ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 192

ตอนที่ 192 เจรจา (2)

เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “ทุกคนต่างรู้แก่ใจดี ไยต้องแสร้งเลอะเลือน!”

“พักเรื่องนี้ไว้ก่อนเถอะ” หนิวโหย่วเต้าไม่อยากคุยเรื่องนี้ ที่เชิญพวกเขามาไม่ได้จะมาคุยเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็คุยต่อไม่ได้ด้วย เพราะสินค้าเหล่านั้นถูกเขาขายทิ้งไปหมดแล้ว เขาเอาสินค้าเหล่านั้นคืนมาไม่ได้ แล้วก็ไม่มีเงินที่จะจ่ายชดเชยมากขนาดนั้นด้วย “ซ่งจิ่วหมิงบอกว่าถ้าสังหารข้าได้ เขาจะได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง สัญญาว่าจะมอบผลประโยชน์ให้สำนักเซียนสถิต สั่งให้สำนักเซียนสถิตมาทำงานให้เขา ไม่ทราบว่าข้าพูดถูกหรือไม่?”

ดวงตาเฟ่ยฉางหลิวฉายแววประหลาดใจระคนสงสัย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทราบได้อย่างไร

เจิ้งจิ่วเซียวและเซี่ยฮวาก็มองเขาด้วยความประหลาดใจเช่นกัน ต่างลอบด่าอยู่ในใจ ตระกูลซ่งลำเอียงไปทางสำนักเซียนสถิตจริงๆ ด้วย เหตุใดถึงไม่บอกกล่าวทางพวกเราบ้างล่ะ?

เผิงโย่วไจ้ที่นั่งอยู่อีกด้านกลับทราบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ดูเหมือนซางเฉาจงจะส่งสายลับไปแทรกซึมไว้ในตระกูลซ่ง ข่าวที่ทางซางเฉาจงส่งให้หนิวโหย่วเต้าก็เป็นสำนักหยกสวรรค์ที่ส่งมาให้ จึงทำให้เขาทราบเรื่องนี้

เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “ข้าบอกไปแล้ว ขอเพียงเจ้าชดเชยความเสียหายให้ร้านค้าของข้าได้ เรื่องอื่นก็นับว่าแล้วกันไป”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “เจ้าสำนักเฟ่ย ที่ผ่านมาสำนักเซียนสถิตสังหารข้าไม่สำเร็จ ตอนนี้ข้าก็กล้าพูดอย่างเต็มปากเช่นกันว่านับจากนี้ไปสำนักเซียนสถิตก็สังหารข้าไม่ได้อยู่ดี ข้าขอบังอาจถามหน่อยว่าซ่งจิ่วหมิงจะฟื้นคืนอำนาจได้อย่างไร แล้วจะมอบผลประโยชน์ที่รับปากสำนักเซียนสถิตไว้ได้อย่างไร?”

เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ? ชดใช้ความเสียหายให้สำนักเซียนสถิต ส่วนเรื่องอื่น เพื่อเห็นแก่หน้าหอหิมะเหมันต์ สำนักเซียนสถิตของข้าจะไม่สืบสาวเอาความอีก!”

หนิวโหย่วเต้าไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ “ซ่งจิ่วหมิงไม่มีวันจะได้ฟื้นคืนอำนาจแน่นอน ท่านกับข้ามาเดิมพันกันสักตาเป็นอย่างไร ข้าพนันว่าตระกูลซ่งจะย่อยยับลงในไม่ช้านี้!”

เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “ไม่ต้องมาพูดเรื่องตระกูลซ่งอะไรกับข้าแล้ว เลิกคิดที่จะใช้ลูกไม้นี้จะดีกว่า เรื่องที่ผ่านมาต่างทำเพื่อนายของตน ทำงานให้ตระกูลซ่งเกิดเรื่องบาดเจ็บล้มตายอันใดสำนักเซียนสถิตของข้าล้วนยอมรับ แต่เงินจำนวนมหาศาลในร้านค้าก้อนนั้นเป็นทรัพย์สินของศิษย์ทั่วทั้งสำนักเซียนสถิต หากเจ้าไม่มอบคำอธิบายมาให้ ปล่อยให้เงินนั่นสูญเปล่าไปเช่นนี้ ข้าเองก็ไม่สามารถอธิบายกับเหล่าศิษย์ทั้งบนล่างในสำนักเซียนสถิตได้เช่นกัน แต่แน่นอน หากเจ้าสามารถทำให้หอหิมะเหมันต์ออกมาบอกว่าไม่ให้ถามหาความรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ เช่นนั้นข้าก็จะยอมรับ ไม่อย่างนั้นข้าก็ได้แต่ต้องมาทวงเอากับเจ้าแล้ว!”

