ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 177

ตอนที่ 177 สถานการณ์เปลี่ยนแปลง

“โอ้ ความปรารถนาของสังขารยากจะเลี่ยงได้ เช่นนั้นคงต้องลองดูหน่อยแล้ว” หนิวโหย่วเต้าพยักหน้ารับ กวาดมองไปรอบๆ ถือโอกาสขณะที่ไม่มีผู้ใดข้ามสะพานเชื่อมหุบเขา เอ่ยถามว่า “เถ้าแก่ให้การรับรองเป็นอย่างดีเช่นนี้ ผู้น้อยรู้สึกตกใจอยู่บ้างจริงๆ ท่านทำเช่นนี้เพราะเหตุใดกันแน่?”

ฉู่อันโหลวเอ่ยยิ้มๆ “ท่านแม่บ้านบอกว่าต้องรับรองท่านให้ดี มีเรื่องอะไรก็รอให้ท่านได้พักผ่อนก่อนแล้วค่อยคุยกันขอรับ”

“ท่านแม่บ้านหรือ?” หนิวโหย่วเต้าสงสัย เอ่ยถามว่า “เพราะเหตุใด?”

ฉู่อันโหลวกล่าวว่า “ข้าก็ไม่ทราบรายละเอียดเช่นกัน แต่ท่านแม่บ้านว่ามาอย่างไร ข้าก็ต้องจัดการไปตามนั้น บอกให้รับรองเป็นอย่างดีก็ต้องรับรองเป็นอย่างดี ไม่มีเจตนาร้ายเด็ดขาดขอรับ!”

หนิวโหย่วเต้าไม่เอ่ยอะไร

หนิวโหย่วเต้าไม่รู้จริงๆ หรือว่านี่มันเรื่องอะไรกัน? เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเขาแล้วว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

การวาดภาพให้เฮยหมู่ตานในเมืองไจซิงมิใช่เป้าหมาย เป้าหมายคือซาฮ่วนลี่ ทว่าการวาดภาพให้ซาฮ่วนลี่ก็มิใช่เป้าหมายที่แท้จริงเช่นกัน เป้าหมายที่แท้จริงคือหอหิมะเหมันต์!

หลังจากทราบว่าซาฮ่วนลี่และเสวี่ยลั่วเอ๋อร์ผู้เป็นประมุขหอหิมะเหมันต์เป็นสหายสนิทกัน เขาก็เริ่มใช้ความคิด เริ่มทำการวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว!

หลักการนั้นง่ายดายนัก สตรีเมื่อได้รับของสวยๆ งามๆ มา พวกนางจะหักห้ามใจไม่นำไปแบ่งปันสหายรักได้หรือ?

ที่ทำเช่นนี้ มิใช่เพื่อผลตะวันชาดเท่านั้น หากแต่เป็นเพราะเขาไร้กำลังจะต่อกรกับพลังของราชสำนักแคว้นเยี่ยน หลังจากสังหารซ่งหลง เขาก็รู้แล้วว่าตัวเองได้ก่อปัญหาใหญ่ขึ้นมาแล้ว

แต่สิ่งใดที่ควรทำเขาก็ยังต้องทำ ซ่งหลงนั้นเขาจำเป็นต้องฆ่า ต่อให้รู้ว่าจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาก็ตาม เนื่องจากเรื่องบางเรื่องไร้ช่องทางให้ถอยหนี ต่อให้เขายอมถอยอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่มีทางยอมประนีประนอม มีแต่ต้องสู้กันให้ตายกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น หากกระทั่งความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวที่จะสู้ตายเช่นนี้ยังไม่มี เขาก็คงไม่ได้รับการยกย่องให้เป็นเต้าเหยี่ยได้!

เมื่อทำลงไปแล้ว กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่ตามมา ต่อให้รู้ว่าราชสำนักแคว้นเยี่ยนลงมือแล้ว ต่อให้ระหว่างทางต้องเจออันตราย เขาก็ต้องยืนหยัดรีบเดินทาง ที่เขามาที่นี่ก็เพื่อจะขจัดปัญหาใหญ่นั้นให้ได้ในคราวเดียว แล้วก็เพื่อมอบทางลงให้กับราชสำนักแคว้นเยี่ยนด้วย!

