ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 276

ตอนที่ 276 ย่นขอบเขตลง

พูดจาดุดันเช่นนี้ผู้ใดก็พูดได้ทั้งนั้น แต่สภาพความเป็นจริงกลับทำให้กงซุนปู้ค่อนข้างลำบากใจ “เต้าเหยี่ย แคว้นฉีกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ ศิษย์ในสำนักของข้าที่อยู่ทางนี้มีไม่มากพอ ขอให้ทางสำนักหยกสวรรค์และอีกสามสำนักส่งกำลังเสริมมาช่วยได้หรือไม่ขอรับ?”

หนิวโหย่วเต้าที่จ้องมองแผนที่อยู่โบกมือปฏิเสธ “สำนักเหล่านั้นต่างมีสายลับแฝงตัวอยู่ อาจจะเรียกใช้งานในเรื่องอื่นได้ แต่ข้าไม่วางใจให้ทำงานนี้ เรื่องนี้ข้าเตรียมแผนอื่นไว้แล้ว จะให้พวกเขารู้เรื่องตอนนี้ไม่ได้ พยายามเก็บเป็นความลับไว้”

กงซุนปู้สบตากับเฮยหมู่ตานเล็กน้อย คงไม่ใช่ว่าท่านจะสร้างปัญหาให้มณฑลเป่ยโจวอีกแล้วกระมัง? จะสร้างเรื่องใหญ่โตเพื่อให้มณฑลเป่ยโจวทำงานไม่สำเร็จอย่างนั้นหรือ?

เฮยหมู่ตานกล่าวว่า “เต้าเหยี่ย พี่กงซุนกล่าวถูกแล้วเจ้าค่ะ ด้วยกำลังคนอันน้อยนิดของพวกเราในตอนนี้ หากคิดจะสืบหาเบาะแสในสถานที่ที่กว้างใหญ่อย่างแคว้นฉี เราก็มีกำลังคนไม่พอจริงๆ อีกฝ่ายย่อมดำเนินการเรื่องนี้อย่างลับๆ เช่นกัน ไม่มีทางปล่อยให้คนนอกสืบพบง่ายๆ”

“สืบหาเบาะแสหรือ?” หนิวโหย่วเต้าหันไปมองเฮยหมู่ตาน “พวกเราได้เบาะแสที่สำคัญที่สุดมาแล้ว รู้ว่าพวกเขาดำเนินเรื่องอย่างลับๆ รู้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีขนส่งทางทะเล นี่ก็คือเบาะแสที่สำคัญที่สุด! ตอนนี้พวกเราเป็นฝ่ายได้เปรียบ ศัตรูอยู่ในที่แจ้งพวกเราอยู่ในที่ลับ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหาพวกเขาไม่พบ เรือมากมายขนาดนั้นคงเหาะหนีไปไม่ได้กระมัง? ขอเพียงแผนการของพวกเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะหาพวกเขาไม่เจอ”

กงซุนปู้เอ่ยด้วยความลังเล “หรือพวกเขาจะลงมือสำเร็จแล้ว เรือออกเดินทางไปแล้ว?”

หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “ไม่มีทาง! พวกเราเพิ่งได้ข่าวเรื่องเส้นทางน้ำในแคว้นหานตอนอยู่ที่หอไร้ขอบเขต ทางนั้นเพิ่งส่งคนไปตรวจสอบยืนยันเส้นทางน้ำ หากไม่ยืนยันความปลอดภัยของเส้นทางน้ำก่อน ฝั่งนั้นก็ไม่มีทางขนส่งม้าศึกจำนวนมากขนาดนี้ออกมาง่ายๆ คิดว่าพวกเขามีเงินมากจนไม่มีที่ใช้หรือไร? ทันทีที่พวกเรารู้ข้อมูลเรื่องนี้ เราก็ส่งคนไปดำเนินการตรวจสอบตามแนวชายฝั่งของแคว้นฉีทันที พอฟังจากที่พวกเจ้าว่ามาเมื่อครู่นี้ ข้าก็ยิ่งมีเหตุผลให้เชื่อมากขึ้นว่าม้าศึกฝูงนี้ยังไม่ออกจากเขตแคว้นฉี”

เขาเคาะนิ้วลงบนแผนที่ “ตอนนี้พวกเราต้องค้นหาเบาะแสจากข้อมูลที่มีอยู่ อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องไร้ประโยชน์ที่จะทำให้มุมมองของตนไขว้เขวอีก เมื่อได้เบาะแสที่ชัดเจนมาแล้ว ทิศทางเป้าหมายของพวกเราย่อมต้องชัดเจนขึ้นมา จากที่พวกเจ้าพูดมา เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะสร้างเรือขึ้นใหม่ มีแต่ต้องทำการดัดแปลงลำเรือเท่านั้น เช่นนั้นก็ต้องเริ่มลงมือจากเรือก่อน ข้าขอถามพวกเจ้าหน่อย พวกเจ้าคิดว่าเรือของพวกเขามีโอกาสจะนำไปดัดแปลงในสถานที่ใดมากที่สุด?”