หนิวโหย่วเต้าตอบไม่ตรงคำถาม “เดิมทีสำนักเซียนสถิตพึ่งพาตระกูลซ่ง ยามนี้ตระกูลซ่งพังพินาศแล้ว สำนักเซียนสถิตไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหนดี เกรงว่ากำลังสับสนอยู่กระมัง?”

เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “นี่คือเรื่องของสำนักเซียนสถิตของเรา เจ้าไม่จำเป็นต้องมากังวล!”

หนิวโหย่วเต้ากวาดตามองทุกคน “ครั้งนี้ที่เชิญทุกท่านมา ก็เพราะต้องการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ในมณฑลหนานโจวแห่งแคว้นเยี่ยน ผลประโยชน์นี้เทียบกับผลประโยชน์ที่ตระกูลซ่งมอบให้แล้วเป็นอย่างไร? หากเจ้าสำนักเฟ่ยไม่สนใจ ก็เชิญออกไปตอนนี้ได้เลย ข้าไม่บังคับฝืนใจ ต่อไปหากยังอยากจะคิดบัญชีกับข้าอยู่ก็เชิญตามสบาย”

“…..” คนที่นั่งอยู่ต่างตกตะลึง แบ่งมณฑลหนานโจวแห่งแคว้นเยี่ยนหรือ?

เฟ่ยฉางหลิว เจิ้งจิ่วเซียว เซี่ยฮวา ทั้งสามต่างมองกันไปมองกันมา

เผิงโย่วไจ้ตะลึงไปเล็กน้อย ยิ้มหยันพลางกล่าวว่า “แบ่งมณฑลหนานโจว พูดจาใหญ่โตนัก หรือว่านี่จะเป็นความคิดของหอหิมะเหมันต์?”

หนิวโหย่วเต้ากลับผายมือไปทางเฟ่ยฉางหลิว “ข้าบอกแล้วว่าไม่บังคับฝืนใจ หากเจ้าสำนักเฟ่ยอยากไปก็ไปได้เลย”

เฟ่ยฉางหลิวคล้ายไม่อนาทรร้อนใจ เอ่ยว่า “ลองฟังดูก็ไม่เสียหาย”

หนิวโหย่วเต้าแค่นเสียงเหอะ มองไปรอบๆ พลางเอ่ยถามว่า “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? ท่านจะคิดบัญชีกับข้า ข้าไหนเลยจะยอมบอกความลับแก่ท่านได้?”

อูเซ่าฮวนที่ยืนอยู่ด้านหลังเฟ่ยฉางหลิวก้มหน้าลง กระซิบสองสามประโยคข้างหูเฟ่ยฉางหลิวแล้วยืดตัวขึ้น

ใบหน้าเรียบเฉยของเฟ่ยฉางหลิวคร่ำเคร่งขึ้นมาเล็กน้อย เขาก้มหน้าหลุบตาพลางเอ่ยว่า “หากว่ามีผลประโยชน์ในมณฑลหนานโจวที่เพียงพอจะชดเชยความเสียหายของสำนักเซียนสถิตได้จริงๆ ข้าก็นับว่ามีคำอธิบายให้ทั้งสำนักเซียนสถิตแล้ว บุญคุณความแค้นในอดีตเองก็ใช่ว่าจะละวางไม่ได้”

หนิวโหย่วเต้าหันไปถามอีกสองคนที่เหลือ “เจ้าสำนักเจิ้งกับเจ้าสำนักเซี่ยล่ะ? จะคิดบัญชีก่อน หรือจะทำอะไรก่อน?”

เจิ้งจิ่วเซียวลูบเคราพลางกล่าวว่า “ลองฟังดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

เซี่ยฮวาตอบอืมคำหนึ่ง พยักหน้าเห็นด้วย

“เมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็ลองฟังดูก่อนเถอะ” หนิวโหย่วเต้าแค่นหัวเราะคล้ายกำลังเยาะหยัน จากนั้นมองไปที่เผิงโย่วไจ้ เอ่ยว่า “นี่ไม่เกี่ยวข้องกับหอหิมะเหมันต์ หรือเจ้าสำนักเผิงคิดว่าความทะเยอทะยานของยงผิงจวิ้นอ๋องนั้นจะหยุดอยู่แค่สถานที่เล็กๆ อย่างจังหวัดชิงซาน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า