ตอนที่ 218 หนิวโหย่วเต้า นับว่าเจ้าแน่จริง!
เมื่อเห็นอนุหร่วนละล้าละลังไม่ยอมตอบ
เซ่าฝูปอเอ่ยเร่งเร้า “ท่านแม่ จะมัวลังเลอีกไม่ได้แล้วนะขอรับ หากชักช้าจะไม่ทันการ! ไอ้สุนัขนั่นมีเล่ห์กลมากนัก หากปล่อยให้เขารู้ตัวเข้า ก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะงัดลูกไม้อันใดออกมาอีก หากพลาดโอกาสครั้งนี้ไปจริงๆ เราจะไม่มีโอกาสดีๆ แบบนี้อีกแล้วนะขอรับ!”
อนุหร่วนลังเลเป็นอย่างยิ่ง “จะทำสำเร็จได้หรือ?”
เซ่าอู๋ปอกล่าวว่า “ครั้งนี้ไม่มีข้อผิดพลาดแน่ขอรับ ก่อนหน้านี้ที่เราทำพลาดกัน เป็นเพราะเขายังมีโอกาสให้พลิกสถานการณ์ แต่สำหรับสำนักเขามหายานนั้นต่างออกไป หากไปทำให้สำนักเขามหายานโกรธเกรี้ยวจนต้องลงมือ แม้แต่ท่านพ่อก็ปกป้องเขาไว้ไม่ได้ เขาต้องตายแน่นอนขอรับ!”
แม้ว่าสองพี่น้องจะเอ่ยรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่อนุหร่วนยังคงกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยอย่างขมขื่น “พวกเจ้าทำแบบนี้เท่ากับเป็นการบีบคั้นเขาไปสู่ความตาย นี่เท่ากับทำให้ตัวเองไม่เหลือทางถอยเช่นกันนะ!”
เซ่าฝูปอเอ่ยเสียงขรึม “ท่านแม่วางใจเถิดขอรับ พวกเราเตรียมทางถอยไว้แล้ว พวกเราปรึกษากันเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้พวกเราสองพี่น้องไม่จำเป็นต้องออกหน้าพร้อมกัน ให้ข้าออกหน้าเปิดโปงคนเดียวก็พอ ท่านกับพี่รองแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง หากผลที่ออกมาไม่เป็นเหมือนอย่างที่เราคิด ก็ให้ข้ารับผิดชอบแค่เพียงคนเดียวก็พอ!”
พี่รองอย่างเซ่าอู๋ปอก้มหน้าเงียบงัน
อนุหร่วนมองลูกรอง จากนั้นก็มองลูกสาม เอ่ยด้วยความกลัดกลุ้มว่า “ให้คนอื่นออกหน้าเปิดโปงแทนมิได้หรือ? เหตุใดต้องออกหน้าด้วยตัวเองด้วย?”
นางหวาดกลัวเซ่าผิงปอจริงๆ หลายปีมานี้เรียกได้ว่าถูกเซ่าผิงปอทำให้หวาดกลัวอย่างแท้จริง
เพื่อจะควบคุมสถานการณ์ภายในครอบครัวเอาไว้แล้ว เซ่าผิงปอลงมืออย่างโหดเหี้ยมเสมอมา เด็ดขาดเป็นอย่างยิ่ง ทำให้พวกนางไม่กล้าก่อเรื่อง!
เซ่าอู๋ปอเอ่ยเสียงเบา “นี่คือการต่อสู้ที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ไม่อาจเหลือทางรอดให้เขาได้ และเพื่อจะป้องกันไม่ให้สำนักเขามหายานและท่านพ่อปกป้องทางนั้นไว้ ก็มีแต่ต้องให้พวกเราสองพี่น้องออกหน้ากดดันด้วยตัวเอง ถึงจะสามารถบีบเขาไปสู่ความตายอย่างสมบูรณ์ได้!”
