ตอนที่ 186 ผลตะวันชาด
ด้วยรูปร่างหน้าตาของเสวี่ยลั่วเอ๋อร์นี้ จะจับคู่กับสิ่งใดก็ล้วนเหมาะสมทั้งสิ้น แบบนี้ก็สบายแล้ว หนิวโหย่วเต้าไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะวาดออกมาได้ไม่ดี
หานปิงที่อยู่ข้างกายเสวี่ยลั่วเอ๋อร์มองมายังป่าด้านนี้เป็นระยะ กระทั่งหนิวโหย่วเต้าพยักหน้าส่งสัญญาณให้ นางจึงหาข้ออ้างปลีกตัวมาจากเสวี่ยลั่วเอ๋อร์
เมื่อกลับเข้ามาในป่า พอเจอหน้าหนิวโหย่วเต้า หานปิงเอ่ยถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”
หนิวโหย่วเต้าพยักหน้ารับ “ได้เห็นตัวจริงของท่านประมุขแล้ว สมควรประกอบกับภาพพื้นหลังแบบใดข้าพอจะรู้แล้ว น่าจะวาดออกมาได้โดยไม่ทำให้ท่านประมุขต้องผิดหวัง ตอนนี้ก็เหลือแค่เลือกสถานที่เท่านั้น”
“ดี!” ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ หานปิงก็ดีใจเช่นกัน เดินออกจากป่าไปด้วยกัน ก่อนจะเรียกสาวใช้ที่ชื่อเสี่ยวหรงคนนั้นมาอีกครั้ง สั่งการว่า “เจ้าจงไปเลือกสถานที่เป็นเพื่อนเขา นอกจากพื้นที่ส่วนกลางแล้ว สถานที่อื่นๆ ล้วนพาเขาไปดูได้”
“เจ้าค่ะ!” เสี่ยวหรงตอบรับ หานปิงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไป
เมื่อไม่มีคนอื่นแล้ว เสี่ยวหรงเอ่ยถามว่า “ท่านอยากไปที่ไหนเจ้าคะ?”
หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “ยังไม่รู้เลย ไปเดินๆ ดูก่อนแล้วกัน ถ้าเจอสถานที่เหมาะสมก็จดเอาไว้ เดี๋ยวคืนนี้ข้าค่อยทำการเลือกอีกครั้ง”
“เจ้าค่ะ!” เสี่ยวหรงผายมือเชิญ
ทั้งกลุ่มเริ่มเดินไปทั่ววิมานที่งามวิจิตรแห่งนี้ เมื่อพบสถานที่เหมาะสม หนิวโหย่วเต้าจะชี้แล้วกล่าวว่า “ตรงนี้ จดไว้”
หยวนกังนำกระดาษกับพู่กันออกมาจดทันที มีความรู้สึกของการเป็นผู้ช่วยอยู่หลายส่วน
ตลอดเส้นทางที่เดินมา ในแถบพื้นที่เขียวขจีทั้งหมด นอกเหนือจากพื้นที่ส่วนกลางแล้ว หนิวโหย่วเต้าแทบจะเดินไปทั่วทุกที่
จากนั้นก็ออกไปจากพื้นที่เขียวขจีแห่งนี้ หนิวโหย่วเต้าชี้ไปทางภูเขาหิมะสูงตระหง่านลูกหนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังหอหิมะเหมันต์ “ไปดูที่ยอดเขาลูกนั้นกัน”
“เอ่อ…” เสี่ยวหรงมองไปทางภูเขาหิมะ ดูค่อนข้างลังเล กล่าวว่า “เกรงว่าจะไม่ค่อยสะดวกเจ้าค่ะ”
หนิวโหย่วเต้าถาม “เพราะเหตุใด?”
เสี่ยวหรงตอบว่า “บนเขามีผลตะวันชาดเติบโต มีผู้คุ้มกัน ไม่อนุญาตให้ใครขึ้นไปง่ายๆ และเขาลูกนี้ยังเป็นรังของปีศาจหิมะด้วยเจ้าค่ะ มีปีศาจหิมะเฝ้าอยู่มากมาย หากไม่ได้รับอนุญาต ปีศาจหิมะไม่มีทางปล่อยให้พวกเราเข้าใกล้ได้”
ปีศาจหิมะที่ว่า คนที่เดินทางมายังหอหิมะเหมันต์ส่วนใหญ่น่าจะเคยพบเห็นในระหว่างทางแล้ว เป็นสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแห่งนี้ หนังด้านเนื้อหนา เขี้ยวเล็บแหลมคม วิ่งบนพื้นหิมะได้ราวกับวิ่งอยู่บนพื้นราบ จู่โจมรวดเร็วว่องไว พละกำลังมหาศาล เมื่อพบสิ่งมีชีวิตจะตามไล่ล่า คนธรรมดายากจะเข้าใกล้หอหิมะเหมันต์ได้
ทว่าปีศาจหิมะเหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรผู้บำเพ็ญเพียรที่สามารถเหินทะยานไปมาได้
แต่ถ้าหากเจอปีศาจหิมะล้อมโจมตีกันเป็นฝูงจริงๆ ล่ะก็ คาดว่าผู้บำเพ็ญเพียรธรรมดาก็คงจะรับมือไม่ไหวเช่นกัน สุดท้ายเจ้าก็ต้องร่อนลงพื้นอยู่ดี สัตว์ประหลาดพวกนี้มีความสามารถในการกระโดดอันน่าตกตะลึง สามารถกระโดดขึ้นมาโจมตีบนอากาศได้
พอเอ่ยถึงเรื่อง หนิวโหย่วเต้ากลับคิดถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา แล้วเจ้าลิงเข้ามาถึงหอหิมะเหมันต์ได้อย่างไร?
