โบเวน ผู้ช่วยของไอเซนการ์ด·สแตนธอน เดินลงมาสำรวจชั้นล่าง ตรวจสอบมุขหน้าต่าง เตรียมปิดหน้าต่างบานสุดท้าย
แต่ทันใดนั้น เงาดำหนึ่งพุ่งเข้าใส่ ร่อนลงอย่างนุ่มนวลบนกำแพงที่ยืนออก
แมวจรจัดพันธุ์บลูช็อตแฮร์
เมื่อโบเวนเห็นว่าดวงตากลมโตสีเหลืองของอีกฝ่ายจ้องมาทางตน มันอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
“ที่นี่ไม่มีอาหารหรอกนะ”
เนื่องจากงานนักสืบมักก่อให้เกิดความเคียดแค้น นอกจากนั้นยังมีความลับหายสิ่งต้องปกปิด พ่อครัวและคนรับใช้ในบ้านไอเซนการ์ด·สแตนธอนจึงถูกจ้างในฐานะพนักงานนอกเวลา มาทำงานเพียงวันละไม่กี่ชั่วโมง จะไม่มีการเตรียมอาหารมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ไม่มีอาหารเหลืออยู่เลยหลังจากจบมื้อค่ำ
แมวบลูช็อตแฮร์อ้าปาก แต่มิได้ส่งเสียงร้อง ‘เมี้ยว’ เหมือนแมวปรกติ มันกล่าวเป็นภาษามนุษย์
“ผมคือเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ ต้องการพบมิสเตอร์ไอเซนการ์ด·สแตนธอน”
“…” แม้ว่าโบเวนจะเป็นผู้วิเศษสังกัดโบสถ์ปัญญาความรู้ แต่ลำดับยังไม่สูงนัก ความรู้ในเชิงศาสตร์เร้นลับจึงไม่มาก นี่คือครั้งแรกที่มันเคยเห็นแมวพูดได้ จึงเป็นธรรมดาที่จะอึ้งไปพักใหญ่
หลายวินาทีผ่านไป โบเวนได้สติกลับมา นึกทบทวนคำพูดของแมวบลูช็อตแฮร์
มันพูดว่า… เชอร์ล็อก·โมเรียตี้?
นักสืบชื่อดังคนนี้ไม่ธรรมดา!
เขากลายร่างเป็นแมว ไม่สิ… ควบคุมแมว!
เป็นพลังที่พิสดารและน่ากลัวมาก!
โบเวนรีบรวบรวมสติ ไม่ตอบคำถามของแมวบลูช็อตแฮร์โดยตรง เพียงเอื้อมมือไปปิดกระจกหน้าต่าง
จัดการเสร็จ มันลดเสียงลงและกล่าว
“ตามผมมา”
แมวบลูช็อตแฮร์กระโดดลงจากแท่นบนกรอบมุขหน้าต่าง เดินตามหลังโบเวนในลักษณะหางชี้ขึ้น จนกระทั่งถึงชั้นสอง มันยืนดูอีกฝ่ายเคาะประตูห้องนอนของไอเซนการ์ด
“มีอะไรหรือ?” ไอเซนการ์ดที่สวมชุดนอนลายขวาง เปิดประตูออกมาถาม
มันกำลังเพลิดเพลินอยู่กับยาสูบก่อนเข้านอน
โบเวนชี้ไปยังแมวบลูช็อตแฮร์ที่กำลังก้มหมอบอยู่ด้านข้าง
“มิสเตอร์เชอร์ล็อก·โมเรียตี้อยากพบคุณ”
คิ้วของไอเซนการ์ด – เจ้าของจอนสีขาวตรงขมับ เลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ามอง ถอยหลังสองก้าว อนุญาตให้แมวบลูช็อตแฮร์เดินเข้ามาในห้องนอนอย่างสบายใจ
“คุณรีบเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ตื่นให้ตรงเวลา พวกเรายังมีคดีที่รอการสืบสวน” ไอเซนการ์ดออกคำสั่งกับโบเวนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
รอจนกระทั่งผู้ช่วยออกไป มันปิดประตู หันไปมองแมวบลูช็อตแฮร์ที่กำลังนั่งข้างเก้าอี้เอนหลัง หัวเราะในลำคอแผ่วเบา
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะมีพลังพิเศษประเภทนี้ ผมเคยกังวลว่าคุณจะแวะมาหาตรงๆ”
“ผมสังเกตเห็นเครื่องหมายตกใจ” แมวบลูช็อตแฮร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ว่ากันตามตรง สีหน้าแววตาที่แมวกำลังแสดง ผิดไปจากธรรมชาติจนดูน่าตกตะลึง หากใครมาเห็นเข้าคงเกิดความรู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง เส้นขนทั่วร่างลุกตั้งชัน