อนุหร่วนเอ่ยว่า “พวกเจ้าบีบเขาไปสู่ความตาย พี่น้องห้ำหั่นกันเอง แล้วท่านพ่อของเจ้าจะทนรับไหวได้อย่างไร จะให้ท่านพ่อของเจ้ามองพวกเจ้าอย่างไร? ท่านพ่อของเจ้าจะให้อภัยพวกเจ้าได้หรือ?”
เซ่าฝูปอกล่าวว่า “แล้วตอนที่เขาบีบพวกเรา ท่านพ่อเคยพูดอะไรบ้างหรือเปล่า? ไม่ให้อภัยพวกเราแล้วเป็นอย่างไร? ลูกชายของเขาก็มีแค่พวกเราสามคน ถ้าพี่ใหญ่ตายไปแล้ว ท่านพ่อคงจะไม่มาสังหารพวกเราต่อกระมัง? หาไม่แล้วหากเขาตายไป ผู้ใดจะเป็นคนไว้ทุกข์ส่งวิญญาณให้เขาเล่า? จะมีเพิ่มอีกคนก็เกรงว่าคงจะโตไม่ทันใช้หรือเปล่า? เด็กเล็กไหนเลยจะสามารถปกครองมณฑลเป่ยโจวได้? อีกอย่าง หากให้ข้าแบกรับเรื่องนี้เพียงคนเดียว ไม่ซัดทอดไปถึงพี่รอง ขอเพียงหลังจากนี้พี่รองมีอำนาจขึ้นมา คนอื่นก็ต้องเห็นแก่หน้าพี่รอง ไม่กล้าทำอะไรข้า ถึงข้าต้องแบกรับความคับข้องหมองใจไว้บ้างก็ไม่เป็นไรขอรับ!”
เซ่าอู๋ปอเอ่ยขึ้นว่า “ท่านแม่วางใจเถิดขอรับ ขอเพียงโค่นเขาได้ น้องเล็กจะไม่เป็นอะไรแน่นอน อย่างมากก็ได้รับโทษเล็กน้อย หากพลาดโอกาสเช่นนี้ไป กลับจะกลายเป็นพวกเราที่ต้องถูกเขาบีบคั้นไปสู่ความตายในไม่ช้าก็เร็ว! ท่านแม่ ยามที่ต้องเด็ดขาดก็ควรเด็ดขาดขอรับ จะมาใจอ่อนไม่ได้!”
“เอาล่ะ! แล้วแต่พวกเจ้าแล้วกัน!” อนุหร่วนส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
“ขอรับ!” เซ่าอู๋ปอพยักหน้า ประสานมือกล่าวว่า “ท่านแม่โปรดจับตามองทางด้านท่านพ่อเอาไว้นะขอรับ รอจังหวะประสานกับพวกเรา”
เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว อนุหร่วนก็ถูกบุตรชายทั้งสองบีบคั้นจนหมดทางเลือกแล้วเช่นกัน ได้แต่ต้องไปทำตามแผนการของบุตรชาย
สองพี่น้องยืนอยู่ใต้ชายคา เซ่าอู๋ปอเงยหน้ามองฟ้า “จะมีชัยหรือพ่ายแพ้ก็ขึ้นอยู่กับวันนี้ น้องสาม ระวังตัวด้วย!”
เซ่าฝูปอยิ้มออกมา “พี่รอง หลังจัดการเรื่องนี้สำเร็จ ข้าอยากหลับนอนกับผู้หญิงของเขา!”
“ใคร?” เซ่าอู๋ปอมึนงง เท่าที่เขาทราบมา พี่ใหญ่ไม่มีผู้หญิง มีเพียงสาวใช้ต้นห้องไม่กี่คน นี่น่าจะนับเป็นผู้หญิงของพี่ใหญ่ไม่ได้กระมัง?
