ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 204

ตอนที่ 204 มือไม้หยาบกระด้าง

ต่อให้เขาไม่ถาม ซางซูชิงก็เตรียมจะอธิบายให้กระจ่างอยู่ดี ตอนนี้เขาถามออกมาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมอีก จึงพยักหน้ารับพลางเอ่ยว่า “ตึงตัวหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะพูดอย่างไร แต่เรื่องที่จำเป็นต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนนั้นก็มีอยู่หลายเรื่องจริงๆ ทั้งปลอบขวัญกองทัพบำรุงราษฎร ดึงใจผู้คนไว้ ทุกหนทุกแห่งล้วนต้องใช้เงิน”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยติดตลก “หรือว่าไม่ได้ทำเหมือนตอนอยู่ที่อำเภอชางหลู ที่ออกไปปล้นคนรวยช่วยคนจนน่ะพ่ะย่ะค่ะ? จังหวัดชิงซานทั้งจังหวัดใหญ่กว่าอำเภอชางหลูมากนักนะพ่ะย่ะค่ะ”

เขาหมายถึงตอนที่เพิ่งไปลงหลักปักฐานที่อำเภอชางหลู ในตอนนั้นซางเฉาจงได้ปล้นคหบดีในอำเภอมาได้พอสมควร ระดมเงินและเสบียงจำนวนหนึ่งมาได้อย่างรวดเร็ว

ซางซูชิงส่ายหน้า “ใช่ว่าจะไม่มีความคิดเช่นนั้น ทว่าตอนนี้แตกต่างไปจากตอนนั้น ตอนนั้นที่ลงมือได้ เป็นเพราะว่าอำเภอชางหลูไม่มีการป้องกันใดๆ ไม่รู้ว่าเสด็จพี่จะลงมือกะทันหัน แต่จังหวัดชิงซานที่อยู่ในยามศึกสงครามมีสถานการณ์ที่ต่างออกไป คหบดีในท้องถิ่นมีเวลาเพียงพอให้หลบหนีไปล่วงหน้า สิ่งใดนำไปได้ล้วนนำไปด้วย เหลือไว้เพียงทรัพย์สินบางส่วนที่ขนย้ายไปไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นคฤหาสน์ที่เต้าเหยี่ยพักอยู่ในตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น ดังนั้นจึงยึดทรัพย์สินมาไม่ได้มากนัก!”

“ส่วนด้านประชาชน เสด็จพี่ได้เรียกเก็บภาษีจนได้จำนวนตามที่ต้องการไปแล้วรอบหนึ่ง หากไม่เป็นเพราะการเรียกเก็บภาษีในครั้งนั้น เกรงว่าแม้แต่เงินหนึ่งหมื่นเหรียญทองก้อนนี้ก็ยังเอาออกมาได้ลำบากนัก เสด็จพี่เพิ่งเข้ามาปกครองจังหวัดชิงซาน ประชาชนกำลังจับตาดูเสด็จพี่ด้วยความหวาดระแวงและสงสัย เพิ่งมาถึงก็เคยเรียกเก็บภาษีไปแล้ว หากทำการเรียกเก็บภาษีอีกครั้งหนึ่งทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน เกรงว่าคงรวมใจประชาชนไว้ไม่ได้ หากประชาชนที่ตกใจหลบหนีไปหรือไปให้ความร่วมมือกับทางราชสำนักขึ้นมา ผลลัพธ์ที่ตามมาคงเลวร้ายเป็นอย่างมาก”

หนิวโหย่วเต้าพยักหน้าเล็กน้อย เขาพอจะนึกภาพออก ที่ทางสำนักหยกสวรรค์ให้การสนับสนุนซางเฉาจงก็เพื่อจะกอบโกยผลประโยชน์ หากยึดพื้นที่มาแล้ว แล้วยังจะให้สำนักหยกสวรรค์เข้ามาช่วยเหลือด้านการเงินอีก นั่นเกรงว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ ที่อีกฝ่ายให้เจ้าเป็นตัวแทนปกครองพื้นที่ ก็เพราะคิดจะหาเงินเข้ากระเป๋า มิใช่จ่ายออกไป

สำนักหยกสวรรค์ทราบว่าทางนี้มีปัญหาลำบาก จึงไม่เรียกเงินจากเจ้าเป็นการชั่วคราว เพียงเท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้ว แล้วนี่เจ้ายังคิดจะไปล้วงเงินจากกระเป๋าของเขาอีกหรือ?

