ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 224

ตอนที่ 224 ปัญหาใหญ่

แน่นอน เขาเองก็ไม่ได้คิดจะช่วยเหลือสองพี่น้องคู่นั้นจริงๆ ไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหายเสียหน่อย ไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ ไหนเลยจะมีจิตใจดีถึงขั้นให้คนเสี่ยงภัยไปช่วยเหลือได้ หากแต่เป็นเพราะเขารู้ดีว่าต่อให้มณฑลเป่ยโจวตกอยู่ในมือของสองพี่น้องคู่นั้นก็ไม่มีอะไรน่ากังวล

แต่เขายังคงมีคำพูดประโยคหนึ่งที่อยากจะพูด ศัตรูที่เก่งกาจไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือการร่วมงานกับคนโง่!

แล้วก็ทำให้เขาจำต้องทอดถอนใจออกมาอีก “สามแม่ลูกอาศัยอยู่ในจวนผู้ว่าการมณฑล ทว่าเซ่าผิงปอนึกอยากฆ่าก็ฆ่าได้ทันที จากจุดนี้เห็นได้ว่าเจ้านั่นวางกำลังแทรกซึมลึกเข้าไปในจวนผู้ว่าการมณฑล ลึกมากกว่าที่พวกเราคาดการณ์ไว้ แล้วก็คงจะลึกเกินกว่าที่เซ่าเติงอวิ๋นจะจินตนาการได้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นเซ่าเติงอวิ๋นไม่มีทางปล่อยให้สามแม่ลูกต้องถูกทำร้ายง่ายๆ แบบนี้แน่ เพราะถึงอย่างไรสองคนนั้นก็เป็นบุตรชายแท้ๆ ของเขา ดังนั้นการที่เซ่าผิงปอสามารถสังหารสามแม่ลูกได้ง่ายๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร”

หยวนฟางมีสีหน้ากระจ่างขึ้นมาในทันใด ค่อยๆ พยักหน้า จากนั้นเอ่ยถามด้วยความฉงนอีกครั้งว่า “ในจดหมายกล่าวว่าหลังเกิดเรื่องขึ้น ถังอี๋ที่ปกติสามารถเข้าพบเซ่าผิงปอได้ทุกเมื่อได้ไปขอเข้าพบเซ่าผิงปอเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ได้พบ หรือว่าเซ่าผิงปอจะตกที่นั่งลำบากเข้าแล้วขอรับ?”

หนิวโหย่วเต้าโบกมือ “ก็เป็นเพราะว่าถังอี๋ไม่ได้เจอเขาเนี่ยแหละ มันถึงได้สมเหตุสมผล ข้าถึงได้มั่นใจว่าเซ่าผิงปอกำจัดสามแม่ลูกทิ้ง เซ่าผิงปอก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น มีความเป็นไปได้สูงว่าเซ่าผิงปอจะถูกควบคุมตัวไว้แล้ว ข้าว่าทางสำนักเขามหายานคงตัดสินใจได้ลำบากเช่นกัน ทางนั้นคงอยากจะเห็นปฏิกิริยาจากทางข้า แล้วก็อยากเห็นปฏิกิริยาจากทางหอหิมะเหมันต์ เตรียมพร้อมที่จะมอบตัวเซ่าผิงปอเพื่อเป็นคำอธิบายให้ทุกเมื่อ ภายในช่วงนี้ เกรงว่าเซ่าผิงปอคงยากจะมีอิสระได้!”

หยวนฟางสงสัย “เต้าเหยี่ย แผนการนี้ของท่านทำเพื่อกดดันสำนักเขามหายานให้สังหารเขา แล้วสำนักเขามหายานจะกล้าเสี่ยงปล่อยเขาไปเช่นนี้หรือขอรับ?”

“แม่งเอ่ย ข้ายอมรับว่าเขาแน่จริง!” กล่าวมาถึงตรงนี้หนิวโหย่วเต้าก็อดสบถคำหยาบออกมาไม่ได้ เบือนหน้าไปถ่มน้ำลายคำหนึ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าเย้ยหยันตัวเอง “ตามหลักแล้วหากสำนักเขามหายานต้องการสังหารเขา ในช่วงเวลาแบบนี้เขาก็ยิ่งไม่ควรไปยั่วโมโหเซ่าเติงอวิ๋นถึงจะถูก หรือเขาคิดจะทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายลงไปมากกว่าเดิม? ตอนแรกข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเจ้านั่นมันคิดจะทำอะไร แต่เมื่อนำเอาสถานการณ์ของทางนั้นมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน แล้ววิเคราะห์ไปตามทิศทางของเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องราวมันกลับเข้าใจได้ไม่ยาก สำนักเขามหายานต้องการสังหารเซ่าผิงปอ ทว่าเซ่าผิงปอกลับสังหารพวกอนุหร่วนแม่ลูกทิ้งในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ดังนั้นที่สำนักเขามหายานไม่สังหารเซ่าผิงปอ นี่หมายความว่าอย่างไร? จุดเปลี่ยนของเรื่องราวก็อยู่ที่การตายของพวกอนุหร่วนแม่ลูกนั่นแหละ”

