ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 111

สรุปบท ตอนที่ 111 ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 111 ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ – ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า โดย Internet

บท ตอนที่ 111 ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ของ ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 111 ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์

ฟางเจ๋อยืนงุนงงอยู่ตรงนั้น ไม่ทราบว่าหนิวโหย่วเต้ากำลังอ้อมค้อมอันใดอยู่

หยวนฟางก็มองตาปริบๆ ไม่ทราบว่าเต้าเหยี่ยกำลังทำอะไรอยู่

จูซุ่นมองหนิวโหย่วเต้าพลางขมวดคิ้วอยู่ตลอด

ไห่หรูเยวี่ยคล้ายได้ฟังเรื่องตลกขบขันครั้งใหญ่อีกครั้ง เอ่ยถากถางว่า “เจ้าจะทำให้ข้าปกครองมณฑลจินโจวไปได้ตลอดอย่างนั้นเรอะ? ฟังจากความหมายในคำพูดของเจ้า คล้ายจะบอกว่าเจ้ามีอิทธิพลต่อวังสวรรค์หมื่นวิมานมากกว่าข้า ข้าอยากจะฟังนักว่าเจ้าเกี่ยวข้องกับวังสวรรค์หมื่นวิมานอย่างไร ถึงได้กล้าพูดจาโอหังเช่นนี้!”

“ไม่ๆๆ” หนิวโหย่วเต้ารีบโบกมือปฏิเสธ “องค์หญิงใหญ่เข้าพระทัยผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับวังสวรรค์หมื่นวิมาน กระหม่อมไม่รู้จักกับคนของวังสวรรค์หมื่นวิมานเลยสักคนพ่ะย่ะค่ะ”

ไห่หรูเยวี่ยยิ้มหยันอีกครา “เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประตูเมืองหลวงแคว้นจ้าวหันไปทิศไหน คนของวังสวรรค์หมื่นวิมานเจ้าก็ไม่รู้จักเลยสักคน แล้วเจ้ายังคิดว่าจะควบคุมสถานการณ์ในมณฑลจินโจวได้อีกหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าค่อยๆ จิบชาเข้าไปอึกหนึ่ง จากนั้นเอ่ยเนิบๆ อีกครั้งว่า “ผู้ที่จะควบคุมสถานการณ์ในมณฑลจินโจว ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเมืองหลวงแคว้นจ้าวหรือวังสวรรค์หมื่นวิมานเลย ยงผิงจวิ้นอ๋องก็สามารถช่วยเป็นกำลังให้องค์หญิงใหญ่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”

“เขาน่ะหรือ?” ไห่หรูเยวี่ยยิ้มเยาะพลางเอ่ยว่า “เจ้าก็ลองให้เขาแยกทางกับเฟิ่งหลิงปอดูสิ!”

หนิวโหย่วเต้าวางถ้วยน้ำชาลง หันไปมองจูซุ่นแล้วกล่าวว่า “ข้าต้องการแผนที่ แผนที่ใต้หล้า!”

จูซุ่นมองท่าทีของไห่หรูเยวี่ย เห็นนางไม่ได้คัดค้าน จึงหันหลังออกไปจัดการด้วยตัวเองทันที

จูซุ่นทราบแก่ใจดี หนิวโหย่วเต้าพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว คงไม่เอาชีวิตมาล้อเล่นแน่นอน แม้ว่าองค์หญิงใหญ่จะเอาแต่เยาะเย้ยถากถาง แต่องค์หญิงใหญ่ก็ยังอดทนฟังต่อ นั่นหมายความว่าองค์หญิงใหญ่ก็อยากทราบเช่นกันว่าสิ่งที่หนิวโหย่วเต้าพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ เพียงแต่องค์หญิงใหญ่ไม่มีทางปล่อยให้ใครหน้าไหนมาบิดเบือนชักจูงความคิดได้

