ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 163

ตอนที่ 163 วางเพลิงเหลาสุรา

ทั้งสี่เข้าใจแล้ว ก็คือจะฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายไม่คิดว่าพวกเขาจะหลบหนีออกไปเช่นนี้หลบหนีออกไป

เพียงแต่ทั้งสี่ไม่เข้าใจ ยังไม่ทันได้คลุกคลีอะไรกับเซ่าผิงปอ เหตุใดเต้าเหยี่ยถึงคิดว่าเซ่าผิงปอผู้นั้นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง?

หนิวโหย่วเต้าไม่พูดอะไรกับพวกเขาอีก เดินไปที่ข้างโต๊ะหั่นผักตัวยาว โน้มตัวลงไปจับมือจับที่อยู่บนพื้นกระดาน ดึงไม้กระดาษแผ่นหนึ่งให้เปิดออก มองเห็นแม่น้ำที่อยู่ด้านล่าง

ห้องครัวนี้ค่อนข้างกว้างขวาง ครึ่งหนึ่งอยู่บนฝั่ง อีกครึ่งยื่นลงไปในน้ำเหมือนอย่างเหลาสุรา

และสาเหตุที่ห้องครัวทำช่องแบบนี้ขึ้นมา ก็เพื่อจะใช้เป็นจุดทิ้งเศษสกปรก หลังจากห้องครัวทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย ขยะจะถูกทิ้งลงในแม่น้ำผ่านช่องทางนี้

ความจริงขยะในแต่ละวันของทั้งเหลาสุราจะถูกทิ้งลงไปในแม่น้ำสายนี้ ทันทีที่เข้ามาในห้องครัวหนิวโหย่วเต้าก็กวาดตามองทันที คอยมองหาจุดทิ้งเศษขยะอันนี้ตั้งแต่เริ่ม หากไม่มีความคิดเช่นนั้นก็คงไม่ทันสังเกตเห็นแผ่นไม้ที่ดูคล้ายรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นไม้แผ่นนี้

“รีบไป! พยายามอย่าให้เกิดเสียง” หนิวโหย่วเต้าที่เปิดแผ่นไม้ออกเอ่ยเร่ง

พวกเฮยหมู่ตานกระโดดลงไปทีละคน ทิ้งตัวลงสู่สายน้ำอย่างแผ่วเบา หายลับไปในสายน้ำ

หนิวโหย่วเต้าปิดแผ่นไม้ลงไป รีบเดินไปที่ประตูห้องครัว คอยฟังเสียงความเคลื่อนไหวทางด้านนอกอยู่หลังบานประตูครู่หนึ่ง ที่เขาให้พวกเฮยหมู่ตานหนีไปก่อน ก็เพราะต้องการหยั่งเชิงดูเล็กน้อย หากพวกเฮยหมู่ตานถูกพบตัวเข้า แต่เขายังอยู่ในห้องครัว เช่นนั้นเขาก็ยังพอหาข้ออ้างมาชี้แจงได้

เมื่อแน่ใจว่าไม่มีเสียงความเคลื่อนไหวครึกโครมอันใด เขาก็รีบไปที่มุมห้องอีกครั้ง เปิดฝาของถังไม้ใบหนึ่งขึ้นมา

ในถังไม้เต็มไปด้วยน้ำมันก๊าดที่ใช้จุดไฟของห้องครัว เขาหิ้วถังไม้ขึ้นมา หากระบวยตักน้ำมาอันหนึ่ง ตักน้ำมันก๊าดสาดใส่ผนังห้องครัว

เชือกป่านเส้นหนึ่งที่อยู่ในห้องครัวถูกเขาเอาไปจุ่มในน้ำมันก๊าด ก่อนจะสะบัดเชือกโยนออกไป ลากปลายด้านหนึ่งไปไว้ตรงช่องทิ้งเศษขยะ ใช้ตะบันไฟจุดที่ปลายด้านนั้น ยกแผ่นไม้ที่ปิดช่องทิ้งขยะขึ้น จากนั้นกระโดดลงไป หายไปในสายน้ำที่อยู่ด้านล่างอย่างเงียบๆ

ส่วนเชือกชุบน้ำมันก๊าดเส้นนั้นก็ลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟไหม้ลามตามเส้นเชือกไปยังมุมผนัง จากนั้นลุกไหม้ขึ้นไปบนมุมผนัง ลามเลียไปตามผนังไม้ที่ถูกสาดน้ำมันก๊าดไว้ กระจายตัวไปทั่วผนังทั้งสี่ด้าน

ถึงอย่างไรถังอี๋ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา เซ่าผิงปอคิดจะให้เขาทำอาหารให้พวกเขาสองคนกินอย่างนั้นหรือ? เขาไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น!