เขายกมือไพล่หลังเงยหน้ามองฟ้า ถอนใจพลางเอ่ยว่า “หากจับประเด็นสำคัญนี้ได้ก็จะเข้าใจทันที ความเป็นความตายของพวกอนุหร่วนสำคัญต่อสำนักเขามหายานหรือ? ไม่สำคัญเลย! สำนักเขามหายานกลัวเซ่าผิงปอหรือ? เตรียมจะสังหารเขาแล้วด้วยซ้ำ ย่อมไม่กลัวแน่นอน! เช่นนั้นเหตุใดพอพวกอนุหร่วนแม่ลูกตาย สำนักเขามหายานถึงไม่กล้าลงมือกับเซ่าผิงปอล่ะ?”

ดวงตาหยวนฟางพลันเปล่งประกาย “เพราะหวั่นเกรงเซ่าเติงอวิ๋น!”

หนิวโหย่วเต้าพยักหน้า “แล้วเหตุใดจะสังหารเซ่าผิงปอถึงต้องหวั่นเกรงเซ่าเติงอวิ๋นด้วย? เหตุผลง่ายมาก เพราะเซ่าผิงปอเป็นลูกชายของเซ่าเติงอวิ๋นอย่างไรล่ะ! แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงได้ไม่พะวงกับเรื่องนี้ล่ะ? ก็เพราะพวกอนุหร่วนแม่ลูกยังไม่ตายอย่างไรล่ะ! แล้วเหตุใดพอพวกอนุหร่วนแม่ลูกตายถึงต้องหวั่นเกรงล่ะ?”

หยวนฟางกระจ่างในทันใด เอ่ยโพล่งออกมา “เพราะเซ่าเติงอวิ๋นเหลือลูกชายคนนี้เพียงผู้เดียว!”

“ถูกต้อง! เซ่าเติงอวิ๋นเหลือลูกชายคนนี้เพียงคนเดียวแล้ว หากสำนักเขามหายานยังสังหารทิ้งอีกล่ะก็…สำนักเขามหายานหาใช่หวาดกลัวเซ่าเติงอวิ๋นไม่ สิ่งเดียวที่ทำให้สำนักเขามหายานหวาดกลัวเซ่าเติงอวิ๋นได้ก็คือผลประโยชน์ของสำนักเขามหายานที่อยู่ในมณฑลเป่ยโจว สำนักเขามหายานกลัวว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นในมณฑลเป่ยโจว ในสถานการณ์ที่ด้านบนและด้านล่างมีสองแคว้นคอยจับจ้องตาเป็นมันอยู่ มณฑลเป่ยโจวจะเกิดความวุ่นวายขึ้นไม่ได้” หนิวโหย่วเต้ายิ้มออกมา เอ่ยด้วยสีหน้าจนปัญญา “ข้าถึงได้บอกว่าไอ้สารเลวนั่นมันแน่จริง หากเขาไม่ทำเช่นนี้ ข้าก็คงจะคิดไม่ถึงเรื่องนี้เช่นกัน ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ เจ้านั่นยังใช้วิธีนี้กอบกู้สถานการณ์กลับมาได้ เป็นไปได้สูงว่าเขาจะหยิบยกเรื่องมณฑลเป่ยโจวที่อยู่ใต้การปกครองของเซ่าเติงอวิ๋นมาข่มขู่ ทำให้สำนักเขามหายานต้องห่วงหน้าพะวงหลัง!”

หยวนฟางสูดหายใจเฮือกหนึ่ง ใช้วิธีสังหารน้องชายร่วมสายเลือดและแม่เลี้ยงเพื่อให้ตัวเองรอด โหดเหี้ยมจริงๆ!

ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเต้าเหยี่ยถึงต้องกำจัดเซ่าผิงปอให้ได้ สายตาของเต้าเหยี่ยเองก็นับว่าเฉียบคมเช่นกัน

“เต้าเหยี่ย บีบคั้นเขาจนทำเรื่องเช่นนี้ออกมา นี่นับเป็นการผูกความแค้นกันแล้ว คนแบบนี้เก็บเอาไว้ไม่ได้ คิดหาทางกำจัดเถอะขอรับ!”

หนิวโหย่วเต้ายิ้มเยาะตัวเอง “เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากหรือ? ข้าทำถึงขนาดนี้แล้วก็ยังกำจัดเขาไม่ได้ ตอนนี้ข้ายังทำอะไรเขาไม่ได้จริงๆ เขาคงรู้แล้วล่ะว่าข้าไม่กล้าไปแจ้งกับทางหอหิมะเหมันต์ มิเช่นนั้นเขาคงไม่กล้าใช้แผนชั่วร้ายเช่นนี้! คนผู้นี้รับมือได้ยากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ เป็นตัวปัญหาใหญ่!”