ยังไม่ถึงขั้นที่หมุนเงินต่อไปไม่ได้เลย เจ้าก็หมดปัญญาเสียแล้ว แบบนี้สำนักหยกสวรรค์จะให้เจ้าปกครองพื้นที่ไปทำไม?

ส่วนทางด้านเฟิ่งหลิงปอนั้นไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับผลประโยชน์จากจังหวัดชิงซาน แต่กลับต้องส่งกำลังคนและเสบียงมาให้เป็นจำนวนมาก เวลานี้ย่อมไม่มีความสุข เฟิ่งหลิงปอไหนเลยจะยังสนับสนุนเงินทองให้ทางนี้อีก

เรื่องนี้เป็นตนที่เลินเล่อไป! หนิวโหย่วเต้าเงียบไปเล็กน้อย ยื่นมือไปแตะตั๋วแลกทองบนโต๊ะน้ำชา ค่อยๆ ดันกลับไปทางซางซูชิง

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการรับเอาไว้ ซางซูชิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าระมัดระวัง “เต้าเหยี่ยรังเกียจว่าน้อยไปหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าพยักหน้า “หากว่านี่คือเงินที่เอาไว้ให้พวกกระหม่อมแบ่งกันใช้ล่ะก็ เช่นนั้นเงินจำนวนนี้ก็ถือว่าน้อยไปหน่อยจริงๆ กระทั่งกระหม่อมก็ไม่รู้ว่าควรจะแบ่งให้ทุกคนอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ” ว่าพลางมองไปทางพวกหยวนกังเล็กน้อย

ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธต่อหน้าเข้าเสียแล้ว นี่ทำให้นางไม่รู้จะหาทางลงอย่างไร

บนใบหน้าอัปลักษณ์ของซางซูชิงพลันเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน ความรู้สึกเวลาที่เงินในกระเป๋าขาดแคลนมันช่างน่าอึดอัดจริงๆ นางเอ่ยด้วยสุ้มเสียงที่เจือความวิงวอนไว้หลายส่วน “เต้าเหยี่ยมีบุญคุณต่อพวกเราสองพี่น้องมากนัก หากไม่มีเต้าเหยี่ยพวกเราสองพี่น้องก็คงไม่มีวันนี้ พวกเราเองก็ทราบดีว่าเงินจำนวนนี้มันน้อยเกินไป ทว่าตอนนี้ทางเราลำบากมากจริงๆ เอาไว้จังหวัดชิงซานค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาได้แล้ว พวกเราย่อมต้องชดเชยให้เต้าเหยี่ยตามสมควรอย่างแน่นอน ทว่าตอนนี้…”

หนิวโหย่วเต้ายกมือปรามพลางเอ่ยขัดว่า “ท่านหญิงเข้าใจผิดแล้ว ความหมายของกระหม่อมคือท่านหญิงประเมินแซ่หนิวต่ำไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้ขาดแคลนเงินจำนวนน้อยนิดเช่นนี้เลย”

ว่าแล้วก็หันไปกวักมือเรียกหยวนกัง “มอบเงินสองแสนเหรียญทองให้ท่านอ๋องไว้ใช้จัดการเหตุฉุกเฉินก่อนเถอะ”

หยวนกังไม่พูดไม่จา หยิบตั๋วแลกทองปึกหนึ่งออกมา นับออกมายี่สิบใบ เดินเข้ามาหาซางซูชิงที่ตกตะลึงอยู่ วางตั๋วแลกทองมูลค่าหนึ่งหมื่นเหรียญทองจำนวนยี่สิบใบไว้ตรงหน้าซางซูชิง จากนั้นถอยกลับไปอีกครั้ง

ซางซูชิงมองตั๋วแลกทองปึกนั้นด้วยความตกตะลึง จากนั้นเงยหน้ามองหนิวโหย่วเต้าอีกครั้ง แววตาซับซ้อนยิ่ง