ผู้คนมากหน้าหลายตาพากันดาหน้ามารบกวน เขาจะอาศัยโอกาสนี้ข่มขู่คนเหล่านั้นในคราวเดียว!

ดังนั้นมิใช่ว่าเขาไม่ทราบ หากแต่ทราบกระจ่างดีเลยล่ะ เขาถึงได้จัดฉากให้ฉู่อันโหลวออกมาเดินเล่นเป็นเพื่อนเช่นนี้

ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ควบคุมความเป็นไปของสถานการณ์!

อู๋คงผู้เป็นเถ้าแก่ของร้านค้าสำนักหยกสวรรค์ยืนอยู่ตรงประตูร้าน กำลังให้ความสนใจกับกลุ่มของฉู่อันโหลวอยู่เช่นกัน

ศิษย์คนหนึ่งที่ออกไปสืบข่าววิ่งกลับมา ค้อมกายเอ่ยรายงานเสียงเบาว่า “อาจารย์อา ท่านลองเดาสิขอรับว่าคนที่อยู่ข้างกายฉู่อันโหลวคือผู้ใด?”

อู๋คงปรายตามองเขาแวบหนึ่ง “มัวอมพะนำอะไร? ข้าไม่เคยเจอเขามาก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาคือผู้ใด?”

ศิษย์จึงกล่าวว่า “อาจารย์อา เป็นหนิวโหย่วเต้าที่ทางสำนักส่งข่าวมาให้พวกเราค้นหาขอรับ!”

“ห๊า!” อู๋คงตกตะลึง เอ่ยถาม “เจ้าแน่ใจหรือ?”

ศิษย์ตอบว่า “ข้าสอบถามมาแล้ว ทั้งสี่คนที่อยู่ด้านหลังมีนามว่าเฮยหมู่ตาน เหลยจงคัง ต้วนหู่และอู๋ซานเหลี่ยงขอรับ ในข้อมูลที่ทางสำนักส่งมาก็บอกว่าอาจจะมีผู้ติดตามมาสี่คนมิใช่หรือขอรับ ลักษณะของเด็กหนุ่มที่นำอยู่ด้านหน้าคนนั้นก็ตรงตามข้อมูลที่ทางสำนักบรรยายเอาไว้ นอกจากหนิวโหย่วเต้าแล้วยังจะเป็นใครไปได้ล่ะขอรับ?”

คนของสำนักหยกสวรรค์ที่อยู่ทางนี้ไม่เคยเห็นหนิวโหย่วเต้าเลย ยามที่ทางซางเฉาจงไปขอร้องให้สำนักหยกสวรรค์ช่วยเหลือ พวกซางเฉาจงก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน พวกเขาย่อมแจ้งลักษณะบางอย่างของเป้าหมายไป หยวนฟางไหนเลยจะกล้าปิดบังอำพราง ย่อมต้องบอกรายละเอียดต่างๆ ของผู้ติดตามคนอื่นๆ อย่างชัดเจน

ส่วนคนของสำนักหยกสวรรค์ที่รู้จักหนิวโหย่วเต้าก็ยังอยู่ในมณฑลหนานโจวของแคว้นเยี่ยน ถ้าคิดจะตามมาคงจะไม่ทันการเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นคือหลังจากสมาชิกระดับสูงของสำนักหยกสวรรค์หารือกันแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้คิดจะทุ่มเทกำลังเพื่อช่วยเหลือหนิวโหย่วเต้าเช่นกัน ไม่ได้เร่งส่งกำลังมาสนับสนุนเลย สำหรับพวกเขาแล้ว หนิวโหย่วเต้ามิได้มีความสำคัญแม้แต่น้อย แค่หนิวโหย่วเต้าเพียงคนเดียวไม่คุ้มค่าพอให้สำนักหยกสวรรค์ระดมกำลังพล