หยวนฟางใคร่ครวญพลางลูบศีรษะที่ล้านเลี่ยน จู่ๆ พลันเอ่ยขึ้นมาว่า “เต้าเหยี่ย ข้ามีแผนการอย่างหนึ่งขอรับ”

หนิวโหย่วเต้าร้องโอ้ มองดูเขา ถามด้วยความสนใจว่า “ลองว่ามาสิ”

หยวนฟางยิ้มเจ้าเล่ห์ เอ่ยว่า “ส่งคนไปปล่อยข่าวลือในมณฑลเป่ยโจวขอรับ บอกว่าเซ่าผิงปอต้องการสังหารเซ่าเติงอวิ๋นเพื่อชิงอำนาจ โชคร้ายถูกเซ่าเติงอวิ๋นจับได้ระหว่างที่หลบหนี! แม่ทัพนายทหารในมณฑลเป่ยโจวต้องไปสืบหาความจริงแน่ขอรับ เมื่อเห็นว่าเซ่าผิงปอถูกจับไว้จริงๆ ถึงตอนนั้น…ฮี่ฮี่”

หนิวโหย่วเต้าส่ายหน้า “ไม่มีประโยชน์ เพลงกล่อมเด็กครั้งก่อนไม่ได้ทำให้พวกเขาพ่อลูกแตกกัน กลับทำให้เซ่าเติงอวิ๋นให้ความสำคัญกับเขายิ่งขึ้น เห็นได้ว่าเซ่าเติงอวิ๋นคนนี้เป็นยอดแม่ทัพจริงๆ จิตใจมั่นคงนัก ไม่แปลกเลยที่ในอดีตจะได้รับความชื่นชมจากซางเจี้ยนปั๋ว ครั้งนี้เซ่าเติงอวิ๋นไม่จัดการเขา เกรงว่าคงยังปกป้องเขาอยู่ ขอเพียงเซ่าเติงอวิ๋นคิดจะปกป้องเขา เมื่อแม่ทัพนายทหารแห่แหนกันมา พวกเขาพ่อลูกคงร่วมมือเล่นละครกัน ข่าวลือย่อมหายไปเอง”

หยวนฟางขมวดคิ้วพึมพำ “อย่างนั้นก็น่าเสียดายจริงๆ น่าเสียดายที่ทำไม่ได้…”

หนิวโหย่วเต้าเข้าใจเจตนาที่เขาจะสื่อ เรื่องเกี่ยวพันไปถึงหอหิมะเหมันต์ อีกทั้งหอหิมะเหมันต์ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดเช่นนั้น จากข่าวที่ส่งมาจากทางมณฑลจินโจว กระทั่งแม่บ้านใหญ่ของหอหิมะเหมันต์ก็รู้ตัวแล้ว ทางนี้ไม่สะดวกจะเปิดเผยสถานการณ์ที่แท้จริงของทางเซ่าผิงปอออกไปจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงจะทำให้ชื่อเสียงของเซ่าผิงปอต้องย่อยยับป่นปี้ได้แน่

ทว่าตัวเขาหนิวโหย่วเต้าไม่กล้าทำแบบนั้นจริงๆ และเขาเชื่อว่าเซ่าผิงปอก็ไม่กล้าไปวุ่นวายกับทางหอหิมะเหมันต์เช่นกัน

แอบอ้างประปรายครั้งสองครั้งยังพอว่า แต่หากลากหอหิมะเหมันต์ไปทางนั้นทีทางนี้ที คิดว่าหอหิมะเหมันต์ปั้นขึ้นมาจากดินเหนียวหรือ?

กระทั่งหุ่นดินเหนียวยังโกรธเป็น นับประสาอะไรกับหอหิมะเหมันต์? หากกล้าหาเรื่องวุ่นวายไปให้อีกฝ่ายจริงๆ หากทำให้อีกฝ่ายโมโหขึ้นมา คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมนั่งฟังพวกเจ้าค่อยๆ อธิบายหรือ? เกรงว่าใครก็อย่าได้คิดว่าจะหนีรอดเลย!

เขาตบไหล่หยวนฟางเบาๆ “ก็ไม่นับว่าน่าเสียดายหรอก ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ข่าวลือที่หอหิมะเหมันต์ในครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่ข้า แต่คนที่มีความแค้นกับข้าหรือคิดจะเล่นงานข้า ขอเพียงไม่อยากโดนหอหิมะเหมันต์จับตามอง พวกเขาก็ต้องทำตัวสงบเสงี่ยมกันหน่อย อย่างน้อยตอนนี้ราชสำนักแคว้นเยี่ยนก็คงไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรอีก”

“ดูเหมือนจะใช่นะขอรับ เท่ากับเซ่าผิงปอมอบยันต์คุ้มภัยให้เต้าเหยี่ยเสียแล้ว!” หยวนฟางหัวเราะฮี่ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า