ตอนที่ 238 ศิษย์หมอผี
ที่เขาใช้คำว่า ‘พวกเรา’ มิได้เป็นการพูดเพื่อเอาใจสามสำนัก หากแต่เป็นเพราะเรื่องนี้ก็เกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของเขาด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่จะได้สามสำนักมาเป็นกำลังเสริมของเขา ทว่าในแต่ละปียังต้องมอบเงินให้สำนักเบญจคีรีอย่างน้อยห้าแสนเหรียญทองด้วย มิใช่ให้แค่เพียงครั้งเดียว แต่ต้องให้ทุกปี เงินของปีนี้มอบให้ไปแล้ว แต่เงินที่เหลืออยู่ในมือตอนนี้ไม่พอสำหรับปีหน้า เขาเองก็จำเป็นต้องหาลู่ทางทำเงินที่มั่นคงสักทางเช่นกัน
การที่ต้องมอบกำไรส่วนใหญ่ที่ได้จากการขายสุราให้สำนักหยกสวรรค์ไปมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาไม่มีความสามารถในการดูแลจัดการ หากไม่อาศัยคนที่มีอำนาจคอยปกป้อง เขาก็จะถูกรุมทึ้งกัดกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกทันที
หากว่ากันในอีกแง่หนึ่งแล้ว เขาก่อเรื่องขึ้นมามากมายขนาดนั้น การที่ยังสามารถอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยได้ ความจริงสำนักหยกสวรรค์ก็คือร่มกันภัยของเขา ส่วนกำไรที่ได้จากการขายสุราก็นับเป็นค่าคุ้มครอง
……
ภายในคุกใต้ดิน เซ่าซานเสิ่งโบกมือส่งสัญญาณให้ผู้คุมเร่งมือ
ประตูห้องขังเปิดออก เซ่าซานเสิ่งเดินเข้าไป ประสานมือเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณชายใหญ่ ไม่เป็นไรแล้วขอรับ ท่านผู้ว่าการมีคำสั่งลงมาแล้ว ท่านออกมาได้แล้วขอรับ”
เซ่าผิงปอที่ยังคงนั่งจัดการเอกสารอยู่หน้าโต๊ะผงะไปเล็กน้อย เอ่ยถาม “ข้าคาดการณ์ไว้ว่าจะต้องถูกขังไปหลายเดือน เหตุใดถึงปล่อยข้าออกไปเร็วขนาดนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เซ่าซานเสิ่งกล่าวว่า “สำนักเขามหายานไม่ดึงดันที่จะเอาผิดแล้ว คุณชายย่อมต้องออกไปได้แล้วขอรับ”
เซ่าผิงปอเอ่ยว่า “ผิดปกติ ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ มิเช่นนั้นสำนักเขามหายานไม่มีทางรีบปล่อยตัวข้าเร็วขนาดนี้”
เซ่าซานเสิ่งลังเลเล็กน้อย โบกมือสื่อให้ผู้คุ้มกันด้านนอกถอยออกไป จากนั้นเอ่ยว่า “ไม่ว่าจะเป็นทางหอหิมะเหมันต์ หรือว่าทางหนิวโหย่วเต้าก็ล้วนไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เห็นได้ชัดว่าการคาดการณ์ของคุณชายใหญ่ถูกต้อง ดังนั้นสำนักเขามหายานจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องคุมขังคุณชายใหญ่ต่อไปครับ”
เซ่าผิงปอวางพู่กันลง ลุกขึ้นเดินออกมา “ไม่ สำนักเขามหายานจะต้องจับตาดูให้นานกว่านี้อีกหน่อยถึงจะยอมวางใจได้แน่นอน พูดมา ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
เซ่าซานเสิ่งมีท่าทางเหมือนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
เซ่าผิงปอมองดูท่าทีของเขาพลางใคร่ครวญดูเล็กน้อย จู่ๆ ก็ยิ้มขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “เห็นทีว่าคงมิใช่เรื่องดีอันใด ทั้งยั้งเป็นการพุ่งเป้ามาที่ข้าด้วย ด้านนอกปรากฏข่าวลือขึ้นแล้ว บอกว่าข้าสังหารอนุหร่วนกระมัง?”