แต่แน่นอน เขาเองก็ไม่ได้ใจแคบขนาดนั้นเช่นกัน จุดไฟทำอาหารไม่ได้ แต่จุดไฟเผาเหลาสุราให้พวกเจ้าได้อยู่ ดูสิว่าพวกเจ้าจะเสพสุขกันต่อไปได้หรือไม่

ในตอนแรก คนด้านนอกได้กลิ่นเหม็นไหม้ ยังหลงนึกว่าเป็นกลิ่นควันไฟจากในห้องครัว ต่อมาสังเกตได้ถึงความผิดปกติ มีควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาด้านนอก ควันไฟบางส่วนลอยเข้ามาในเหลาสุราด้วย

มีคนวิ่งไปที่ห้องครัวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นทันที ผลคือมองเห็นเปลวไฟลุกลามออกมาด้านนอก

ประตูห้องครัวถูกถีบจนเปิดออก จู่ๆ ก็มีลมพัดเข้าไปในห้องครัวอย่างกะทันหัน เปลวเพลิงจึงลุกโหมออกมาด้านนอกทันที ทำเอาผู้บำเพ็ญเพียรตกใจ รีบกระโดดถอยกลับออกมาอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก คนที่อยู่นอกเหลาสุราก็สังเกตเห็นเพลิงไหม้เช่นเดียวกัน

“ไฟไหม้! ไฟไหม้!”

มีบางคนตะโกนเสียงดังขึ้นมา เถ้าแก่เหลาสุราตะโกนโวยวายเสียงดังยิ่งกว่า เหลาสุราทั้งหลังล้วนสร้างขึ้นมาจากไม้ เนื่องจากสร้างเอาไว้ริมแม่น้ำ จึงมีการทาน้ำมันไม้เคลือบทับเอาไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันความชื้น เมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้นเช่นนี้ก็เท่ากับจบเห่แล้ว!

เซ่าผิงปอที่กำลังหารือเรื่องงานกับนายทหารหลายคนบนระเบียงชมทิวทัศน์ก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกัน มีควันหนาทึบพวยพุ่งออกมาจากด้านหนึ่งของเหลาสุรา เพลิงโหมลุกลามออกมาด้านนอก

ควันไฟลอยมาตามลม ทำให้ทางนี้มีเสียงไอดังขึ้นมาไม่หยุด

ผู้บำเพ็ญเพียรคนหนึ่งทะยานเข้ามา “คุณชายใหญ่ เหลาสุราแห่งนี้ไม่ปลอดภัย โปรดออกไปจากที่นี่เถอะขอรับ!”

เซ่าผิงปอตะคอกถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

ผู้บำเพ็ญเพียรตอบ “ไฟไหม้ห้องครัวขอรับ”

“นั่นคือห้องครัวหรือ?” เซ่าผิงปอผงะไปเล็กน้อย

เดิมทีแม่น้ำก็เป็นจุดที่มีลมพัดไปมาอยู่แล้ว เมื่อเปลวไฟที่ลุกลามออกมาด้านนอกได้แรงลมส่งเสริม มันก็ยิ่งลุกโชนอย่างรุนแรง ควันหนาทึบพวยพุ่งมาทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง

ผู้บำเพ็ญเพียรกล่าวว่า “คุณชายใหญ่ขอรับ เปลวเพลิงยากจะควบคุมได้ ที่นี่อันตราย โปรดออกไปจากที่นี่เถอะขอรับ”

เซ่าผิงปอกำมือป้องปากพร้อมไอออกมา เขาโบกแขนเสื้อปัดควัน เดินอาดๆ กลับเข้าไปในเหลาสุรา

ควันไฟหนาทึบภายในเหลาสุรายิ่งทำให้ยากจะลืมตาได้ ผู้บำเพ็ญเพียรจับแขนเขาไว้พร้อมนำทางเขาออกไปอย่างรวดเร็ว

ผู้คนที่สำลักควันต่างมุ่งขึ้นไปยังต้นลมถึงจะหลบเลี่ยงควันหนาทึบได้ เมื่อหันมองกลับไปอีกครั้ง เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงครู่เดียว ทว่าควันหนาทึบได้ปกคลุมทั่วทั้งเหลาสุรา เปลวเพลิงลุกลามเผาไหม้ไปเกือบครึ่งของเหลาสุรา

เซ่าผิงปอที่อาการสำลักควันทุเลาลงแล้วรู้สึกหายใจได้คล่องขึ้น เขามองไปรอบๆ พร้อมเอ่ยถาม “พวกจางซานที่อยู่ในครัวล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า