“ใช่ครับ” ถุงมือแดงคนเดียวกันพยักหน้าและเสริม “ผมไม่ได้ถามเรื่องนี้โดยตรง แต่สามารถบอกได้ว่าดอน·ดันเตสคุ้นเคยกับทวีปใต้เป็นอย่างดี มีประสบการณ์มากมายที่นั่น”
หึหึ ดอน·ดันเตสคงจงใจทำให้นายคิดแบบนั้น… เลียวนาร์ดไม่เชื่อเนื้อหาของโทรเลขมากนัก สงสัยว่านี่คงเป็นตัวตนอีกหนึ่งชั้นของสัตว์ประหลาดที่รอดชีวิตมาจากยุคสมัยที่สี่
อย่างไรก็ตาม มันมิได้เสนอแนวคิดของตัวเอง เพราะไม่มีเหตุผลรองรับที่ดีพอ
โซสต์มิได้ใส่ใจมากนัก เพียงหันหน้าไปทางหนึ่งและกล่าว
“คุณมีเบาะแสเกี่ยวกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์บ้างไหม?”
“นักผจญภัยเสียสติรายนี้ปรากฏตัวบนท้องทะเลอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสามสัปดาห์หลัง แล้วเขากลับมาที่เบ็คลันด์ตอนไหน?” ในฐานะ ‘ฝันร้าย’ ซินดี้ตอกย้ำความฉงนก่อนหน้า “ฉันไม่สนใจว่าเวลาที่แน่นอน แต่คาใจมากเรื่องที่เขาสามารถเดินทางมาถึงกรุงเบ็คลันด์ภายในเวลาสั้นๆ ด้วยระยะทางที่ไกลขนาดนั้น… พวกคุณก็รู้ เมืองหลวงของโลเอ็นอยู่ห่างจากทะเลค่อนข้างมาก”
โซสต์พยักหน้ารับแผ่วเบา
“ในการประชุมเมื่อครู่ อาวุโสคนหนึ่งในตั้งคำถามแบบเดียวกัน ตำแหน่งสุดท้ายที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์ปรากฏตัว เมื่อคำนวณจากเวลาและระยะทาง ไม่มีโอกาสที่เขาจะลอบแทรกซึมวิหารนักบุญแซมมวลเมื่อคืนได้เลย… แน่นอน ผมกำลังหมายถึงในสถานการณ์ปรกติ… คนงานที่หายไปบอกกับเราว่า ขณะกำลังทำความสะอาดจัตุรัสด้านนอก จู่ๆ ก็ควบคุมร่างกายไม่ได้ หมดสิทธิ์ร้องขอความช่วยเหลือโดยสิ้นเชิง จากนั้นก็เห็นสีสันทั้งหมดฉูดฉาดขึ้นราวกับภาพวาดสีน้ำมัน ร่างกายเบาหวิวและลอยขึ้น… หลังจากนั้นเขาก็หมดสติไป และเมื่อตื่นอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่งในเขตตะวันออก… พลังในช่วงแรกสอดคล้องกับ ‘การเข้าสิง’ ของวิญญาณอาฆาตที่ผู้คุมเคยอธิบายให้ฟัง ส่วนพลังอย่างหลังสอดคล้องกับ ‘เทเลพอร์ต’ ของนักท่องเที่ยว”
“ถ้าเป็น ‘เทเลพอร์ต’ จริง เกอร์มัน·สแปร์โรว์ก็สามารถปรากฏตัวในเบ็คลันด์ได้ตลอดเวลา”
ในฐานะหน่วยหัวกะทิของเหยี่ยวราตรี ถุงมือแดงมีข้อมูลในเชิงศาสตร์เร้นลับมักกว่าเพื่อนร่วมงานในระดับเดียวกัน จึงคุ้นเคยกับโอสถที่ชื่อวิญญาณอาฆาตและนักท่องเที่ยว
หลังจากฟังคำอธิบายของหัวหน้า ถุงมือแดงอีกหนึ่งคนเสริมอย่างรอบคอบ
“พลเรือเอกโลหิตซึ่งมีข่าวลือว่าถูกเกอร์มัน·สแปร์โรว์ล่าไปแล้ว… เป็นวิญญาณอาฆาต”
รายละเอียดสอดคล้องกัน!
และเหตุผลเรื่องที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์สามารถใช้พลังของวิญญาณอาฆาตได้อย่างไร คำอธิบายไม่ซับซ้อน ง่ายที่สุดคือการนำตะกอนพลังของเหยื่อไปให้ช่างฝีมือสร้างเป็นสมบัติวิเศษ
ซินดี้เล่าเสริม
“กล่าวกันว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์สามารถแปลงโฉมได้… ผู้คุมถูกแปลงโฉมสวมรอยเพื่อแทรกซึมเข้าไปในประตูยานิส”
อีกหนึ่งข้อมูลที่สอดคล้อง!
