้างต้นอยู่ในมือไคลน์มาสักระยะแล้ว แต่กลับยังมิอาจปะติดปะต่อเข้าด้วยกันได้อย่างราบรื่น จนกระทั่งพบเบาะแสเพิ่มเติมจากพลเรือโทโรคภัย
“อะไรคือนิกายแม่มด?” เอลเลนสับสน
“คุณไม่จำเป็นต้องทราบ” ไคลน์ตอบสุขุม
หากเธอรู้ความจริงว่าแม่มดคืออะไร และเกิดคำถามตามมาว่า พลเรือโทแห่งโรคภัยผู้เลอโฉม แท้จริงแล้วอาจเคยเป็นโจรสลัดสกปรก ป่าเถื่อน และหื่นกามมาก่อน เมื่อถึงตอนนั้น เธออาจเกิดภาวะคลุ้มคลั่งฉับพลันก็เป็นได้…
โชคดีว่าฉันเป็นคนดี ไม่ต้องขอบใจกัน…
ไคลน์รำพันประหนึ่งผู้มีพระคุณ
เอลเลนระงับความสงสัย เริ่มเล่าต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