บอกว่าจะไปขอผลตะวันชาดอันใดนั่น เรื่องนั้นมีความสำคัญต่อสำนักหยกสวรรค์ด้วยหรือ? ความเป็นความตายของไห่หรูเยวี่ยและความเป็นความตายของบุตรชายไห่หรูเยวี่ยมิได้มีความสำคัญต่อสมาชิกระดับสูงของสำนักหยกสวรรค์เลย ส่วนปัญหาที่เป็นประเด็นสำคัญทางสำนักหยกสวรรค์ได้หารือกับวังสวรรค์หมื่นวิมานอย่างลับๆ แล้ว

ในมุมมองของสำนักหยกสวรรค์ ไม่ว่าวังสวรรค์หมื่นวิมานจะเปลี่ยนเอาผู้ใดมาปกครองมณฑลจินโจวก็ไม่ได้มีความต่างกัน ขอเพียงซางเฉาจงที่สามารถฝึกฝน ‘กององครักษ์เลิศล้ำห้าวหาญ’ ออกมาได้ยังอยู่ในมือพวกเขาก็พอ

ปัญหาที่ไห่หรูเยวี่ยและซางเฉาจงต่างกังวลใจ ปัญหาที่คนระดับล่างกังวลใจล้วนไม่ได้มีความสำคัญอะไรสำหรับสมาชิกระดับสูงของสำนักหยกสวรรค์เลย

สำนักหยกสวรรค์เองก็ไม่ต้องการให้ซางเฉาจงผูกติดอยู่กับไห่หรูเยวี่ยมากเกินไป เพราะแบบนั้นอาจจะทำให้พวกเขาควบคุมซางเฉาจงได้ลำบากขึ้น

และเป็นเพราะเหตุนี้ การที่หนิวโหย่วเต้าเดินทางมาร้องขอผลตะวันชาดโดยพลการทำให้สมาชิกระดับสูงของสำนักหยกสวรรค์ไม่พอใจเท่าไร บุ่มบ่ามล่วงเกินหอหิมะเหมันต์มันใช่เรื่องสนุกหรือ? หากเกิดเรื่องขึ้น ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ประกอบกับหนิวโหย่วเต้ามีฐานะเป็นอาชญากรสังหารราชทูตแคว้นเยี่ยน สำนักหยกสวรรค์ไม่อยากเข้าไปข้องแวะด้วย ไหนเลยจะส่งคนมาช่วยเหลือได้!

แต่แน่นอน พวกเขายังต้องไว้หน้าซางเฉาจงอยู่ ดังนั้นจึงส่งข่าวมาให้ทางนี้ แต่ก็เพียงเพื่อแจ้งข่าวเตือนภัยต่อหนิวโหย่วเต้าเพียงเท่านั้น

“…..” อู๋คงลูบเคราพลางใช้ความคิด นี่มันอะไรกัน? เรื่องนี้อยู่นอกเหนือคำสั่งของทางสำนักไปไกลแล้ว!

เขามองดูหนิวโหย่วเต้าที่เดินออกไปไกลแล้ว ตัวเขาไม่สะดวกที่จะใช้สถานะคนของสำนักหยกสวรรค์ไปติดต่อหนิวโหย่วเต้าอย่างเปิดเผย อีกทั้งเวลานี้ยังไม่เข้าใจว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรกันแน่ เมื่อมีฉู่อันโหลวอยู่ เขาก็ไม่สะดวกจะเข้าไปทักทายเช่นกัน

เขาคิดวนไปวนมา ก่อนจะหันกลับเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว เตรียมส่งข่าวไปรายงานอย่างเร่งด่วน!

ณ ร้านค้าของวังสวรรค์หมื่นวิมาน ภายในห้องห้องหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปภายในร้าน สตรีนางหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนตั่งศิลา เป็นเกามู่หลานผู้เป็นเถ้าแก่ร้าน

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เกามู่หลานค่อยๆ เก็บลมปราณแล้วลืมตาขึ้น เอ่ยว่า “เข้ามา!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า