ส่วนตัวเขา อันที่จริงก็อยากทราบคำตอบเช่นกัน อยากรู้ว่าหนิวโหย่วเต้าจะช่วยคลี่คลายสิ่งที่เรียกว่าปัญหาที่มาจ่ออยู่ตรงหน้าขององค์หญิงใหญ่ได้อย่างไรกันแน่

ผ่านไปครู่หนึ่ง จูซุ่นหอบแผนที่ม้วนหนึ่งเข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ได้ยืมมือผู้ใดทั้งสิ้น

หนิวโหย่วเต้าลุกขึ้นยืน โบกมือสั่งการหยวนฟางและฟางเจ๋อ “กางออก!”

ทั้งสองเดินเข้าไปรับแผนที่มาจากมือจูซุ่น วางบนพื้นห้องโถงแล้วคลี่กางออกมา พอกางออกมาได้ครึ่งหนึ่ง เมื่อบนแผนที่เผยให้เห็นแคว้นเยี่ยนและแคว้นจ้าว หนิวโหย่วเต้าก็ส่งสัญญาณให้ทั้งสองหยุดมือ จากนั้นให้ทั้งสองดึงแผนที่ขึ้นมา ถือตั้งไว้ในแนวขวาง

หลังจากจ้องมองแผนที่อย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง หนิวโหย่วเต้าก็หันกลับไปหาไห่หรูเยวี่ยอีกครั้งพลางผายมือเชิญ “องค์หญิงใหญ่โปรดเสด็จเข้ามาทอดพระเนตรเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ไห่หรูเยวี่ยแค่นเสียงเหอะคราหนึ่ง เดินนวยนาดเข้ามาอย่างสง่างาม กวาดตามองแผนที่แวบหนึ่ง นางเองก็คุ้นเคยกับแผนที่นี้เป็นอย่างดี สตรีธรรมดาไม่สนใจสิ่งที่ไร้ความสวยงามและน่าเบื่อหน่ายเช่นนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ด้วยสถานะของนางในยามนี้ ทำให้นางจำเป็นต้องสัมผัสคลุกคลีกับสิ่งเหล่านี้

หนิวโหย่วเต้ายื่นนิ้วไปทางแคว้นจ้าว ชี้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นจ้าว “มณฑลจินโจว!” จากนั้นก็ชี้ไปที่จังหวัดชิงซานในมณฑลหนานโจวของแคว้นเยี่ยนที่อยู่ติดกัน นิ้วแตะลงบนตำแหน่งของอำเภอชางหลู “ยงผิงจวิ้นอ๋องอยู่ที่นี่!” จากนั้นก็หันไปถามไห่หรูเยวี่ยอีกครั้ง “องค์หญิงใหญ่รู้สึกว่าสถานการณ์นี้เป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

ไหนเลยจะมีสถานการณ์อันใด? ไห่หรูเยวี่ยอยากจะตะโกนว่า ‘มองไม่ออก’ ใส่หน้าเขายิ่งนัก แต่สุดท้ายก็เอ่ยไปว่า “มณฑลจินโจวยิ่งใหญ่ทรงอำนาจ อำเภอชางหลูพื้นที่คับแคบ สี่ทิศถูกปิดล้อม!”

หนิวโหย่วเต้าทราบว่าวาจาของนางแฝงเจตนาดูแคลนอำเภอชางหลูเอาไว้ แต่สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาเป็นความจริง มณฑลหนึ่งแห่งของที่นี่เทียบได้กับเขตมณฑลในชาติก่อนของเขา อำเภอชางหลูย่อมเป็นเพียงอำเภอแห่งหนึ่ง เทียบกันไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

ทว่าตอนนี้มิใช่เวลามานั่งแข่งความรู้ทั่วไปกับสตรีนางนี้ เขาชี้นิ้ววนรอบจังหวัดชิงซานอีกครั้ง “หากยงผิงจวิ้นอ๋องรวมเป็นหนึ่งกับจังหวัดชิงซานได้ สถานการณ์จะเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? จะมีอาณาเขตเชื่อมติดกับมณฑลจินโจวใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

จูซุ่นเอ่ยตอบ “อาณาเขตเชื่อมต่อกัน เช่นนั้นแล้วอย่างไรเล่า?” เขาจะปล่อยให้เจ้านายมาตอบคำถามด้อยปัญญาข้อหนึ่งได้อย่างไร หากตอบผิดไปเจ้านายมิต้องอับอายหรอกหรือ?

หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “ง่ายมาก เมื่อยงผิงจวิ้นอ๋องยึดครองจังหวัดชิงซานได้ ยงผิงจวิ้นอ๋องก็จะสามารถให้ความร่วมมือกับองค์หญิงใหญ่คอยพึ่งพาอาศัยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้พ่ะย่ะค่ะ”

“เฮอะ!” ไห่หรูเยวี่ยหัวเราะหยัน “จังหวัดชิงซานเล็กจ้อยจะเป็นที่พึ่งพาให้ข้าได้อย่างไร?”

หนิวโหย่วเต้าขยับนิ้ว เลื่อนลงไปที่จังหวัดกว่างอี้ “หากรวมจังหวัดกว่างอี้เข้าไปอีกแห่งล่ะพ่ะย่ะค่ะ? จังหวัดกว่างอี้ประชากรมากมายเสบียงพรั่งพร้อม ตอนนี้มีทหารชั้นยอดนับแสนนาย! หลังจากยงผิงจวิ้นอ๋องยึดจังหวัดชิงซานได้ย่อมได้ไพร่พลเพิ่ม องค์หญิงใหญ่อย่าลืมนะพ่ะย่ะค่ะ เฟิ่งหลิงปอและยงผิงจวิ้นอ๋องล้วนทำงานให้สำนักหยกสวรรค์ หากเคลื่อนไหวประสานกัน ไพร่พลของสองจังหวัดคอยช่วยเหลือกันจะเป็นอย่างไรเล่าพ่ะย่ะค่ะ?”

ไห่หรูเยวี่ยหันหลังกลับ ค่อยๆ เดินกลับไปที่เก้าอี้ประธาน จากนั้นหันหน้ากลับมาแล้วนั่งลงไป เอ่ยขึ้นเนิบๆ ว่า “ฟังจากเจตนาของเจ้าแล้ว พอทำแบบนี้แล้วเจ้าก็จะเป็นต่อแล้วใช่หรือไม่ จะหาผลตะวัดชาดมาได้หรือไม่ก็คงไม่สำคัญแล้วสินะ? ”

หนิวโหย่วเต้าโบกมือปฎิเสธ เป็นฝ่ายเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้านางด้วยตัวเอง “อาการป่วยของบุตรชายพระองค์ย่อมเป็นเรื่องสำคัญเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ แยกแยะกันชัดเจน รักษาก็ส่วนรักษาพ่ะย่ะค่ะ เพื่อคลายทุกข์ให้องค์หญิงใหญ่ กระหม่อมยังคงจะคิดหาทางขอผลตะวันชาดมาให้องค์หญิงใหญ่ให้ได้พ่ะย่ะค่ะ! ที่กระหม่อมเสนอแผนการคลายความกังวลให้องค์หญิงใหญ่ ก็เพราะกระหม่อมมีเงื่อนไขอย่างหนึ่งที่อยากแลกเปลี่ยนกับองค์หญิงใหญ่พ่ะย่ะค่ะ”

“เงื่อนไขหรือ?” ไห่หรูเยวี่ยเลิกคิ้วจากนั้นเอ่ยว่า “ลองว่ามาสิ”

หนิวโหย่วเต้าจึงกล่าวไปว่า “องค์หญิงใหญ่ไม่อาจล่าช้าได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ จำเป็นต้องส่งกำลังทหารไปช่วยยงผิงจวิ้นอ๋องยึดครองจังหวัดชิงซานให้เร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ!”

