ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 196

ตอนที่ 196 ในที่สุดก็มีที่ให้ปักหลักแล้ว

อู๋คงกลับมาที่ร้านค้า สอบถามพนักงานในร้านว่าผู้อาวุโสเฉินอยู่ที่ไหน จากนั้นเดินตรงเข้าไปในโถงด้านใน มายังด้านนอกห้องพักของเจ้าสำนัก

เมื่อได้รับอนุญาตเขาก็เข้าไปด้านใน ก่อนจะเห็นเจ้าสำนักกำลังหารือเรื่องงานกับผู้อาวุโสทั้งหลายอยู่ ไม่ทราบเช่นกันว่ากำลังคุยเรื่องอะไรอยู่ แต่ทันทีที่เขาเข้าไป ทุกคนต่างก็จ้องมาที่เขา

หลังจากอู๋คงทำความเคารพทุกคนแล้ว ผู้อาวุโสเฉินถิงซิ่วก็ลุกขึ้นยืน เอ่ยถามว่า “ขายสุราหมดแล้วหรือ?”

อู๋คงพยักหน้า “ขายหมดแล้วขอรับ สามไหเป็นเงินหนึ่งพันห้าร้อยเหรียญทอง” เขาหยิบตั๋วแลกทองหลายแผ่นออกมา ก่อนจะประคองส่งให้ด้วยสองมือ

เฉินถิงซิ่วรับตั๋วแลกทองมานับดูอย่างรวดเร็ว รีบถามอีกครั้งว่า “ไหละห้าร้อยเหรียญทอง พวกเขาไม่รู้สึกว่าแพงไปหรือ?”

อู๋คงตอบอย่างเคารพนอบน้อม “เรียนผู้อาวุโส ข้าจัดการตามคำสั่ง ไหหนึ่งที่เปิดแล้วใช้เป็นสินค้าทดลองชิม อีกสามไหที่เหลือลองนำไปเสนอขายให้ร้านค้าสามแห่ง เมื่อได้ยินว่าราคาไหละห้าร้อยเหรียญทอง ทุกร้านต่างก็ติว่าแพงไป แต่หลังจากได้ลองชิมดู ต่างก็บอกว่าเป็นสุราดี พากันแสดงความต้องการว่าอยากจะซื้อไว้สักสองสามไห ข้าบอกว่าสุรานี้ผลิตได้ยากยิ่ง ตอนนี้ไม่มีของ พวกเขาก็พากันแสดงท่าทีว่าอยากสั่งจองไว้ บ้างก็จองไว้สิบไห บ้างก็จองไว้ร้อยไห ศิษย์ไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด จึงไม่กล้ารับปากพวกเขาขอรับ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สมาชิกระดับสูงของสำนักหยกสวรรค์ที่อยู่ภายในห้องต่างเผยรอยยิ้มมีเลศนัยออกมา

เฉินถิงซิ่วหัวร่อออกมา โบกมือพลางเอ่ยว่า “เอาล่ะ เข้าใจแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถอะ”

“ขอรับ!”

หลังจากอู๋คงออกไปแล้ว เฉินถิงซิ่วก็หันหน้ากลับมาทันที กล่าวกับเผิงโย่วไจ้ว่า “ท่านเจ้าสำนัก พวกเรากังวลกันเกินไปแล้วขอรับ ดูเหมือนราคาห้าร้อยเหรียญทองจะยังต่ำไปหน่อย สามารถเรียกราคาให้สูงขึ้นได้อีกหน่อยขอรับ”

เผิงโย่วไจ้พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งลุกขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “ท่านเจ้าสำนัก ข้าว่าเรื่องนี้คุ้มค่าที่จะทำ ต่อให้ขายในราคาห้าร้อยเหรียญทอง เราก็ยังได้กำไรไหละสามร้อยเหรียญทอง ถ้าขายหนึ่งหมื่นไห ปีนึงก็จะตกเป็นเงินสามล้านเหรียญทองต่อปี! อย่าว่าแต่จังหวัดกว่างอี้และจังหวัดชิงซานเลยขอรับ ต่อให้เก็บเงินจากสี่ห้าจังหวัดรวมกันปีนึงก็ยังไม่แน่ว่าจะหาเงินได้มากขนาดนี้เลย”

