ตอนที่ 203 เข้าใจผิด
เจตนาเดิมของหลานรั่วถิงคือคิดหาทางหักเงินจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ ออกมาเล็กน้อย แต่ในเมื่อซางซูชิงมั่นใจว่าเต้าเหยี่ยคงไม่ว่าอะไร อย่างนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรมากอีก
อันที่จริงแล้ว ที่ซางเฉาจงบอกจะให้เงินหนึ่งหมื่นเหรียญทอง เขาเองก็ค่อนข้างลำบากใจเช่นกัน กลัวให้ไปแล้วจะขายหน้า แต่จังหวัดชิงซานในตอนนี้มีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำการฟื้นฟู ยังจำเป็นต้องใช้เงินอีกมาก เมื่อน้องสาวเสนอตัวจัดการเรื่องนี้ให้ ซางเฉาจงก็อยากจะให้นางรีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จๆ ไป จึงพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ชิงเอ๋อร์พูดมีเหตุผล สตรีอย่างพวกเจ้าพูดคุยสะดวกกว่า ยกให้เจ้าจัดการแล้วกัน”
หลานรั่วถิงเหลือบมองซางเฉาจงแวบหนึ่ง แววตาแปลกไปเล็กน้อย บ่นอยู่ในใจ จะให้ดรุณีแรกแย้มยังไม่ออกเรือนคนหนึ่งวิ่งไปหาทางนั้นที่เป็นผู้ชายเนี่ยนะ อย่างนั้นเรียกสะดวกหรือ? ท่านไม่กลัวว่าจะทำให้เกิดข่าวลือที่ส่งผลเสียต่อความบริสุทธิ์ของน้องสาวตนบ้างหรือ?
ความเป็นจริงแล้ว ซางเฉาจงไม่รู้สึกกังวลในด้านนี้เลย เนื่องจากน้องสาวของตนรูปโฉมอัปลักษณ์ชวนให้คนตกใจ ไหนเลยจะมีบุรุษมาเกิดความคิดไม่ซื่อได้ และเขาก็ไม่คิดว่าเต้าเหยี่ยจะอดอยากปากแห้งขนาดนั้นด้วย!
แต่แน่นอน ความเชื่อใจในส่วนนี้ก็เป็นเพราะเขาไว้วางใจในตัวหนิวโหย่วเต้าด้วย รู้จักกันมานานขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นหนิวโหย่วเต้ามีข้อเรียกร้องใดๆ ในเรื่องสตรีเลย ไม่เหมือนผู้บำเพ็ญเพียรบางส่วนของสำนักหยกสวรรค์!
หลังตกลงเรื่องเงินหมื่นเหรียญทองได้แล้ว หลานรั่วถิงก็สั่งให้คนไปเบิกเงินมาทันที
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้ทางนี้จะมีเงินแค่หมื่นเหรียญทองเท่านั้น จะให้นำเงินสดหนึ่งแสนเหรียญทองออกมาเลยก็ยังได้ แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่ได้ทำการวางแผนจัดสรรเอาไว้หมดแล้ว ทำให้เอาออกมาได้ลำบาก ตอนนี้เจียดออกมาส่วนหนึ่ง ค่าใช้จ่ายสำคัญในด้านอื่นๆ ก็ต้องลดลงไป
เมื่อเผิงโย่วไจ้และสมาชิกระดับสูงกลุ่มหนึ่งของสำนักหยกสวรรค์เดินทางมาถึง อีกทั้งยังมีสมาชิกระดับสูงจากอีกสามสำนักด้วย ถ้าไม่ดูแลรับรองให้ดีก็คงไม่ได้ เรื่องนี้ได้ทำให้พวกเขาต้องดึงเอาเงินออกมาจากค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว แล้วเวลานี้ยังเอาเงินออกมาอีกหมื่นเหรียญทองอีก
คนของฝ่ายบัญชีมาหา นำสมุดบัญชีมาด้วย
ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงหารือกันอยู่พักใหญ่เกี่ยวกับเงินหมื่นเหรียญทองนี้ ความรู้สึกที่เงินเพียงเหรียญเดียวก็เป็นเรื่องใหญ่นั้นช่างไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย หลังหารือกันไปหารือกันมา สุดท้ายก็ตัดสินใจลดงบประมาณกองทัพลง ลดเงินเบี้ยเลี้ยงทหารลงส่วนหนึ่งเป็นการชั่วคราว
ส่วนค่าใช้จ่ายเร่งด่วนบางอย่างนั้นไม่อาจแตะต้องได้จริงๆ เนื่องจากเกี่ยวพันถึงจิตใจของประชาชนในจังหวัดชิงซาน หากจัดการไม่ดีจะเกิดปัญหาวุ่นวายได้
สำหรับตอนนี้ กองทัพยังสามารถควบคุมได้อยู่ แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะกินจะใช้ล้วนต้องใช้เงินทั้งสิ้น หากปล่อยให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรวมถึงทางบ้านหิวโหย แล้วพวกเขาจะช่วยดูแลจัดการพื้นที่ให้เจ้าได้อย่างไร? ทั้งกองทัพกินข้าวหม้อเดียวกันไม่จำเป็นต้องให้ทหารควักเงินจ่ายเอง ทุกคนยึดพื้นที่จังหวัดชิงซานได้แล้ว ผลประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคตก็มองเห็นแล้ว ไปพูดคุยกับแม่ทัพระดับล่างดีๆ รับปากว่าจะชดเชยให้ทุกคนในภายหลังอย่างแน่นอน จากนั้นก็ได้แต่ต้องให้เหล่าแม่ทัพไปช่วยปลอบขวัญทหารระดับล่างอีกทีหนึ่ง
ซางเฉาจงลงนามในบัญชี หักเงินหนึ่งหมื่นเหรียญทองออกมาจากรายการงบประมาณของกองทัพ!
ตั๋วแลกทองหนึ่งหมื่นเหรียญแผ่นหนึ่งส่งมาถึงมือหลานรั่วถิง หลานรั่วถิงส่งต่อให้ซางซูชิงอีกที
ซางซูชิงที่ได้รับตั๋วแลกทองมาคาดการณ์ว่าหนิวโหย่วเต้าเพิ่งจะกลับมา คงยังไม่เข้านอนเร็วขนาดนั้น อีกทั้งตอนที่พบกันก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้พูดคุยกับหนิวโหย่วเต้าอย่างเป็นจริงเป็นจังเลย นางจึงคิดใคร่ครวญ ถือตั๋วแลกทองเดินกลับไปยังเรือนด้านหลังจวนผู้ว่าการจังหวัดอีกครั้ง
หนิวโหย่วเต้ายังไม่เข้านอนจริงอย่างที่นางคิดเอาไว้ เขากำลังอาบน้ำอยู่
“ท่านหญิง พระองค์ไปนั่งรอในห้องรับแขกก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ รอให้เต้าเหยี่ยอาบน้ำเสร็จแล้ว อาตมาจะแจ้งให้เขาทราบดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
หยวนฟางที่เฝ้าอยู่ด้านนอกลองถามดู ในวาจาแฝงความลุกลี้ลุกลนไว้หลายส่วน
เขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเฮยหมู่ตานมีความสัมพันธ์กับเต้าเหยี่ยอย่างไร เอาเป็นว่าเขาเห็นกับตาว่าเฮยหมู่ตานตามเต้าเหยี่ยเข้าไปอาบน้ำด้วย เข้าไปตั้งนานขนาดนี้แล้วยังไม่ออกมา ชายหญิงอาบน้ำอยู่ด้วยกันเช่นนี้จะยังมีเรื่องดีอันใดได้เล่า?