ที่เขาต้องเดินทางมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง นั่นก็เป็นเพราะทางซางเฉาจงไม่อาจถ่วงรั้งไว้ได้แล้วจริงๆ ทางซางฉางเจ้าอาศัยข้ออ้างว่าต้องการสร้างความมั่นในอำเภอชางหลูในการถ่วงเวลาไว้ แต่ไม่มีทางถ่วงรั้งไปตลอดได้ ทางสำนักหยกสวรรค์ไม่มีทางปล่อยให้เรื่องตามหากาทมิฬแสนตัวยืดเยื้อนานเกินไป

ไห่หรูเยวี่ยเอ่ยอย่างเฉยชา “รีบร้อนอันใด เจ้าไปหาผลตะวันชาดมาให้ได้ก่อนแล้วค่อยส่งกำลังทหารไปก็ยังไม่สาย!”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ความหวาดหวั่นที่ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนมีต่อหนิงอ๋องพระองค์ก็ทรงทราบดี แรงกดดันบีบคั้นจากทางราชสำนักแคว้นเยี่ยน ทำให้สำนักหยกสวรรค์เริ่มพิจารณาแล้วว่าจะทอดทิ้งท่านอ๋องดีหรือไม่ ยงผิงจวิ้นอ๋องไม่สามารถรอต่อไปได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ! ขอบังอาจกล่าวถ้อยคำที่อาจทำให้องค์หญิงใหญ่ขุ่นเคือง การจะนำผลตะวันชาดมาได้ก็ต้องให้เวลากระหม่อมด้วยมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ ระยะเวลาในการเดินทางไปกลับก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย หากว่าในระหว่างนี้อาการป่วยของเซียวเทียนเจิ้นกำเริบขึ้นมาอย่างกระทันหัน เมื่อถึงเวลานั้นองค์หญิงใหญ่ดูแลตัวเองไม่ได้ แล้วองค์หญิงใหญ่ยังจะมีอำนาจมากพอจะตัดสินใจเรื่องส่งทหารไปหรือพ่ะย่ะค่ะ? หรือว่าองค์หญิงใหญ่คิดจะกลับเมืองหลวงจริงๆพ่ะย่ะค่ะ?”

“ขอทูลองค์หญิงใหญ่ตามตรง ทางยงผิงจวิ้นอ๋องมีแรงกดดันมหาศาลนัก ใกล้จะต้านไม่อยู่แล้ว ครั้งนี้หากกระหม่อมไม่สามารถทูลขอให้องค์หญิงใหญ่เคลื่อนพลได้ ยงผิงจวิ้นอ๋องจะหลบหนีออกไปทางทะเล ต่อให้วันหน้าองค์หญิงใหญ่อยากร่วมมือกับท่านอ๋องก็เกรงว่าคงจะไม่มีโอกาสแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“หนีออกไปทางทะเลอย่างนั้นหรือ? ซางเจี้ยนปั๋วชื่อเสียงองอาจระบือนามจะให้กำเนิดบุตรชายขี้ขลาดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!” ไห่หรูเยวี่ยแค่นเสียงเย็นชา ฉวยโอกาสด่าไปประโยคหนึ่ง ขณะเดียวกันก็หาทางลงให้ตัวเอง “ให้เวลาข้าไตร่ตรองเรื่องนี้สักหน่อย!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หนิวโหย่วเต้าประสานมือพลางเอ่ยว่า “ขอเพียงตกลงเรื่องนี้ได้ กระหม่อมจะออกเดินทางไปขอผลตะวันชาดให้องค์หญิงใหญ่ทันทีพ่ะย่ะค่ะ!”

……………………………………………………

[1] หมายถึง คนมีอำนาจอิทธิพลถึงพลาดท่าเสียทีก็ไม่มีทางสิ้นอำนาจบารมีง่ายๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า