แต่ไอเซนการ์ดมิได้ตอบสนองเหมือนคนปรกติ เพียงหยิบกล้องยาสูบ นั่งบนลงเก้าอี้เอนหลัง หายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้าด้วยสีหน้าเพลิดเพลิน กล่าวพลางยิ้ม
“ผมเชื่อในความหลักแหลมของคุณ”
“ขอบคุณที่ชม” แมวบลูช็อตแฮร์เหยียดอุ้งเท้าขึ้น ทาบอกและทักทายอย่างสุภาพ
ไอเซนการ์ดจ้องมองสักพัก ลูบคลำกล้องยาสูบ ยิ้มและกล่าวต่อ
“คุณคงเข้าใจสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว… อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่กล้าตรวจสอบผมอย่างเข้มงวด กังวลว่าจะถูกผมพบตัวและแจ้งโบสถ์รัตติกาลกับจักรกลไอน้ำ หึหึ… หากถูกผมสืบจนรู้ตัวจริง คงไม่เป็นผลดีกับพวกมันสักเท่าไร ทางนั้นคงมีครึ่งเทพแฝงตัวอยู่… นี่ไม่ใช่การคาดเดาเลื่อนลอย แต่เกิดจากการวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล ตัวผมเองก็อาศัยอยู่บนถนนเส้นนี้มานานหลายปี… ดังนั้น มนุษย์และสัตว์จึงไม่ถูกขัดขวางหากพยายามเข้ามาหาผม… เล่าถึงตรงนี้ คุณคงพอจะเดาได้แล้ว… เมื่อใดที่คุณออกจากบ้านผม พวกมันจะลงมือสะกดรอย… ได้คิดวิธีแก้ปัญหาเตรียมไว้หรือยัง? เฮ่อ… ด้วยเงินจำนวนมากขนาดนี้ การขนออกไปโดยให้ไม่เตะตาไม่ใช่เรื่องง่าย… ผมขอเดานะ แผนของคุณก็คือ ให้ผมฝากเงินเข้าบัญชีใบบัญชีหนึ่ง จากนั้นก็จะให้คนจำนวนมาก ทยอยถอนออกไปตามธนาคารสาขาต่างๆ นอกเบ็คลันด์?”
กล่าวถึงตรงนี้ ไอเซนการ์ดยิ้มแห้งๆ
“นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะคิดได้ แต่คงปฏิบัติจริงได้ลำบาก”
บลูช็อตแฮร์ไม่ตอบตรงๆ เพียงเผยรอยยิ้มแฝงเลศนัย
“ผมอยากได้ห้องว่างและเทียนไขสามเล่ม”
“ไม่มีปัญหา” ไอเซนการ์ด·สแตนธอนไม่ถามซักไซ้ เล่าต่อไปว่า “หุ้นถูกขายออกไปในราคาหนึ่งหมื่นสองพันปอนด์ ผู้ซื้อคือออเดรย์·ฮอลล์ บุตรสาวของเอิร์ลฮอลล์ อา… หักค่าจ้างทนายความและทีมบัญชี หักค่าโฆษณาอีกหกร้อยปอนด์ หักค่าชำระอากรแสตมป์ 0.5% และภาษีเงินได้ประเภท D อีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์… ยอดเงินสุดท้ายคือ 8,940 ปอนด์”
ภาษีเงินได้ประเภท D หมายถึงภาษีจากรายได้ในเชิงการค้าและอุตสาหกรรมบางชนิด
ภาษี… เงินกว่าสองพันปอนด์อันตรธานหายในพริบตา… แมวบลูช็อตแฮร์ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด
ไคลน์เคยเป็นเหยี่ยวราตรี ตอนนั้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในภายหลังกลายเป็นนักสืบเอกชน รายได้ค่อนข้างยากที่จะตรวจสอบ จึงไม่คิดยื่นภาษี ถัดมาคือช่วงชีวิตของนักผจญภัย และเนื่องจากค่าหัวของโจรสลัดถูกยกเว้นภาษี ไคลน์จึงไม่เคยกังวลเกี่ยวกับภาษีมาก่อน ดังนั้น แม้ว่าไอเซนการ์ด·สแตนธอนจะเอ่ยถึงภาษีในการพบกันคราวก่อน แต่ชายหนุ่มก็มิได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่าจะมีผลมากนัก แต่กลับกลายเป็นว่า โลกแห่งความจริงช่างโหดร้ายเหลือเกิน
ส่วนคำถามที่ว่า เหตุใดไคลน์ถึงไม่ต้องเสียภาษีจากการขายหุ้นบริษัทจักรยานให้ฟามี่·เคจในตอนแรก นั่นเป็นเพราะรัฐบาลโลเอ็นสนับสนุนการลงทุนครั้งแรกในกลุ่มสิ่งประประดิษฐ์ประเภทความคิดสร้างสรรค์ ผู้ขายจึงไม่ต้องเสียภาษี
หลังจากเงียบงันสักพัก หนวดแมวบลูช็อตแฮร์กระตุกเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