เซ่าซานเสิ่งเงยหน้าขึ้นทันที “คุณชายทราบได้อย่างไรขอรับ?”
เซ่าผิงปอหรี่ตาลง “ยังต้องให้พูดอีกหรือ? หนิวโหย่วเต้ารู้เรื่องนี้ดี ไหนเลยจะยอมพลาดโอกาสสาดน้ำสกปรกใส่ข้าได้? ทันทีที่ปรากฏข่าวลือขึ้น แม่ทัพนายกองตั้งแต่บนจรดล่างต้องมาสืบถามความจริงแน่ หากข้าถูกคุมขังอยู่ที่นี่ไม่โผล่หน้าไป นั่นก็เท่ากับเป็นยืนยันแล้วว่าข่าวลือเป็นความจริง ผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร? เช่นนั้นแม่ทัพนายกองตั้งแต่บนจรดล่างต้องใคร่ครวญถึงเรื่องเรื่องหนึ่งแน่ นั่นคือถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับข้า ท่านพ่อก็จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไร้ผู้สืบทอด ในอนาคตผู้ใดจะมารับช่วงต่อตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลเป่ยโจวเล่า? เมื่อถึงเวลานั้นจิตใจคนจะสั่นคลอน ต้องเกิดเหตุการณ์แอบแก่งแย่งชิงอำนาจกันอย่างลับๆ แน่ สำนักเขามหายานย่อมไม่อยากให้มีคนมาฉวยโอกาสตอนที่มณฑลเป่ยโจวกำลังวุ่นวายก่อเรื่องขึ้นมา ไม่แน่ว่าลับหลังอาจจะมีคนไปแสดงไมตรีต่อสำนักเขามหายานเพื่อหวังว่าจะได้แทนที่ท่านพ่อแล้วก็เป็นได้ ทำให้สำนักเขามหายานได้รับแรงกดดัน สำนักเขามหายานทราบดีว่ามณฑลเป่ยโจวในตอนนี้ ยังไม่มีผู้ใดที่มากบารมีพอจะแทนที่ท่านพ่อได้ หากเปลี่ยนคนอื่นมาปกครองมณฑลเป่ยโจว จะมีใครทำให้ผู้อื่นยอมเชื่อฟังได้หรือ? เป่ยโจวต้องโกลาหลแน่นอน ความกลัวในเรื่องนี้ต่างหากที่เป็นเหตุผลที่ปล่อยตัวข้าออกไปก่อนกำหนดกระมัง?”
เซ่าซานเสิ่งประสานมือกล่าวด้วยสีหน้าเลื่อมใส “คุณชายใหญ่ปราดเปรื่องนัก ปรากฏข่าวลือขึ้นจริงๆ ขอรับ แม่ทัพในเขตต่างๆ ของมณฑลเป่ยโจวพากันเข้าเมืองมา ต้องการพบท่านผู้ว่าการ เห็นได้ชัดว่าต้องการมาสืบหาความจริง ตอนนี้ทุกคนต่างอยู่ในห้องโถงว่าราชการแล้ว ท่านผู้ว่าการให้ท่านออกไปพบพวกเขาด้วยกันขอรับ”
เซ่าผิงปอพยักหน้ารับ สื่อว่าเข้าใจแล้ว
เพียงแต่เซ่าซานเสิ่งลังเลขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยเสริมอีกประโยคว่า “คุณชายใหญ่ ตามที่ได้รับรายงานมา ข่าวลือที่พุ่งเป้ามายังคุณชายใหญ่กำลังแพร่กระจายไปตามแคว้นต่างๆ ด้วยขอรับ”
เซ่าผิงปอขบกรามจนหน้าตึง กำมือป้องปากไอ ‘แค่กๆ’ ออกมาเล็กน้อย เอ่ยด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม “ข้าสมควรดีใจสิถึงจะถูก”
เซ่าซานเสิ่งมึนงง “ดีใจหรือขอรับ?”
