ตอนที่ 193 ต้องกำจัดสารเลวคนนี้ให้ได้
“หากเพียงแค่นำเงินออกมาให้ยงผิงจวิ้นอ๋องใช้รับสมัครทหารซื้อม้า วิธีการสนับสนุนแบบนี้มันก็เป็นวิธีการที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ” หนิวโหย่วเต้าแย้มยิ้ม เอื้อมมือไปตรงหน้าเขาแล้วหยิบถ้วยน้ำชาของเขาขึ้นมา ก่อนจะวางลงในมือของเผิงโย่วไจ้ที่ยื่นออกมาอีกครั้งอย่างแผ่วเบา “ข้าไม่เพียงแต่จะนำเงินมาให้ยงผิงจวิ้นอ๋องใช้รับสมัครทหารซื้อม้าเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้สำนักหยกสวรรค์ได้กินอิ่มท้องด้วย”
จากนั้นก็ชี้นิ้วไปยังเฟ่ยฉางหลิวและคนอื่นๆ “พวกท่านก็เช่นกัน!”
แต่ละคนสบตากัน เผิงโย่วไจ้วางถ้วยชาลง เอ่ยว่า “ข้าไม่ฟังเรื่องที่ไร้หลักฐานเหล่านั้น ไยเจ้าไม่นำเงินออกมาล่ะ?”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “เงินก็อยู่ในร้านค้าของสำนักหยกสวรรค์อย่างไรเล่า”
“…..” เผิงโย่วไจ้ผงะไป หันกลับไปมองเหล่าผู้ติดตามที่ยืนอยู่ด้านหลัง หรือว่าร้านค้าทางนี้จะมีเรื่องปิดบังไม่ให้ตนทราบอยู่?
ทว่าเหล่าผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังต่างพากันส่ายหน้าด้วยความมึนงง สื่อว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เซี่ยฮวาเอ่ยสอดว่า “เจ้าสำนักเผิง คาดว่าเขาคงหมายถึงสินค้าในร้านค้าของพวกท่าน เขาขายสินค้าในร้านของพวกเราได้เงินไปไม่น้อยเลย”
สีหน้าเผิงโย่วไจ้ครึ้มลง จ้องมองหนิวโหย่วเต้า
หนิวโหย่วเต้ายิ้มเยาะเซี่ยฮวา “มุกตลกของเจ้าสำนักเซี่ยนี่ไม่เห็นน่าขันเลย สินค้าในร้านท่านหายไป เลยอยากให้สินค้าในร้านของผู้อื่นหายไปด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
เขาหันกลับไปพูดกับเผิงโย่วไจ้อีกครั้ง “ให้เวลาข้าครึ่งเดือน อีกครึ่งเดือนให้หลังข้าจะทำให้เจ้าสำนักทั้งหลายตาลุกวาวเพราะเห็นเงิน ดีใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้!”
ทุกคนต่างมองกันไปมองกันมา หากเป็นอย่างที่คนผู้นี้ว่ามาจริงๆ อย่าว่าแต่ครึ่งเดือนเลย ต่อให้ครึ่งปีก็รอไหว
เผิงโย่วไจ้กล่าวว่า “ในเมื่อเดินทางไกลมาถึงนี่แล้ว เช่นนั้นอยู่ทำความเข้าใจสถานการณ์ของทางนี้สักครึ่งเดือนก็ไม่มีอะไรเสียหาย ข้าจะให้เวลาเจ้าครึ่งเดือน ครึ่งเดือนให้หลังหากว่านำเงินออกมาไม่ได้ เจ้าจะว่าอย่างไร?”
หนิวโหย่วเต้าชี้ไปด้านนอกเล็กน้อย “เดี๋ยวข้าจะย้ายเข้าไปพักในร้านค้าสำนักหยกสวรรค์ของท่าน หากอีกครึ่งเดือนให้หลัง ข้ายังไม่สามารถนำเงินออกมาได้ เชิญท่านจัดการได้ตามสบาย ว่าอย่างไร?”
“พักอยู่ในร้านค้าของพวกเราอย่างนั้นหรือ?” เผิงโย่วไจ้งุนงง
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าบอกไปแล้ว เงินอยู่ที่ร้านค้าของสำนักหยกสวรรค์ ข้าก็ย่อมต้องไปหาออกมา เจ้าสำนักเผิงอย่าได้ถามมากเลย เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เอง ถึงอย่างไรก็ถูกท่านจับตาดูอยู่ ท่านเองก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าข้าจะผิดคำพูดแล้วหลบหนีไปเลย ท่านว่าใช่หรือไม่?”
