ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 161

ตอนที่ 161 ชีวิตดั่งละคร

หากว่า ‘สามี’ คนนั้นคือเต้าเหยี่ยจริงๆ ล่ะก็ จะให้เต้าเหยี่ยทนรับไหวได้อย่างไร?

เฮยหมู่ตานเองก็เป็นสตรี ต่อให้อยู่ในมุมมองของฝ่ายสตรี หากว่าบุรุษคนไหนมาทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าคนมากมายในที่สาธารณะ สตรีคนไหนจะรับไหว?

ทั้งสี่ทราบถึงสถานะตัวตนของหนิวโหย่วเต้า วาจานี้ของหนิวโหย่วเต้า ฟังอย่างไรก็คล้ายเป็นคำถากถางเสียดสี จึงตระหนักได้ว่าข่าวลือดูเหมือนจะเป็นความจริง!

ถังอี๋มองหนิวโหย่วเต้าด้วยสีหน้าสงบราบเรียบพลางเอ่ยถามว่า “คุณชายใหญ่ ท่านนี้คือ?”

เซ่าผิงปอแนะนำให้เล็กน้อย “จางซาน! ทูตส่งสารที่เดินทางมาจากแคว้นจ้าว ลูกน้องใต้บัญชาของใต้เท้าจูเก่อสวิน!”

ลูกน้องของราชทูตจูเก่อสวินแห่งแคว้นหานอย่างนั้นหรือ? ถังอี๋ไม่ทราบว่าเขากลายเป็นลูกน้องจูเก่อสวินได้อย่างไร แต่รู้ดีว่าชื่อนี้เป็นชื่อปลอมแน่นอน นางประสานมือคำนับ ไม่เอ่ยอันใด

หนิวโหย่วเต้าประสานมือคำนับกลับ ไม่เอ่ยอันใดเช่นกัน กวาดตามองซูพั่วและถังซู่ซู่ เมื่อเห็นว่าคนเหล่านี้ล้วนไม่กล้าเปิดโปงตัวตนของเขา เขาก็วางใจ

“ไล่คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากเหลาสุรา” เซ่าผิงปอยกมือชี้ไปทางเหลาสุราแห่งหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำ สั่งการลงไป

สายตาของหนิวโหย่วเต้ากวาดมองไปอย่างรวดเร็ว พิจารณาสภาพที่ตั้งของเหลาสุรา ครึ่งหนึ่งตั้งอยู่บนฝั่ง อีกครึ่งยื่นลงไปในแม่น้ำ ฝั่งที่ยื่นลงไปแม่น้ำยังมีระเบียงยื่นออกไปให้ชมทิวทัศน์แม่น้ำด้วย ดูมีระดับทีเดียว

ไม่นานนัก แขกเหรื่อในเหลาสุราล้วนถูกไล่ออกมา คนทั้งหมดบนท่าเรือย้ายไปที่เหลาสุรา คนที่มีสิทธิ์เข้าไปในเหลาสุรามีไม่มากนัก แน่นอนว่าพ่อครัวย่อมมีสิทธิ์นั้นด้วย

เซ่าผิงปอและถังอี๋เดินเคียงไหล่เข้าไปในเหลาสุรา ตรงไปยังระเบียงชมทิวทัศน์ที่อยู่ด้านหลัง เป็นภาพที่ดูงดงามทีเดียว

หนิวโหย่วเต้าที่ตามเข้ามาหลังจากนั้นสังเกตสภาพแวดล้อมภายในเหลาสุราอย่างรวดเร็ว ถูกนำทางตรงไปยังห้องครัว เซ่าผิงปอพาเขามาเป็นพ่อครัวจริงๆ ด้วย

ห้องครัวของเหลาสุรากว้างขวาง คนงานประจำห้องครัวห้าหกคนมองดูพวกเขา พ่อครัวหน้ากลมหูกางก้าวเข้ามาประสานมือ เอ่ยถามว่า “ไม่ทราบว่าสหายท่านนี้เป็นพ่อครัวจากร้านไหนหรือ?”

จู่ๆ ก็มาแจ้งพวกเขาว่าเชิญยอดพ่อครัวมา ให้พวกเขาคอยเป็นลูกมือช่วยเหลือ เขาเองก็นับเป็นคนมีชื่อเสียงในแวดวงนี้ ภายในใจไม่ค่อยสบอารมณ์ น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหาเรื่อง

แม่งเอ้ย คิดว่าข้าเป็นพ่อครัวจริงๆ อย่างนั้นหรือ! หนิวโหย่วเต้าบ่นในใจ เขาเองก็ไม่สบอารมณ์เช่นกัน วุ่นวายเพราะถังอี๋จนได้ เรื่องที่บังเอิญเจอหน้ากันก็แล้วไปเถอะ แต่สุดท้ายต้องกลายมาเป็นพ่อครัว ต้องมองดูเซ่าผิงปอกับถังอี๋หัวร่อต่อกระซิก ซ้ำอีกประเดี๋ยวเขายังต้องประเคนอาหารเลิศรสให้สุนัขชายหญิงคู่นี้อีก แล้วจะให้เขาทนไหวได้อย่างไร

ชิ้ง! หนิวโหย่วเต้าพลันชักกระบี่ออกมาครึ่งหนึ่ง ให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง

“…..” พ่อครัวผงะไปเล็กน้อย จากนั้นรีบหดหัวทันที พาลูกมือเดินคอตกออกไป

กระบี่กลับเข้าฝัก หนิวโหย่วเต้าหันมาเอ่ยกับผู้บำเพ็ญเพียรที่ตามเข้ามาเฝ้า “ห้องครัวเป็นพื้นที่หวงห้าม รบกวนถอยออกไปด้วย”

คนผู้นั้นเอ่ยถาม “ห้องครัวกลายเป็นพื้นที่หวงห้ามตั้งแต่เมื่อไร?”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ทักษะการทำอาหารของเราไม่เผยแพร่ต่อภายนอก ถ้าไม่เคารพกฎก็ไม่ต้องกิน”

“…..” ผู้บำเพ็ญเพียรคนนั้นก็ไม่พูดอะไรมากเช่นกัน ค่อยๆ หันหลังเดินออกไป

“ช้าก่อน!” หนิวโหย่วเต้าเรียกเขาไว้อีกครั้ง “เอาอุปกรณ์เครื่องเขียนมาให้ด้วย”

ผู้บำเพ็ญเพียรคนนั้นชะงักเท้าหันกลับมา “ทำอาหารจะเอาอุปกรณ์เครื่องเขียนมาทำไม?”

หนิวโหย่วเต้าชี้ไปรอบๆ ห้องครัว “ห้องครัวนี้ขาดวัตถุดิบที่ข้าต้องการ ข้าจะเขียนรายการให้ แล้วพวกเจ้าก็ไปซื้อมา”

ผู้บำเพ็ญเพียรเดินออกไป หนิวโหย่วเต้าเดินรอบห้องครัว สังเกตดูจนทั่ว

ไม่นานผู้บำเพ็ญเพียรก็กลับมา แน่นอนว่านำอุปกรณ์เครื่องเขียนมาด้วย

หลังจากฝนหมึกแล้ว หนิวโหย่วเต้าก็เขียนรายการของหลายสิบอย่าง สะบัดกระดาษเล็กน้อย ยื่นส่งให้ “ไปซื้อมา!”

ผู้บำเพ็ญเพียรรับไปอ่านเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไป

พวกเฮยหมู่ตานส่งสายตาให้กัน ไม่รู้ว่าหนิวโหย่วเต้าจะทำอันใด ต้องใช้เครื่องปรุงมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ?

“อย่ามองสิ่งที่ไม่ควรมอง” หนิวโหย่วเต้าหันมองรอบข้าง ให้พวกเฮยหมู่ตานถอยออกไปหน่อย ก่อนจะยกพู่กันเขียนบางสิ่งอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จากนั้นวางพู่กันลง เป่ากระดาษให้แห้ง พับทบเก็บไว้

บนระเบียงชมทิวทัศน์ ผู้บำเพ็ญเพียรที่เพิ่งออกมาจากห้องครัวผู้นั้นนำเอาใบรายการใบนั้นมายื่นส่งให้เซ่าผิงปอ เอ่ยว่า “ล้วนเป็นสมุนไพรทั้งสิ้นขอรับ”

ถังอี๋ที่อยู่ข้างๆ นิ่งเงียบ ตั้งใจฟัง

หลังกวาดตามองดูรายชื่อวัตถุดิบบนรายการแล้ว เซ่าผิงปอเอ่ยถามว่า “อาหารที่กินก่อนหน้านี้ก็คล้ายว่าจะมีสมุนไพรอยู่ด้วยกระมัง?”

ผู้บำเพ็ญเพียรเอ่ยตอบ “มีขอรับ เท่าที่ข้าเห็น ดูเหมือนจะมีของจำพวกขิงกับกระเทียมอยู่ด้วย”

เซ่าผิงปอยื่นรายการคืนให้ เอ่ยว่า “จัดซื้อตามที่ระบุไว้ในรายการ”

ภายในห้องครัว มีคนที่ไม่สมควรเดินเข้ามาผู้หนึ่งเดินเข้ามา ถังซู่ซู่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“เต้าเหยี่ย!” เฮยหมู่ตานร้องเตือน

หนิวโหย่วเต้าที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างเหลียวมองผู้มาเยือน ค่อยๆ หันกลับมา ยันกระบี่ไว้เบื้องหน้า มองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายมิยิ้ม ดูแล้วคล้ายกำลังเย้ยหยันมากกว่า

ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน ถังซู่ซู่เอ่ยถามเสียงขรึม “เจ้ามาที่นี่ทำไม?”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “ข้าจะไปที่ไหนก็ได้ เกี่ยวอะไรกับท่าน?”

ถังซู่ซู่กล่าวว่า “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าสังหารเจ้าหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยตอบ “ท่านเองก็คิดจะสังหารข้ามาหลายครั้งแล้วมิใช่หรือ แล้วมีครั้งไหนที่ทำสำเร็จบ้างเล่า? ครั้งนี้ท่านก็สังหารข้าไม่ได้เช่นกัน!” เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีคล้ายจะระเบิดโทสะออกมา เขาจึงเอ่ยต่อว่า “ทำไม? คิดจะลงมือหรือ? ท่านน่าจะรู้ดีว่าตงกัวเฮ่าหรานทิ้งสิ่งใดไว้บนตัวข้า ต่อให้ท่านลงมือก็ทำอะไรข้าไม่ได้ หากเกิดเสียงดังวุ่นวายขึ้นมา เซ่าผิงปอมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อจะปกป้องตัวเองแล้ว ข้าคงทำได้เพียงเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์กับถังอี๋ออกไป ข้าเองก็อยากเห็นนักว่าสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ยังมียางอายอยู่หรือไม่!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า