เซ่าผิงปอกล่าวว่า “แปลว่าข้าได้สร้างแรงกดดันให้หนิวโหย่วเต้าแล้วเหมือนกันอย่างไรล่ะ นี่เท่ากับว่าหนิวโหย่วเต้าให้การยอมรับข้า เขาคิดว่าข้ามีความสามารถพอจะขึ้นเป็นใหญ่ได้ ดังนั้นจึงคิดหาทางกำจัดและขัดขวาง ดูเหมือนพี่จ้าวจะกล่าวไว้ไม่ผิดเลย” พูดจบก็เดินออกมาจากห้องขัง
เซ่าซานเสิ่งพยักหน้ายอมรับ จากนั้นรีบเดินตามไป รายงานต่อว่า “คุณชายใหญ่ สำนักเขามหายานกำลังออกคำสั่งขับไล่สำนักสวรรค์พิสุทธิ์ออกจากมณฑลเป่ยโจวขอรับ”
เซ่าผิงปอที่เดินไปตามทางเดินในคุกชะงักฝีเท้า หันกลับไปเอ่ยถาม “หมายความว่าอย่างไร?”
เซ่าซานเสิ่งเอ่ยว่า “สำนักเขามหายานคิดว่าปมความแค้นระหว่างท่านและหนิวโหย่วเต้ามีสาเหตุมาจากเจ้าสำนักถัง คิดว่าหากเจ้าสำนักถังยังอยู่ที่นี่ ท่านและหนิวโหย่วเต้าก็จะสู้กันต่อไป เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีต่อมณฑลเป่ยโจว ดังนั้นจึงกดดันให้สำนักสวรรค์พิสุทธิ์ออกไปจากมณฑลเป่ยโจวขอรับ”
เซ่าผิงปอขมวดคิ้ว “เหลวไหล! คนอื่นไม่รู้ หรือว่าเจ้ายังไม่รู้ด้วย? บิดาของถังอี๋เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับจ้าวสยงเกอ สายสัมพันธ์แน่นแฟ้น พอสำนักสวรรค์พิสุทธิ์เผชิญอันตรายจ้าวสยงเกอก็ออกหน้าจัดการให้ เพียงเท่านี้ก็พอจะรู้แล้วว่าจ้าวสยงเกอให้ความสำคัญกับถังอี๋แค่ไหน สำนักสวรรค์พิสุทธิ์มีประโยคต่อข้ามาก จะปล่อยไปไม่ได้!”
เซ่าซานเสิ่งถอนหายใจ “สำนักเขามหายานต้องการทำเช่นนี้ แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะขอรับ?”
เซ่าผิงปอเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินอาดๆ ออกไปทันที “พวกเขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง”
ทั้งสองเดินตามกันออกมาจากคุกใต้ดิน ตรงไปที่เรือนชั้นใน ไปพบเซ่าเติงอวิ๋น
สองพ่อลูกพบหน้ากันอีกครั้ง เซ่าผิงปอมีสีหน้าราบเรียบ
เซ่าเติงอวิ๋นสีหน้าคลุมเครือ ความสงบนิ่งของบุตรชายทำให้ดวงตาเขาฉายแววซับซ้อนยิ่ง
เขาลุกจากที่นั่ง ไม่พูดอะไรเลยสักคำ เดินออกไปด้านนอกโถง เซ่าผิงปอรีบหลีกทางให้ ค้อมตัวลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ จากนั้นรีบเดินตามหลังผู้เป็นบิดาไป
พอพ้นประตูออกมา สีหน้าและแววตาของเซ่าเติงอวิ๋นพลันกลับมาสุขุมเยือกเย็น ท่วงท่าน่าเกรงขาม
เซ่าผิงปอที่เดินตามหลังดูไม่ธรรมดา ยังคงมีภาพลักษณ์ของคุณชายใหญ่ผู้หล่อเหลาสง่างาม
ในโถงว่าราชการ สองพ่อลูกเดินตามกันเข้ามา เหล่าแม่ทัพที่อยู่สองฟากฝั่งพากันทำความเคารพ ขณะเดียวกันก็ทำการเพ่งพินิจสังเกตการณ์
เซ่าเติงอวิ๋นนั่งลงในตำแหน่งสูงสุด เซ่าผิงปอยืนอยู่ด้านข้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า