ด้วยเห็นแก่เงิน เรื่องราวจึงตกลงกันตามนี้
พวกเผิงโย่วไจ้กลับไปก่อน จากนั้นพวกหนิวโหย่วเต้าก็ไปคืนห้องพักแล้วตามออกไป
“จะไปแล้วหรือ?”
ภายในห้องของฉู่อันโหลว หนิวโหย่วเต้ามาอำลา ฉู่อันโหลวรู้สึกประหลาดใจ
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รบกวนเถ้าแก่ฉู่มานานขนาดนี้ ข้าเองก็สมควรไปแล้ว”
ฉู่อันโหลวถามด้วยความสงสัย “เจรจาเรียบร้อยแล้วหรือ? พวกเขาไม่ได้สร้างความลำบากให้เจ้ากระมัง?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “เดิมทีข้าก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับสำนักหยกสวรรค์อยู่แล้ว ส่วนพวกสำนักเซียนสถิตก็เพียงแค่มาระบายโทสะแทนตระกูลซ่งแห่งแคว้นเยี่ยนเท่านั้น ยามนี้ตระกูลซ่งกำลังจะล่มสลาย พวกเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องตามเอาชีวิตข้าไม่ยอมเลิกราอีก เมื่อพูดคุยตกลงกันชัดเจนแล้ว ทุกอย่างก็นับว่าเป็นอดีตไปแล้ว”
ฉู่อันโหลวเลิกคิ้ว “คงมิใช่ว่าเจ้าแอบอ้างหอหิมะเหมันต์ไปข่มขู่อะไรพวกเขาหรอกนะ?”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “เถ้าแก่ฉู่กังวลมากไปแล้ว บางทีพวกเขาอาจจะกริ่งเกรงอิทธิพลของหอหิมะเหมันต์อยู่เช่นกัน แต่ข้าเองก็พักอยู่ที่นี่ได้เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น อีกทั้งหอหิมะเหมันต์ก็ไม่มีทางสอดมือเข้ามายุ่ง เพียงให้ที่หลบซ่อนแก่ข้าชั่วคราวเท่านั้น หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ข้าต้องเผชิญ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าทุกคนย่อมสังเกตเห็นได้ว่าข้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับหอหิมะเหมันต์ คนทั่วไปมิใช่คนโง่ ถ้าจะหลอกก็หลอกได้แค่ตัวเองเท่านั้น หลอกคนอื่นไม่ได้ สุดท้ายความจริงก็จะปรากฏออกมา เรื่องราวที่ไม่ใช่ความจริง ถึงแอบอ้างชื่อหอหิมะเหมันต์ไปก็มีแต่จะทำร้ายตัวเองเปล่าๆ”
สีหน้าฉู่อันโหลวดูผ่อนคลายลง “รู้ก็ดีแล้ว อย่างนั้นข้าไม่ส่งล่ะ”
“เถ้าแก่ฉู่รักษาตัวด้วย ข้าลาล่ะ” หนิวโหย่วเต้าประสานมืออำลา ออกไปจากที่นี่
ฉู่อันโหลวตอบอืมคำหนึ่ง ยกมือไพล่หลังมองตามไป ไม่ได้เอ่ยถึงตั๋วแลกเงินหลายแสนเหรียญทองที่ฝากเขาไว้ ‘ชั่วคราว’ หนิวโหย่วเต้าเองก็ไม่ได้เอ่ยถึงเช่นกัน ทำเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องนั้นขึ้น
หนิวโหย่วเต้าปกปิดใบหน้าไว้แล้วออกจากโรงเตี๊ยมเลื่อมรุ้งไป พาลูกน้องทั้งหลายเข้าพักในร้านค้าของสำนักหยกสวรรค์
ทันทีที่เข้าพัก หนิวโหย่วเต้าก็ให้พวกเฮยหมู่ตานไปจัดหาสิ่งของบางอย่าง จากนั้นก็เห็นหนิวโหย่วเต้าทำงานยุ่งง่วน บางครั้งก็จัดการวัสดุที่เป็นไม้เหมือนช่างไม้ บางครั้งก็ตีเหล็กดังติงตังๆ เหมือนช่างเหล็ก
ก็เหมือนอย่างที่หยวนกังบอกมา เขามีทักษะงานฝีมืออยู่ไม่น้อยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า