เผิงโย่วไจ้มองผู้อาวุโสที่เหลือ “พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวว่า “เจ้าสำนัก ข้าว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ขอรับ”

เฉินถิงซิ่วเองก็พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “เจ้าสำนักขอรับ ธุรกิจนี้คุ้มค่า สามารถตอบตกลงกับเขาได้ เดี๋ยวข้าจะไปเรียกเขาเข้ามานะขอรับ ”

“ช้าก่อน!” เผิงโย่วไจ้ยกมือห้ามไว้ เมื่อได้รับความเห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เขาก็รู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก หัวเราะฮ่าๆ แล้วเอ่ยไปว่า “ไม่ต้องรีบร้อน บอกไว้แล้วว่าจะให้คำตอบเขาพรุ่งนี้ หากพวกเรารีบร้อนเกินไปมันจะดูไม่ดี ไม่จำเป็นต้องตอบวันนี้ก็ได้ ให้เขารอไปก่อน”

มีเหตุผล ทุกคนพากันพยักหน้าเห็นด้วย

จู่ๆ เฉินถิงซิ่วพลันถอนใจแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ เกรงว่าทางเฟิ่งหลิงปอคงต้องทนรับความคับข้องใจหน่อยแล้ว”

เมื่อทุกคนได้ยินต่างก็เงียบไป เฟิ่งหลิงปอปกครองจังหวัดกว่างอี้ในช่วงเวลาหลายปีมานี้ เขามีทั้งผลงานและความมานะทุ่มเท การริบอำนาจเขามาเช่นนี้ดูไม่ค่อยมีเหตุผลสักเท่าไร อีกทั้งเฟิ่งหลิงปอก็เป็นลูกเขยของเจ้าสำนักด้วย หรือต่อให้ไม่ใช่ลูกเขยของท่านเจ้าสำนัก สำนักหยกสวรรค์ไม่อาจทำเรื่องที่ไร้เหตุผลขนาดนี้ได้

เผิงโย่วไจ้โบกมือพลางเอ่ยว่า “ข้าเป็นเจ้าสำนักหยกสวรรค์ เขาเป็นลูกเขยของข้า เพื่อผลประโยชน์ของสำนักหยกสวรรค์แล้ว หากเขาไม่เสียสละแล้วจะให้ผู้ใดเสียสละ? กับคนอื่นอาจจะพูดลำบาก แต่การที่เขาจะเสียสละเพื่อสำนักหยกสวรรค์นั้นเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว! ทางอวี้หลานกับเฟิ่งหลิงปอพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะไปเกลี้ยกล่อมพวกเขาเอง”

พอได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างทราบแก่ใจดี เรื่องราวได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว เขาเสียสละเพื่อสำนักหยกสวรรค์ ในอนาคตทางสำนักย่อมต้องตอบแทนเขาเป็นอย่างดี

วันต่อมา เจ้าสำนักเซียนสถิตและสำนักต่างๆ มารวมตัวกันที่ร้านค้าของสำนักหยกสวรรค์อีกครั้ง เงื่อนไขที่หนิวโหย่วเต้าเสนอไป สำนักหยกสวรรค์ตอบตกลงทั้งหมด

ทั้งสามสำนักค่อนข้างอ่อนแอ เมื่อต้องเจรจาเรื่องสำคัญที่เกี่ยวพันถึงชะตาชีวิตของสำนักตนเองต่อหน้าสำนักที่แข็งแกร่งอย่างสำนักหยกสวรรค์แล้ว เงื่อนไขที่พูดกันเพียงปากเปล่าบางอย่างไม่สามารถนำกลับไปอธิบายต่อเหล่าศิษย์ในสำนักได้ จนกระทั่งรบเร้าขอให้สำนักหยกสวรรค์ลงนามในหนังสือสัญญาสำเร็จ พวกเขาถึงได้วางใจ

นี่คือข้อตกลงที่อาจเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของมณฑลหนานโจวทั้งมณฑล พวกเฮยหมู่ตานที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบแอบรู้สึกตกตะลึงอยู่ในใจ สายตาที่มองหนิวโหย่วเต้าล้วนเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง มีความเคารพยำเกรง รู้ซึ้งแล้วว่าในอดีตพวกตนเล็กจ้อยเพียงใด