หนิวโหย่วเต้าผายมือพลางเอ่ยว่า “เงินสองแสนเหรียญทองนี้ ท่านหญิงโปรดเป็นตัวแทนนำไปให้ท่านอ๋องใช้จ่ายสำหรับเหตุฉุกเฉินเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

สำหรับเขาแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยให้กลุ่มอิทธิพลอื่นมาบงการซางเฉาจงไปตลอด เพราะแบบนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อความปลอดภัยของเขา เขาสิ้นเปลืองความคิดจิตใจช่วยเหลือและสนับสนุนซางเฉาจงขึ้นมา เขาไม่ได้ทำเพื่อสองพี่น้องตระกูลซางเท่านั้น แต่ทำเพื่อความปลอดภัยในปัจจุบันนี้ และนับจากนี้ไปจนถึงในอนาคตด้วย เพื่อเป็นหลักประกันให้คนที่ติดตามและทำงานรับใช้เขาเหล่านั้น

ดังนั้น ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะชิงอำนาจบงการซางเฉาจงมาจากสำนักหยกสวรรค์ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาลงมือเท่านั้น ในเมื่อทางสำนักหยกสวรรค์ไม่ยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีก

ซางซูชิงพลันรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าต่อหน้าผู้คน นำเงินหมื่นเหรียญทองมาให้อีกฝ่าย ทว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการ ซ้ำยังมอบเงินสองแสนเหรียญทองให้ทางนี้ไว้ใช้คลี่คลายวิกฤตแทนด้วย

นี่คือผลลัพธ์ที่นางไม่เคยนึกถึงมาก่อน ทำให้นางรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก!

ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา สีหน้ายิ่งดูบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ นางลุกขึ้นยืน กัดฟันขบริมฝีปาก

ไม่ทันที่นางจะพูดอะไร หนิวโหย่วเต้าก็ทราบถึงความคิดของนางแล้ว จึงโบกมือพลางเอ่ยว่า “ท่านหญิงอย่าได้เข้าใจผิดไป เงินจำนวนนี้กระหม่อมมอบให้ท่านอ๋องหยิบยืมชั่วคราว มิได้ให้เปล่าๆ วันหน้าหากมีเงินแล้วค่อยนำมาคืนกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”

ยามนี้การเงินของจังหวัดชิงซานอยู่ในสภาวะขัดสน หาหยิบยืมใครไม่ได้เลย เวลานี้มีคนยินดีเสนอเงินให้ยืมโดยไม่มีเงื่อนไขผูกมัดใดๆ ยังจะถือศักดิ์ศรีไม่รับไว้อยู่อีกหรือ?

แม้ว่าซางซูชิงจะไม่ต้องการ แต่ความจริงที่เผชิญอยู่ในตอนนี้ทำให้นางยากจะปฏิเสธได้

สุดท้ายก็ยอมรับไว้ด้วยความรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อนางกลับไปถึงจวนผู้ว่าการจังหวัดที่อยู่ส่วนหน้า ก็มีคนนำทางนางไปที่ห้องหนังสือของท่านอ๋องทันที ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงกำลังรอนางอยู่ที่ห้องหนังสือ

เมื่อพบหน้ากัน ซางเฉาจงเห็นว่าสีหน้าซางซูชิงดูผิดปกติ จึงรีบถาม “ชิงเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้าง?”

ซางซูชิงล้วงตั๋วแลกทองหมื่นเหรียญทองออกมาจากในแขนเสื้อ วางลงบนโต๊ะหนังสือ

หลานรั่วถิงและซางเฉาจงมองหน้ากัน ซางเฉาจงลองถามดู “เขารังเกียจว่าน้อยไปหรือ?”

ซางซูชิงล้วงตั๋วแลกทองอีกปึกหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ วางลงบนโต๊ะ

หลานรั่วถิงและซางเฉาจงตะลึงงัน หลานรั่วถิงหยิบตั๋วแลกทองมานับดู เอ่ยด้วยความประหลาดใจ “สองแสนเหรียญทอง? ท่านหญิง นี่มันเรื่องอะไรกันพ่ะย่ะค่ะ?”

“เต้าเหยี่ยทราบว่าการเงินของทางนี้กำลังขัดสน จึงมอบตั๋วแลกทองสองแสนเหรียญทองให้พวกเรายืมมาใช้จัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า