เซ่าฝูปอหัวเราะฮี่ๆ เอ่ยว่า “ถังอี๋! ผู้หญิงนางนั้นรูปโฉมงดงามจริงๆ หน้าตางดงาม เรือนร่างเย้ายวน บุคลิกสง่างาม หลังเสร็จเรื่องข้าต้องเอาผู้หญิงที่เขาชอบพอมาหลับนอนด้วยสักหน่อยให้ได้ มิเช่นนั้นข้าคงยากจะระบายความเกลียดชังที่สะสมอยู่ในใจในช่วงเวลาหลายปีมานี้ได้!”
“เรื่องนี้…สำนักสวรรค์พิสุทธิ์มาพึ่งพิงมณฑลเป่ยโจวของพวกเรา นับว่าจัดการได้ไม่ยาก แต่สามีของถังอี๋คือหนิวโหย่วเต้า ฝีมือของพี่ใหญ่เป็นอย่างไรเจ้าเองก็รู้ดี คนผู้นั้นสามารถงัดข้อกับพี่ใหญ่ได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่ ไม่จำเป็นต้องไปผูกความแค้นกับคนแบบนี้โดยไม่มีเหตุผลเลย…” เมื่อเซ่าอู๋ปอที่กำลังคิดไตร่ตรองเห็นสีหน้าผิดหวังของน้องชาย เขาก็เปลี่ยนท่าทางทันที ยื่นมือไปตบไหล่อีกฝ่าย “ได้! ข้าจะคิดหาทางจัดการเรื่องนี้ ข้าต้องคิดหาทางทำให้นางมาปรนเปรอเจ้าได้แน่ ต่อให้เจ้าถูกท่านพ่อส่งตัวเข้าไปอยู่ในคุก ข้าก็จะคิดหาทางส่งนางเข้าไปในคุกแล้วเปลื้องผ้าสร้างความสำราญให้เจ้าให้ได้!”
“ฮ่าๆ ตกลง รอฟังข่าวดีจากข้าแล้วกัน!” เซ่าฝูปอยักคิ้ว ตบอกปั่กๆ ก่อนจะเดินอาดๆ จากไป
…..
ณ จวนท่องคลื่น ภายในห้องหนังสือ เซ่าผิงปอกำลังตวัดพู่กันลงบนเอกสาร เขียนตำหนิเจ้าหน้าที่ในบางท้องที่ที่ทำงานไม่เรียบร้อย!
ในเวลานี้เอง พ่อบ้านเซ่าซานเสิ่งเดินเข้ามาในห้องหนังสืออย่างเร่งร้อน ไม่สนใจกฎเกณฑ์ใดๆ เอ่ยขึ้นด้วยความตื่นตระหนกว่า “คุณชายใหญ่ เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”
เซ่าผิงปอเงยหน้ามองคราหนึ่ง ก้มลงเขียนคำวิจารณ์ของตนต่อ เอ่ยอย่างเยือกเย็น “ร้อนใจอะไร มีอะไรค่อยๆ ว่ามา ฟ้าไม่ถล่มหรอก!”
เซ่าซานเสิ่งไม่มีความคิดว่าจะค่อยๆ พูดเลย เมื่อเห็นว่าเซ่าผิงปอยังคงมีท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน เขากลับยิ่งร้อนใจกว่าเดิม กล่าวด้วยความร้อนรนว่า “คุณชายใหญ่ เกิดเรื่องแล้วจริงๆ นะขอรับ! ทางอนุหร่วนทราบเรื่องที่คุณชายใหญ่คิดจะหลอกใช้หอหิมะเหมันต์กำจัดหนิวโหย่วเต้าแล้วขอรับ คุณชายรอง คุณชายสามและอนุหร่วนวางแผนจะเปิดโปงเรื่องนี้ เวลานี้พวกเขามุ่งหน้าไปหาจงหยางซวี่แล้ว ขวางไม่ทันแล้วขอรับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า