อีกอย่าง เป็นเพราะบนเขาลูกนี้มีผลตะวันชาด หนิวโหย่วเต้าถึงได้อยากไปดูเสียหน่อย
แผนการที่หนิวโหย่วเต้าวางเอาไว้ในตอนแรกนั้นพุ่งเป้าไปที่ผลตะวันชาด ขนาดมณฑลจินโจวเสนอเงื่อนไขมา หอหิมะเหมันต์ก็ล้วนไม่เคยตอบตกลง เขาเลยคิดว่าหากตนเข้าตามตรอกออกตามประตูคงยากจะเอาผลตะวันชาดมาได้เช่นกัน เพียงแต่หลังจากถูกเซ่าผิงปอเล่นงาน เขาก็ไม่สามารถใช้เล่ห์กลในการเอาผลตะวันชาดมาได้อีก ขอเพียงผลตะวันชาดหายไป เซ่าผิงปอไม่มีทางยั้งมือเด็ดขาด คงจะส่งเขาไปสู่ความตายทันที
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าหนิวโหย่วเต้าจะยอมแพ้ ในเมื่อมาแล้ว มันก็ต้องลองดูสักตั้งว่ามีโอกาสหรือไม่
อย่าว่าแต่วาดภาพสิบภาพเลย ต่อให้วาดแค่ภาพเดียว เขาก็ต้องหาข้ออ้างไปดูให้ได้ แค่ได้เห็นผลตะวันชาดสักหน่อยก็ยังดี
หนิวโหย่วเต้าใคร่ครวญพลางกล่าวว่า “เช่นนั้นก็น่าเสียดาย บนเขาหิมะลูกนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั่วทั้งหอหิมะเหมันต์ได้พอดี ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นสถานที่ที่เหมาะจะใช้เป็นพื้นหลังที่สุดก็ได้ หากพลาดไปคงจะน่าเสียดาย”
เสี่ยวหรงได้ฟังก็ลังเลเล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นทั้งสองท่านโปรดรอสักครู่ ข้าจะลองไปถามท่านแม่บ้านดูก่อน”
หนิวโหย่วเต้ายิ้มออกมา สตรีน่าจะไม่มีทางปฏิเสธเรื่องความสวยงาม จะต้องตอบตกลงแน่นอน เขาพยักหน้าพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้ พวกเราจะคอยเจ้า”
เสี่ยวหรงเหินทะยานกลับไปทันที
หนิวโหย่วเต้ามองไปรอบๆ เมื่อไม่มีคนอื่นแล้ว เขาจึงหันไปถามหยวนกังว่า “เคยเจอปีศาจหิมะใช่ไหม?”
หยวนกังพยักหน้า “ระหว่างทางที่มายังเขตพื้นที่หิมะแห่งนี้เจอมาพอสมควร”
หนิวโหย่วเต้าถามต่อ “นายเข้ามาได้ยังไง?”
หยวนกังตอบว่า “ทำสโนว์บอร์ดไถลหิมะเข้ามา”
หนิวโหย่วเต้าพูดว่า “ฉันไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้ ปีศาจหิมะพวกนั้นพอเจอคนก็จะโจมตี พวกมันไม่ได้โจมตีนายหรือไง”
หยวนกังตอบว่า “มีก็เหมือนไม่มี”
หนิวโหย่วเต้าแปลกใจ “อะไรคือมีก็เหมือนไม่มี”
หยวนกังเล่าว่า “ก่อนมาเว่ยตัวก็เตือนผมเหมือนกัน ผมเลยเตรียมหอกมาด้วยเล่มหนึ่ง เตรียมไว้ใช้รับมือถ้าถูกโจมตี แต่หลังจากเข้ามาในพื้นที่แถบนี้ ปีศาจหิมะที่เจอผมก็พุ่งเข้ามาจะโจมตีผมจริงๆ นั่นแหละ แต่พอเข้ามาใกล้ผม พวกมันก็เผ่นหนีไปทันที ดูค่อนข้างหวาดกลัว เหมือนจะกลัวผม คล้ายว่ากลัวกลิ่นอายที่อยู่บนตัวผม”
“กลัวนาย?” หนิวโหย่วเต้ามึนงง “กลัวกลิ่นอายบนตัวนาย?”
หยวนกังเอ่ยว่า “นี่เป็นแค่ข้อสันนิษฐานของผม ผมสังเกตเห็นว่าถ้าผมอยู่ต้นลม พวกปีศาจหิมะที่อยู่ใต้ลมจะพากันหลีกทางออกไป ไม่กล้าเข้ามาใกล้เลย”
หนิวโหย่วเต้าถามว่า “นายทาอะไรที่ใช้ไล่พวกมันได้เอาไว้บนตัวหรือเปล่า?” เขารู้ว่าหยวนกังเคยผ่านการฝึกพิเศษบางอย่างมา มีวิธีการพิเศษบางอย่าง ตัวอย่างเช่นเพื่อให้สะดวกต่อการพรางตัว เขาจะทาอะไรบางอย่างที่สามารถขับไล่แมลงได้เอาไว้บนตัว
หยวนกังตอบ “ไม่มี ผมไม่รู้จักปีศาจหิมะของที่นี่เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้ด้วยว่าต้องใช้กลิ่นอะไรถึงจะไล่พวกมันได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า