ราชันเร้นลับ 620 – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ
ตอนนี้ของ ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ราชันเร้นลับ 620 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
โซทอธใช้มือลูบใต้เบ้าตา กล่าวเสียงทุ้ม
“บอส… ท่านผู้นั้นจะมาถึงในวันมะรืน”
บิลต์หันไปมองด้วยสีหน้าอึมครึม
“ฉันรู้”
“พวกเรามีแค่สองทางเลือก หนึ่ง จ้างเกอร์มัน·สแปร์โรว์โดยไม่สนใจว่าเขาน่าเชื่อถือหรือไม่ และสวดภาวนาให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด สอง ยอมทิ้งธุรกิจทั้งหมดในเมืองโอลาวี ออกทะเลไปพร้อมเงินสดและเครื่องเพชร เปลี่ยนตัวเองเป็นโจรสลัด ผมเชื่อว่า ลูกเรือและนักผจญภัยที่ล่าโจรสลัดจำนวนมาก จะต้องติดตามบอสไปแน่” โซทอธเว้นวรรค “บอส สมัยยังเป็นนักผจญภัย คุณเปี่ยมไปด้วยภาวะผู้นำ พลังงาน และความเด็ดเดี่ยว แผนไล่ล่าโจรสลัดของคุณไม่เคยผิดพลาด ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมเชื่อว่าคุณคงมีคำตอบในใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องปรึกษาคนอย่างผม”
“ฮะฮะ… อย่ายอกันนักเลย” บิลต์ยิ้มแห้ง “ฉันไม่ใช่นักล่าโจรสลัดที่ปราศจากความเกรงกลัวอีกแล้ว ชีวิตแสนสะดวกสบายอันยาวนานจะกัดกร่อนจิตใจและฝีมือผู้คนเสมอ จิตใจของฉันอ่อนแอถึงขั้นไม่กล้าเลื่อนลำดับ คล้ายกับว่า ฉากที่พวกพ้องแปรเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดยังคงตามหลอกหลอนจนถึงทุกวันนี้”
ฟู่ว…
มันถอนหายใจยาว ใบหน้าเริ่มเคร่งขรึม
“แต่นายพูดถูก ตอนนี้ไม่ใช่เวลามัวลังเล ต้องรีบตัดสินใจกระทำบางสิ่งโดยเร็ว”
เมื่อกล่าวจบ บิลต์มองข้าง ใช้ปลายคางชี้ไปยังหน้าต่าง
โซทอธผงะเล็กน้อย มันเข้าใจความนัย
…
ไคลน์ออกจากผับมะนาวหวาน เดินตรงไปตามถนน เตรียมเช่ารถม้าที่มุมสี่แยก
ทันใดนั้น เสียงกระจกแตกดังจากชั้นสองของตัวอาคาร เงาลางใครบางคนร่วงหล่นลงมาตรงหน้าชายหนุ่ม
คงเป็นเพราะความพิสดารที่สมุดบันทึกอันทีโกนัสเคยมอบให้ และคงเป็นเพราะความพิสดารที่เกิดขึ้นบนเกาะแบนชี ที่ภัตตาคารมะนาว ที่สำนักงานโทรเลข ความคิดแวบแรกในหัวไคลน์หลังจากได้ยินเสียงหน้าต่างแตกจึงเป็น :
บิลต์·แบรนโด้ตายแล้ว! ตายในลักษณะนอนแผ่ไปบนพื้นด้วยดวงตาเบิกโพลง!
