ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 266

สรุปบท ตอนที่ 266 การจัดลำดับที่น่าฉงน: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า

ตอนที่ 266 การจัดลำดับที่น่าฉงน – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า

ตอนนี้ของ ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 266 การจัดลำดับที่น่าฉงน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 266 การจัดลำดับที่น่าฉงน

ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงไม่เข้าใจว่าคนผู้นี้อยากจะพูดอะไรกันแน่ เขาเป็นคนไม่ชอบพูดคุย นานๆ ทีจะเอ่ยออกมาสักประโยคสองประโยค สั้นกระชับเข้าใจง่าย รู้สึกผิดแผกไปอย่างอธิบายไม่ถูก

ทั้งสองมองเขาตาปริบๆ ล้วนรอคอยให้เขาพูดต่อ

ไป๋เหยาเอ่ยเสริมประโยคหนึ่ง “ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้น พูดให้ถูกคือ ทุกคนบนทำเนียบโอสถที่มีลำดับต่ำกว่าสองร้อยหกสิบเจ็ดลงไปล้วนเลื่อนขึ้นมาหนึ่งลำดับทั้งสิ้น ซ้ำยังมีอีกคนที่ถูกเพิ่มเข้าทำเนียบมาด้วย”

หลานรั่วถิงถามด้วยความฉงน “เกี่ยวข้องกับพวกเราหรือ?”

ไป๋เหยากล่าวว่า “คนที่อยู่ในลำดับที่สองร้อยหกสิบเจ็ดบนทำเนียบโอสถผู้นั้นมีนามว่าจั๋วเชา ถูกคนสังหารแล้ว ผู้สังหารเขาคือหนิวโหย่วเต้า!”

“เฮือก!” ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงสูดหายใจดังเฮือก ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ใช่คนในเส้นทางบำเพ็ญเพียร แต่ก็ยังให้ความสนใจกับทำเนียบโอสถพอสมควร ผู้ใดบ้างจะไม่อยากดึงตัวคนที่ติดทำเนียบโอสถมาทำงานด้วย?

ดังนั้นทั้งสองจึงทราบชัดเจนยิ่งว่าคนที่ติดลำดับสองร้อยกว่าๆ บนทำเนียบโอสถได้นั้นมีความหมายอย่างไร นั่นคือยอดฝีมือชั้นแนวหน้า เพราะว่าไป๋เหยานั้นเพิ่งจะอยู่แค่ลำดับที่หกร้อยกว่าเท่านั้น

ซางเฉาจงคล้ายไม่อยากจะเชื่อ เอ่ยว่า “เต้าเหยี่ยสามารถสังหารยอดฝีมือในลำดับที่สองร้อยกว่าๆ บนทำเนียบโอสถได้อย่างนั้นหรือ? นี่ดูคล้ายไม่น่าเป็นไปได้เลย! หรือจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน?”

ไป๋เหยากล่าวว่า “หากอยู่ในสถานการณ์ปกติ มันก็เป็นไปไม่ค่อยได้จริงๆ แต่ต่อให้ผู้บำเพ็ญเพียรจะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อาจต้านแผนการชั่วร้ายได้ ซึ่งดูเหมือนหนิวโหย่วเต้าจะเชี่ยวชาญในด้านนี้”

ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงสบตากัน ในจุดนี้ทั้งสองไม่ปฏิเสธ พูดให้น่าฟังคือหนิวโหย่วเต้ามีกลยุทธ์ล้ำเลิศ พูดให้น่าเกลียดหน่อยคือเขาก็แค่ใช้แผนเจ้าเล่ห์เท่านั้น!

เห็นเขาบุกเข้ามาในโถงองอาจเพื่อพูดเรื่องนี้ ซางเฉาจงจึงฉวยโอกาสขอคำชี้แนะเสียเลย “เรื่องนี้ส่งกระทบใหญ่โตมากหรือ?”

ไป๋เหยากล่าวว่า “จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ บอกว่าเล็กก็ไม่เล็ก ที่ว่าไม่ใหญ่เพราะมีคนในทำเนียบโอสถตายกันเป็นปกติ การที่ถูกลบชื่อออกจากทำเนียบไปก็ไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจ ที่ว่าไม่เล็กเพราะการตายของจั๋วเชาผิดปกติ ในสถานการณ์ปกติ เมื่อใครเอาชนะใครได้ ก็จะได้เข้ามาแทนที่ลำดับของคนนั้น แต่มันอาจเป็นเพราะระดับสภาวะของหนิวโหย่วเต้า ทำให้เขาไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าสู่ทำเนียบโอสถ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลำดับของคนที่อยู่ต่ำลงไปเลื่อนขึ้นมาเป็นพรวน”

ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงเหงื่อตกเล็กน้อย เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนไม่น้อยเลยจริงๆ คิดไม่ถึงว่าลำดับรายชื่อของยอดฝีมือกว่าห้าร้อยคนบนทำเนียบโอสถจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะเต้าเหยี่ย คนเหล่านี้ควรขอบคุณเต้าเหยี่ยหรือว่าอย่างไร?

ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดฝีมือบนทำเนียบโอสถทีเดียวหลายร้อยคนได้ เรื่องนี้มัน…

หลานรั่วถิงเอ่ยถาม “เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่?”

ไป๋เหยาตอบ “เคยมีครั้งหนึ่ง แต่ก็ต่างไปจากครั้งนี้ ช่วงเวลาที่ทำเนียบโอสถก่อตั้งขึ้นมา จะบอกว่านานก็ไม่นาน บอกว่าสั้นก็ไม่สั้น ในครั้งนั้นมีคนที่สิ้นชีพลงเพราะหมดอายุขัย! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ หนิวโหย่วเต้ามิใช่คนไร้นาม สังหารราชทูตแคว้นเยี่ยนจนมีชื่อก้องหล้า มาคราวนี้ ชื่อของเขาเลื่องลือไปทั่วหล้าอีกแล้ว!”

ซางเฉาจงเหงื่อตกแทนหนิวโหย่วเต้า วิตกกังวลแทนหนิวโหย่วเต้าเล็กน้อย “เรื่องนี้จะเป็นการเข้าใจผิดกันหรือเปล่า?”

ไป๋เหยากล่าวว่า “ลำดับบนทำเนียบโอสถยังไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง เนื่องจากบรรดาคนมากมายเหล่านั้นล้วนไม่เคยประมือกันเลย แต่การปรับลำดับรายชื่อของหอหิมะเหมันต์ไม่เคยผิดพลาด นี่จะต้องได้รับการตรวจสอบยืนยันแล้วแน่นอน ถึงนำมาประกาศต่อผู้บำเพ็ญเพียรทั่วหล้าได้! ไม่มีทางจะผลีผลามบ่งชี้ว่าคนที่สังหารจั๋วเชาคือหนิวโหย่วเต้า ในส่วนนี้หอหิมะเหมันต์ยังมีความน่าเชื่อถืออยู่”

ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงมองหน้ากัน เมื่อกล่าวมาเช่นนี้ เช่นนั้นก็เป็นผลงานของหนิวโหย่วเต้าจริงๆ

หลานรั่วถิงถาม “ฝ่าซือตั้งใจมาพูดเรื่องนี้หรือ?”

ไป๋เหยากล่าวว่า “เรื่องจัดซื้อม้าศึกมิใช่เรื่องเล็ก หนิวโหย่วเต้ายังมีแก่ใจสร้างเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ขึ้นระหว่างทางอีกหรือ? เรื่องนี้ทำให้ทางสำหนักตื่นตระหนก จึงสั่งให้ข้ามาสอบถามให้กระจ่าง อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อดูจากท่าทีของท่านอ๋องและอาจารย์หลานแล้ว ดูเหมือนจะไม่รู้เช่นกันว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ทางสำนักกำลังรอคำตอบจากข้าอยู่ รบกวนพวกท่านไปสอบถามทางสามสำนักให้ทีได้หรือไม่ เพราะพวกเขาส่งคนติดตามหนิวโหย่วเต้าออกเดินทางไป น่าจะพอทราบถึงสถานการณ์ภายในบ้างไม่มากก็น้อย”

เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา ทั้งสองก็อยากรู้เช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขาย่อมตอบรับคำขอ

หลังจากเตรียมการเล็กน้อย ทั้งสองก็พาไป๋เหยาออกจากจวนผู้ว่าการจังหวัด เดินทางออกไปจากเมืองภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ มุ่งหน้าตรงไปยังหุบเขานอกเมือง

คนในหุบเขาย่อมออกมาต้อนรับเมื่อได้ทราบข่าว ซางซูชิงบังเอิญอยู่แถวนี้พอดี จึงเข้ามาพบก่อน นางค่อนข้างแปลกใจพอสมควร “เสด็จพี่ มีเรื่องใดหรือ?”

น้อยครั้งนักที่ซางเฉาจงจะมาที่นี่ เหตุผลแรกเป็นเพราะทางฝั่งตนก็ยุ่งเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องมากังวลกับที่นี่ เหตุผลต่อมาเป็นเพราะที่นี่คืออาณาเขตของหนิวโหย่วเต้า มีผู้บำเพ็ญเพียรรวมตัวอยู่ ไม่จำเป็นต้องให้เขามาแทรกแซง

ดังนั้นนางทราบดีว่าปกติแล้วพี่ชายไม่มีทางมาที่นี่โดยไม่มีสาเหตุ หากมาจะต้องมีธุระแน่นอน

“ทางเต้าเหยี่ยเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย…” ซางเฉาจงเล่าสถานการณ์ให้นางฟังคร่าวๆ

ซางซูชิงฟังจนเหม่อลอยไป กระทั่งซางเฉาจงเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น นางย่อมไม่ทราบยิ่งกว่า

หลังจากสามเจ้าสำนักเฟ่ยฉางหลิว เซี่ยฮวาและเจิ้งจิ่วเซียวมาถึง เดิมต้องการเชิญซางเฉาจงเข้าไปนั่งในหุบเขา จนใจที่สถานที่พำนักของแต่ละสำนักล้วนไม่สะดวกจะให้การรับรองจริงๆ ซางเฉาจงจึงบอกให้ไปนั่งคุยกันในศาลาที่อยู่ทางด้านหนึ่งแทน

พวกเขาเข้าประเด็นกันอย่างรวดเร็ว ถามเรื่องที่ไป๋เหยาพูดถึง บอกเล่าสถานการณ์โดยรวมให้ฟัง สุดท้ายซางเฉาจงถามว่า “เจ้าสำนักทั้งสาม ทราบหรือไม่ว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่?”