“สรุปได้เยี่ยม” โซสต์ยกมือขึ้นมาลูบหน้าผาก “พิจารณาจากข้อมูลเมื่อครู่ เราสามารถฟันธงได้ว่าคนร้ายคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์ และถ้าอนุมานจากทฤษฎีดังกล่าว การคาดเดาและแนวทางการสืบสวนในตอนแรกของเรากำลังไปผิดทาง เกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่จำเป็นต้องมีผู้สมรู้ร่วมคิด เขาสามารถแปลกโฉมเป็นใครก็ได้ ลอบเข้ามาในวิหารทุกวันด้วยใบหน้าที่แตกต่าง สำรวจโครงสร้างอาคารและเวรยามของผู้คุม วิธีนี้จะแนบเนียนยิ่งกว่าการมีผู้สมรู้ร่วมคิด”
ในฐานะวิหารของโบสถ์รัตติกาลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเบ็คลันด์ มีสาวกจำนวนมหาศาลหลั่งไหลมาสวดวิงวอนที่วิหารนักบุญแซมมวลในทุกวัน ไม่มีทางที่บิชอปจะจดจำใบหน้าได้หมด
“นั่นหมายความว่า รายชื่อผู้ต้องสงสัยก่อนหน้าไม่มีความหมายแล้ว?” เลียวนาร์ดยกมือขึ้นถาม น้ำเสียงค่อนข้างมีอารมณ์ร่วม
“ถูกต้อง ตอนนี้พวกเราต้องทุ่มความสนใจไปยังเกอร์มัน·สแปร์โรว์เป็นหลัก สำหรับผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ เราจะไม่ทำมากไปกว่าการสอบสวนเบื้องต้น” กล่าวจบ โซสต์ปรบมือ “เอาล่ะ แยกย้ายไปทำตัวยุ่งกันได้แล้ว”
เลียวนาร์ดไม่โต้แย้ง เตรียมเดินทางไปหาจิตแห่งจักรกล ทูตพิพากษา และ MI9 เพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม
…
เช้าตรู่วันอังคาร ไคลน์ตื่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติหลังจากหลับยาว ภายในใจเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย สงบสุข และมีความสุขที่ยากจะบรรยาย
พลังพิเศษของนักจิตบำบัดมีประโยชน์มาก… แถมยังเหมาะสมมิสจัสติสที่ชอบมองโลกในแง่บวกประหนึ่งแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมายังโลก… ไคลน์ลุกพรวดและเดินไปเปิดผ้าม่าน
ชายหนุ่มดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพของดวงอาทิตย์สีทองด้านนอก จิตใจที่ถูกกระตุ้นให้มีแรงฮึดอีกครั้ง เริ่มวางแผนระยะยาวในอีกสองสามเดือนถัดไป หรือแม้กระทั่งหนึ่งปี
อันดับแรก มองหาหุ่นเชิดตัวใหม่…
อันดับที่สอง อาศัยตัวตนดอน·ดันเตสและหุ่นเชิดใหม่และทำการ ‘กำกับการแสดง’ เพื่อย่อยโอสถ…
อันดับที่สาม ระหว่างนั้นก็คอยรวบรวมวัสดุสำหรับปรุงโอสถจอมเวทพิสดาร… จากบรรดาทั้งหมด เราสามารถถามเบาะแสของมารพิสดารได้จากเดอะซันน้อย ส่วนหัวขโมยโลกวิญญาณคงต้องปรึกษากับมิสเตอร์อะซิก เพราะโลกแห่งความตายเองก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกวิญญาณ…
อันดับที่สี่… สืบสวนหาเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์ รวมถึงสืบสวนอินซ์·แซงวีลล์และครึ่งเทพที่ฆ่าปิดปากกัปตันคลั่ง… ไม่มีใครเหมาะแก่การเป็นเหยื่อสังเวยในพิธีกรรมเลื่อนลำดับไปมากกว่าพวกมันอีกแล้ว… แต่ต้องคอยระวัง 0-08 ให้ดี คอยตรวจสอบว่ามีความบังเอิญเกิดขึ้นอย่างผิดปรกติหรือไม่… อา ระหว่างการสืบสวน งานหลักของเราคือการสนับสนุนจากวงนอก ส่วนงานอันตรายจะตกเป็นของแม่มดทริสซี่”
แนวทางของไคลน์ทวีความชัดเจน แม้ลึกๆ แล้วจะยังหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจอีกต่อไป
ถอนสายตากลับจากระเบียง ไคลน์เดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนบุคคล
เพียงไม่นาน ชายหนุ่มเปิดประตูด้วยสีหน้าสดชื่นและพบกับบุรุษรับใช้ริชาร์ดสัน รวมถึงพ่อบ้านวอลเตอร์ที่กำลังยืนรอด้านนอก
สุภาพบุรุษรายหลังผู้สวมถุงมือสีขาว โค้งศีรษะคำนับอย่างนอบน้อม
“อรุณสวัสดิ์นายท่าน กำหนดการของวันนี้มีเพียงเรื่องเดียว บ่ายสามโมงตรง นายท่านต้องแวะไปเยือนสโมสรนายทหารผ่านศึกไบลัมตะวันออก เข้าร่วมกิจกรรมของส.ส. มัคท์… เขาเป็นสมาชิกของพรรคหัวก้าวหน้า การตอบรับคำเชิญในวันนี้จะเท่ากับเป็นการแสดงจุดยืนทางการเมืองเบื้องต้นของนายท่าน ตอนนี้ยังมีเวลาให้ตัดสินใจ”
ไคลน์ครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