เขาเองก็กลัวว่าหากคนนอกมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี เพราะเฮยหมู่ตานนั้นอายุมากกว่าเต้าเหยี่ยพอสมควร
แต่เขาเองก็ทอดถอนใจอยู่ภายในใจเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติของเต้าเหยี่ย อยากจะหาสตรีแบบใดก็ได้ทั้งนั้น ทำไมต้องมาคลุกคลีอยู่กับเฮยหมู่ตานด้วย?
ซางซูชิงยิ้มเล็กน้อย เอ่ยตอบว่า “ไม่ต้อง ข้าจะรอเต้าเหยี่ยอยู่ที่นี่”
มาตรว่าจะมอบเงินจำนวนมากให้ไม่ได้ แต่การแสดงความจริงใจยังนับว่าเป็นเรื่องสมควร
“เอ่อ…” หยวนฟางพูดไม่ออก ด้วยสถานะของซางซูชิง ทำให้เขาไม่สะดวกจะไล่อีกฝ่ายไปตรงๆ
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะใช้วิธีการใดในการทำให้ซางซูชิงออกไป เพื่อเลี่ยงไม่ให้เห็นภาพที่ดูไม่ดีเข้า ผู้ใดจะทราบเล่าว่าประตูห้องอาบน้ำกลับเปิดออกมาในเวลานี้พอดี
เฮยหมู่ตานที่มีเรือนร่างอวบอิ่มเดินออกมาก่อน สวมชุดลำลองหลังอาบน้ำเสร็จ เส้นผมที่เปียกชื้นสยายปรกไหล่
หนิวโหย่วเต้าที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็สวมชุดลำลองที่แทบจะเป็นแบบเดียวกัน ค่อยๆ เดินตามหลังออกมา
ซางซูชิงที่ยืนอยู่ในลานเรือนมองดูภาพนี้ด้วยความตกตะลึง มองดูชายหญิงที่เห็นได้ชัดว่าเดินออกมาจากห้องอาบน้ำด้วยกันหลังอาบน้ำเสร็จ ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้าง
ทันใดนั้น! หลังจากได้สติกลับมา หัวใจของซางซูชิงพลันบีบตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง รู้สึกเจ็บปวดจนไม่อาจเจ็บปวดไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว เจ็บปวดดั่งใจจะแหลกสลาย!
ในเสี้ยวพริบตานี้เอง หัวใจของนางคล้ายว่าถูกอะไรบางอย่างกระแทกเข้าอย่างแรง ความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายและจิตใจ ความรู้สึกที่ถาโถมโจมตีเข้ามาอย่างกะทันหันในครั้งนี้ได้ตอกย้ำสลักลึกเข้าไปในหัวใจของนาง!
นางไม่รู้ว่าเหตุใดหลังจากที่ตนเห็นภาพเหตุการณ์นี้แล้วถึงได้มีความรู้สึกที่รุนแรงเช่นนี้ ตัวนางที่เฉลียวฉลาดเสมอมากลับลนลานไปชั่วขณะหนึ่ง เรียกได้ว่ามือไม้ปั่นป่วนทำอะไรไม่ถูก หันหลังเดินออกไปทันที
หนิวโหย่วเต้าที่เดินมาถึงริมบันไดและกำลังจะก้าวลงมาก็งุนงงไปเล็กน้อยเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ทำแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร? เขารีบตะโกนเรียก “ท่านหญิงมีธุระหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
ซางซูชิงเดินไปพลางตอบไปพลาง “ไม่มีอะไร เป็นชิงเอ๋อร์ที่เสียมารยาท” ไม่แม้แต่จะหันกลับมาเลย เลี้ยวหายลับผ่านประตูวงเดือนไป
เฮยหมู่ตานที่ยืนอยู่ข้างๆ หนิวโหย่วเต้าคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไร
หนิวโหย่วเต้าค่อยๆ เดินลงบันไดมา เอ่ยถามหยวนฟาง “ท่านหญิงมีธุระใช่หรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า