ขณะเดียวกันก็รู้สึกสนิทใจยิ่งขึ้น ความลับเช่นนี้ หนิวโหย่วเต้ากลับมิได้ปิดบังพวกเขาเลย ให้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตา

อีกทั้งมีความรู้สึกเลื่อมใสอยู่ด้วยเช่นกัน เต้าเหยี่ยเพียงพลิกมือก็เรียกเมฆเพียงคว่ำมือก็เรียกฝนได้ คนกลุ่มหนึ่งยกโขยงมาสังหารเต้าเหยี่ย พริบตาเดียวกลับถูกเต้าเหยี่ยดึงมาเป็นพวกเสียอย่างนั้น

ในความเป็นจริงแล้ว การเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรของแต่ละสำนักมาทำการหารือกันลับหลังเช่นนี้ มาทำการตัดสินใจที่ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนในมณฑลหนานโจวไปมากน้อยเท่าไรเช่นนี้ ทันทีที่เกิดเรื่องขึ้น ไม่รู้ว่าในมณฑลหนานโจวจะมีคนมากน้อยเท่าไรที่ต้องบ้านแตกสาแหรกขาด

หากเฟิ่งหลิงปอที่ปกครองจังหวัดกว่างอี้มานานหลายปีทราบเรื่องนี้เข้า ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ไม่รู้ว่าจะนึกเสียใจหรือไม่ที่ ‘พาหมาป่าเข้ามาในบ้าน’

หลังจากหารือกับหนิวโหย่วเต้าอีกครั้ง สมาชิกของทั้งสามสำนักก็จากไป ต่างเร่งกลับไปเตรียมการโดยเร็ว

เผิงโย่วไจ้ก็เตรียมจะเดินทางกลับเช่นกัน ในฐานะที่เป็นเจ้าสำนัก เขาไม่อาจออกมาจากศูนย์กลางของสำนักเป็นเวลานานเกินไปได้

แต่ก่อนจะจากไป เขายังคงมาหาหนิวโหย่วเต้าอีกครั้ง เอ่ยถามว่า “เจ้าเตรียมจะกลับจังหวัดชิงซานเมื่อไร?”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยยิ้มๆ “อย่างไรเสียตอนนี้ข้าก็ยังไม่อาจเผยตัวในจังหวัดชิงซานอย่างเปิดเผยได้ จะกลับเร็วขึ้นหรือช้าลงก็ไม่ต่างกัน”

เผิงโย่วไจ้เอ่ยเสียงขรึม “เรื่องกลั่นสุราไม่อาจล่าช้าได้ รีบกลับไปเถอะ ส่วนความปลอดภัยระหว่างทาง…เจ้าสร้างปัญหาเอาไว้ไม่น้อย จะให้ข้าทิ้งคนจำนวนหนึ่งไว้คุ้มกันเจ้ากลับไปหรือไม่?”

เมื่อทางนี้มั่นใจแล้วว่าเรื่องนี้เป็นลู่ทางทำเงินมหาศาล พวกเขาจึงรู้สึกค่อนข้างร้อนใจขึ้นมา อยากให้หนิวโหย่วเต้ารีบกลับไปช่วยกลั่นเหล้าให้พวกเขาใจแทบขาด จากนั้นพวกเขาจะได้ร่ำรวยขึ้นมา

หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “เรื่องคุ้มกันนั้นไม่จำเป็น อีกเดี๋ยวข้ายังต้องไปที่หอหิมะเหมันต์อีก เรื่องความปลอดภัยระหว่างทาง เดี๋ยวทางหอหิมะเหมันต์จะจัดการให้ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร”

มิน่าถึงกล้าเที่ยวก่อเรื่องไปทั่วโดยไม่ได้มีความเกรงกลัวแม้แต่นิดเดียว! มุมปากของเผิงโย่วไจ้กระตุกขึ้นมาเล็กน้อย บ่นพึมพำอยู่ในใจ เจ้านี่มันเกี่ยวข้องกับหอหิมะเหมันต์อย่างไรกันแน่?

จนปัญญาที่ไม่สะดวกจะถาม แล้วก็ถามออกไปไม่ได้ด้วย จึงทำได้เพียงปล่อยผ่านไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า