ราวกับตนเปิดประตูห้องเข้าไปเห็นมารดาของรีเอล·บีเบอร์เสียชีวิตบนเก้าอี้นอน ศพเน่าเปื่อย ดวงตาหนึ่งข้างหลุดร่วงกลิ้งไปบนพื้นเมื่อถูกเขย่าตัว
หลังจากควบคุมความคิดฟุ้งซ่านที่แล่นผ่าน ไคลน์เริ่มเห็นชัดเจนว่าใครตกลงมาจากหน้าต่าง
เป็นโซทอธ·เอียน มิใช่บิลต์·แบรนโด้
นอกจากนั้น อีกฝ่ายอยู่ในสภาพปรกติ ลมหายใจยังครบถ้วน
ให้ตายสิ… ความฉิบหายไล่ตามมาถึงที่…
ภายในใจไคลน์เริ่มปั่นป่วน ลองคาดเดาสถานการณ์ตามความเคยชิน
หากทำตัวตามนิสัยแก่นแท้ มันคงแสร้งมองไม่เห็นโซทอธ·เอียนที่กระโดดลงมาเรียกร้องความสนใจ เลือกหันหลังวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด จนกว่าจะสลัดหลุดโดยสมบูรณ์
พลเรือเอกดวงดาวก็คงถูกความรู้ไล่ล่าในทำนองนี้กระมัง…
น่าเสียดาย ปัจจุบันเราคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์ นักผจญภัยเสียสติ ไม่สามารถวิ่งหนีไปจากเรื่องเล็กน้อยได้… เฮ่อ… ช่างสวมบทบาทได้เก่งกาจอะไรเช่นนี้… เป็นมืออาชีพก็ลำบากเหมือนกัน…
ไคลน์หยุดเดิน หันไปมองโซทอธในเสื้อลินิน แจ็คเก็ตสีน้ำตาล โดยอีกฝ่ายกำลังใช้มือกดหมวกทาบลงบนหน้าอก กล่าวอย่างนอบน้อม
“มิสเตอร์เกอร์มัน·สแปร์โรว์ พวกเรามีงานที่สำคัญมากต้องการรบกวนคุณ”
นั่นปะไร…
ไคลน์ตอบเสียงเย็น
“ช่วงนี้ฉันไม่ว่าง”
“ขอรบกวนเวลาของคุณไม่มาก ช่วยรับฟังรายละเอียดก่อน จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธก็ยังไม่สาย” โซทอธหนวดเคราคมเข้มกล่าวด้วยเสียงวิงวอน
เกรงว่าหลังจากฟังจบ ถึงตอนนั้นคงไม่มีโอกาสให้ปฏิเสธแล้ว… เดี๋ยวก่อน… แบบนั้นก็ยิ่งดีเลยไม่ใช่หรือ ถ้าบิลต์·แบรนโด้กับโซทอธ·เอียนพยายามข่มขู่เรา ก็แค่เปลี่ยนพวกมันให้เป็นขุมสมบัติและตะกอนพลังเท่านั้นเอง…
ไคลน์ไตร่ตรองอย่างจริงจัง และพบว่าตนค่อนข้างมีอิสระมากในทะเล ด้วยพลังระดับพลเรือโจรสลัด ไม่สิ่งใดที่ทำไม่ได้
ชายหนุ่มหยิบนาฬิกาพกสีทองออกจากกระเป๋าเสื้อ กดปุ่มกลไกเปิดฝาตรวจสอบ
“ให้เวลาห้านาที”
“แค่นั้นก็เกินพอครับ” โซทอธชี้ไปยังทางเข้าผับมะนาวหวานด้านหลังไคลน์
กลับมายังห้องเดิม ไคลน์มองนาฬิกาแขวนบนผนังและพูดเสียงขรึม
“เหลืออีกสามนาทีสิบสองวินาที”
ท่าทีดังกล่าวทำให้บิลต์เริ่มสงบลง มันเชื่อว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์คือบุคคลที่สามารถบรรลุภารกิจสำคัญของตนได้
“มิสเตอร์เกอร์มัน ผมได้ยินว่าคุณมีพลังที่สามารถแปลงโฉมเป็นใครก็ได้ เหมือนกับพลเรือโทวายุ คีลิงเกอร์” บิลต์รีบจบคำถามโดยเร็ว
ชิ… ใครมันเป็นคนปล่อยข่าว?