เขามีฐานะเป็นผู้นำกลุ่ม จำเป็นต้องคอยชี้ช่องนำทางให้ลูกน้องเวลาที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ซับซ้อน ในฐานะผู้นำจำเป็นต้องมีความสามารถแบบนี้ด้วย

กงซุนปู้เอ่ยเบาๆ “อย่างที่น้องหมู่ตานกล่าวไปก่อนหน้านี้ เรือมากมายขนาดนี้ไม่มีทางมาจากสถานที่แห่งเดียวแน่ แบบนั้นมันสะดุดตาเกินไป เป็นไปได้ว่าจะรวบรวมมาจากแคว้นต่างๆ อย่างลับๆ”

หนิวโหย่วเต้าถามต่อ “หรือจะดัดแปลงจากแคว้นต่างๆ มาเรียบร้อยแล้วถึงออกทะเล?”

เฮยหมู่ตานตอบว่า “มีโอกาสน้อยมากเจ้าค่ะ”

หนิวโหย่วเต้าถามต่อ “เพราะอะไร?”

เฮยหมู่ตานกล่าวว่า “เต้าเหยี่ย ท่านอาจจะไม่ทราบ ก็อย่างที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้เจ้าค่ะ คนทั่วไปไม่มีทางใช้เรือใหญ่ขนาดนี้ คนที่มีเรือใหญ่เช่นนี้อยู่ในครอบครอง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเศรษฐีผู้ดี ไม่มีทางเป็นชาวบ้านธรรมดาไปได้ โดยเฉพาะเจ้าของเรือที่สามารถเดินทางค้าขายระหว่างแคว้นได้ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็มีกลุ่มอิทธิพลอยู่เบื้องหลังแน่นอนเจ้าค่ะ หากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของเรือ ท่านก็ไม่สามารถดำเนินการดัดแปลงเรือของคนเขาโดยพลการได้ และการจะนำเอาเรือขนสินค้ามาดัดแปลงให้กลายเป็นเรือที่สามารถบรรทุกม้าศึกได้ก็จำเป็นต้องนำเอารั้วไม้มากั้นเป็นช่องๆ ภายในเรือ ซึ่งแบบนั้นจะสะดุดตาเกินไป”

กงซุนปู้ก็พยักหน้า “ถูกต้อง เรือมากมายขนาดนี้ แล้วก็ไม่มีทางออกมาจากสถานที่เดียวกัน เพราะจะทำให้เจ้าของเรือในแต่ละลำสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้ อีกทั้งเบื้องหลังเจ้าของเรือแต่ละลำล้วนมีผู้หนุนหลังอยู่ไม่มากก็น้อย หากแยกกันดัดแปลง ข้อมูลจะรั่วไหลออกไปได้ง่าย เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือมีการว่าจ้างเรือเหล่านี้เอาไว้ก่อนแล้ว โดยไม่ให้เจ้าของเรือทราบจุดประสงค์การใช้งานจริงล่วงหน้า”

หนิวโหย่วเต้าหรี่ตาใคร่ครวญตามคำพูดพวกเขา

เฮยหมู่ตานก็คิดตามไปด้วยเช่นกัน “เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือพวกเขาต้องแล่นเรือออกมาก่อน จากนั้นค่อยส่งไปยังสถานที่ลับสักแห่งเพื่อดำเนินการดัดแปลง เมื่อไปถึงปลายทางก็ควบคุมเอาไว้ จะยินยอมให้ดัดแปลงเรือหรือไม่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าของเรือเหล่านั้นแล้ว”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยเนิบๆ “เมื่อเป็นเช่นนี้ เรือเหล่านั้นก็ไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าต้องไปทำอะไร”

เฮยหมู่ตานกล่าวว่า “น่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ อีกทั้งทำได้ง่ายด้วย เรือที่รับขนส่งสินค้า ขอเพียงลูกค้าชำระเงินไว้ก่อน อีกฝ่ายย่อมแล่นเรือไปยังที่หมายตามความต้องการของผู้ชำระเงิน แล้วก็ไม่มีทางให้พวกเขาได้ทราบถึงข้อมูลล่วงหน้า มิเช่นนั้นข้อมูลจะรั่วไหลออกไปได้ง่ายๆ”

สายตาของหนิวโหย่วเต้าจ้องไปยังแผนที่อีกครั้ง “สถานที่สำหรับดัดแปลงเรือมีโอกาสจะอยู่ที่ไหนมากที่สุด?”

สายตาของอีกสองคนก็มองไปยังแผนที่เช่นกัน กงซุนปู้เอ่ยว่า “ดัดแปลงเรือมากมายขนาดนั้น สะดุดตาเกินไป ไม่น่าจะนำเรือมาจอดในแถบแนวชายฝั่งได้ หากสันนิษฐานตามนี้ ทิศทางที่พวกเราสืบหาก่อนหน้านี้อาจจะผิดไปแล้วก็ได้ มีความเป็นไปได้สูงที่อีกฝ่ายจะใช้เกาะสักแห่งที่ยากต่อการถูกค้นพบเป็นสถานที่ดัดแปลง”

“เกาะหรือ?” หนิวโหย่วเต้าถาม “ไม่ได้เอาไปจอดไว้ในชายฝั่งสักแห่งที่ลับตาคนหรือ?”

กงซุนปู้เอ่ยว่า “แนวชายฝั่งทั่วทั้งแคว้นฉี ศิษย์ในสำนักแยกย้ายกันไปตรวจสอบมาแล้ว ไม่พบความผิดปกติเลยขอรับ”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “เป็นไปได้ไหมว่าจะอยู่ในแนวชายฝั่งของแคว้นอื่น”

“ก็เป็นไปไม่ค่อยได้เช่นกันเจ้าค่ะ” เฮยหมู่ตานส่ายหน้าปฏิเสธ

หนิวโหย่วเต้าถามต่อ “เพราะอะไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า