ทั้งสามเงียบไปเล็กน้อย เรื่องความเปลี่ยนแปลงบนทำเนียบโอสถพวกเขาย่อมต้องทราบแล้ว ทั้งสามสำนักล้วนมีร้านค้าสาขาอยู่ในสถานที่อย่างเมืองไจซิง

พอได้ยินว่าหนิวโหย่วเต้าถูกจั๋วเชาโจมตีจนบาดเจ็บ ซางเฉาจง หลานรั่วถิงและซางซูชิงแทบจะร้องถามออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ในความคิดของพวกเขา ถูกยอดฝีมืออย่างจั๋วเชาโจมตีจะไม่บาดเจ็บสาหัสได้หรือ?

เฟ่ยฉางหลิวส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ร้ายแรง ตอนนี้หนิวโหย่วเต้าออกจากหอไร้ขอบเขตแล้ว คำนวณจากเวลาดูแล้ว เกรงว่าน่าจะเข้าเขตแคว้นฉีไปแล้ว”

ซางซูชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดังกร้าว “พวกท่านส่งคนไปเพื่อปกป้องเต้าเหยี่ยมิใช่หรือ? แล้วเหตุใดถึงไม่ขวางจั๋วเชาไว้ แต่ปล่อยให้เต้าเหยี่ยต้องสู้กับยอดฝีมืออย่างจั๋วเชาอย่างนั้นหรือ?” นางเกือบพูดออกไปแล้วว่าพวกท่านไม่ได้ทำหน้าที่ของพวกท่านอย่างเต็มที่เลย

พอได้ยินเรื่องฉากไล่ล่าสังหาร นางจินตนาการออกเลยว่าในสถานการณ์นั้นเต้าเหยี่ยเสี่ยงอันตรายมากแค่ไหน โพรงจมูกพลันแสบเคืองขึ้นมา

เมื่อได้ยินว่าหนิวโหย่วเต้าได้รับบาดเจ็บ นางเกือบจะร้องไห้ออกมา แต่ฝืนข่มเอาไว้ ขอบตาแดงเรื่อ

อีกฝ่ายไม่ได้อยากมาอยู่กับพวกนางพี่น้องเลย เป็นนางที่ชักจูงอีกฝ่ายเข้ามาสู่ความขัดแย้งนี้เอง

เรื่องราวต่างๆ ก่อนหน้านี้ไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายก็ออกจากหุบเขาไปเพื่อพวกนางสองพี่น้องอีกครั้ง ทันทีที่ออกจากหุบเขาก็ต้องเผชิญอันตรายใหญ่หลวงเช่นนี้ เผชิญการไล่ล่าสังหารจากยอดฝีมือที่น่ากลัวถึงเพียงนี้

ยังไม่ทันถึงแคว้นฉีก็เป็นเช่นนี้แล้ว หลังจากนี้ยังจะมีอันตรายอะไรรอคอยอยู่อีกก็ไม่อาจจินตนาการได้เลย!

นี่ถือว่าออกไปเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกนางสองพี่น้องอีกแล้ว!

สำนักหยกสวรรค์เรียกได้ว่าเป็นที่พึ่งที่สำคัญที่สุดของพวกนางสองพี่น้อง แต่เรื่องราวที่แม้แต่สำนักหยกสวรรค์ก็ยังจัดการให้สำเร็จไม่ได้ มีสิทธิ์อะไรมาใช้หนิวโหย่วเต้าที่อำนาจและอิทธิพลไม่อาจสู้สำนักหยกสวรรค์ได้ให้เดินทางออกไปเสี่ยงชีวิต หนิวโหย่วเต้าโดดเดี่ยวด้อยกำลังถึงเพียงนั้น นี่คือต้องการส่งหนิวโหย่วเต้าไปตายอย่างนั้นหรือ?

มีสิทธิ์อะไรมาใช้หนิวโหย่วเต้าที่พลังยังอ่อนด้อยปานนั้นให้ออกไปแบกรับภาระหนักอึ้งเช่นนั้นแทนพวกเขา?

แม้แต่สำนักหยกสวรรค์เองก็ยังละอายที่จะกล่าวเรื่องนี้เลย!

ในใจนางรู้สึกผิดยิ่งนัก โทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทรมานมากจริงๆ!

ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงก็ก้มหน้าไม่เอ่ยวาจา ศีรษะที่ก้มต่ำเงียบงัน มีสีหน้าตึงเครียด!

หนิวโหย่วเต้าออกจากหุบเขาไปครั้งนี้ ไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าพวกเขาทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นพวกเขาสองคนที่จงใจเอ่ยเรื่องนี้ต่อหน้าหนิวโหย่วเต้า

…………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า