ไคลน์ขมวดคิ้วชัดเจน หันไปจ้องตาบิลต์
หากข่าวลือเรื่องที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์แปลงโฉมเป็นใครก็ได้แพร่สะพัดออกไป ไคลน์พบว่าตนจะตกอยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างยากลำบาก เพราะนั่นจะทำให้ผู้คนนึกถึง ‘ยุบพองหิวโหย’ ของคีลิงเกอร์ หรือไม่ก็อาจเดาได้ว่า ตนคือผู้ไร้หน้าบนเส้นทางนักทำนาย โดยไม่ว่าจะทางใดก็ล้วนเป็นปัญหาทั้งสิ้น ในกรณีแรก มันอาจถูก ‘สภานักสิทธิ์สนธยา’ ที่ว่าจ้างคีลิงเกอร์ส่งคนมาตามล่า และถ้าเป็นกรณีหลัง มันก็อาจถูกโบสถ์รัตติกาลตามล่าเช่นกัน
จริงอยู่ พลังของโบสถ์รัตติกาลไม่ทรงพลังมากนักในทะเล และไคลน์มิได้กังวลว่าตัวเองจะเป็นอันตรายสักเท่าไร เพียงแต่ มันไม่อยากเป็นศัตรูกับเหยี่ยวราตรี
หากเกิดเรื่องเช่นนั้น มันคงไม่มีทางเลือกนอกจากละทิ้งตัวตนเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เพราะนักผจญภัยบ้าบิ่นที่มีมุมอ่อนโยนได้ถูกผู้คนรู้จักเป็นวงกว้างพอสมควรแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จในการ ‘สวมบทบาท’
เมื่อบิลต์ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงในดวงตาเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เนื้อตัวมันเริ่มสั่นเทา รีบกล่าวพลางหัวเราะกลบเกลื่อนความประหม่า
“ฮะฮะ… เป็นข่าวลือจากกาฬมรณะน่ะ”
เทรซี่… หล่อนพยายามเอาคืนเรา… ย่อมได้ แล้วมาดูกันว่าฝ่ายไหนจะโดนเชือดก่อน…
ณ ถนนวิลเลียมส์
ชายชาวฟุซัคสูงเกือบสองเนตรคนหนึ่ง กำลังพยายามค้นหาเบาะแสบางอย่าง
ทันใดนั้น มันถูกกระตุ้นโดยบางสิ่งจนต้องเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบ
แสงที่คล้ายกับท้องฟ้ายามเช้าพลันแผ่ออกจากร่างกาย อาคารบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงเริ่มไม่คมชัดจนดูคล้ายภาพมายา
ขณะเดียวกัน บนถนนเกิดเพลิงไหม้ รอบตัวยังเกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติอีกหลายสิ่ง
นึกแล้วเชียว พวกเซารอนก็ส่งคนมาด้วย…
ชายชาวฟุซัคพลันกระจ่างในข้อสงสัยที่มีมานาน สายตากวาดมองไปตามถนน
มันพบกับเหยี่ยวราตรีจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่าสามหน่วย บ้างสวมถุงมือดำ บ้างสวมถุงมือแดง
มันเห็นปลายกระบอกปืนสีดำเข้ม ผิวสลักลวดลายซับซ้อน ยื่นยาวลงจากหลังคาสูง เล็งมายังตน โดยที่ผู้คนผ่านไปมาไม่พบความผิดปรกติดังกล่าวแม้แต่น้อย
มันยังเห็นฮารามิก·ไฮเดิน อาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์จักรกลไอน้ำประจำกรุงเบ็คลันด์ เห็นอาร์ชบิชอปแห่งโบสถ์รัตติกาล แอนโทนี่·สตีเวนสัน
ขณะเดียวกัน ตรงมุมสายตาเหลือบเห็นคนของตระกูลเซารอนกำลังยกมือขึ้นเหนือศีรษะด้วยท่ายอมจำนน
สายลับระดับสูงของฟุซัครีบทำในสิ่งเดียวกัน
มันยอมแพ้โดยไม่ต้องคิดนาน!
การยอมจำนนอาจไม่ช่วยให้รอดชีวิต แต่ถ้าไม่ยอมจำนน ชีวิตของมันจบลงเพียงเท่านี้แน่นอน
…
หกโมงครึ่งในตอนเย็น
ไคลน์กลับมายังผับมะนาวหวานอีกครั้ง เดินขึ้นไปหาบิลต์และโซทอธ
มันกล่าวเสียงขรึม
“จ่ายล่วงหน้าห้าร้อยปอนด์ บอกมาว่าฉันต้องแปลงโฉมเป็นใคร”
บิลต์ฉีกยิ้มกว้าง สีหน้าปลื้มปีติ มันรีบส่งสัญญาณมือให้โซทอธ พลางมอบคำตอบด้วยสีหน้าขึงขัง
“ผู้บัญชาการกองทัพเรือโลเอ็นที่ทรงอำนาจมากที่สุดในน่านน้ำกึ่งกลางทะเลโซเนีย”
“ท่านเจ้าคุณพลเรือเอกอมิรุส·รีเวลต์! ครึ่งเทพตัวจริง!”
……………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