ตอนที่ 295 พี่เฟิง เหล่าเฟิง นายท่านเฟิง
ทำไมตนถึงไม่คิดให้มันมากกว่านี้หน่อยนะ กล้าปั่นหัวธิดาของเขาเล่นอย่างนั้นหรือ? ครั้งนี้อีกฝ่ายจึงถือโอกาสจัดการเขาไปด้วยเสียเลย!
ตนมองแต่เพียงผลได้ผลเสียของทางฝั่งตนเท่านั้น แต่อีกฝ่ายเป็นฮ่องเต้ สิ่งที่อีกฝ่ายจับตามองคือคนกลุ่มใหญ่ที่รวมพวกเขาเข้าไปด้วย มิน่าล่ะ เขาถึงคิดไม่ออกว่าทำไมฮ่องเต้ถึงต้องจัดการตนเองด้วย เพราะฮ่องเต้ไม่ได้คิดจัดการแต่เฉพาะเขาแต่แรกแล้ว หากแต่อยากจัดการคนจำนวนมากซึ่งรวมตัวเขาเอาไว้ด้วย
มุมมองเรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับดิน!
“เฮ่าอวิ๋นถูคนนี้น่าสนใจดีนี่!” หนิวโหย่วเต้ายิ้มหยันพลางเอ่ยออกมา ถูกอีกฝ่ายหลอกปั่นหัวโดยไม่เห็นอยู่ในสายตา หลอกปั่นหัวจนตัวเขาไม่อาจทำอะไรได้
ลิ่งหูชิวกลอกตาใส่เขาทีหนึ่ง “ผู้ใดบอกให้เจ้าไปยุแหย่ธิดาของเขาเล่า เจ้าคิดว่าธิดาของเขาหลอกได้ง่าย คราวนี้เป็นยังไงล่ะ ชนตอเข้าแล้วล่ะสิ?”
หนิวโหย่วเต้าผายมือออก “เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ ใบอนุญาตส่งออกม้าศึกหนึ่งแสนตัวข้าก็ส่งมอบออกไปแล้ว สัญญาการส่งมอบก็อยู่ในมือข้า ไม่มีทางเกิดปัญหาขึ้นกับข้า” เขาใคร่ครวญอยู่ในใจ คาดว่าเฟิงเอินไท่คงนึกอยากจะโขกหัวตายขึ้นมาแล้วกระมัง
เมื่อคืนเขาก็คิดอยู่แล้วว่าผลประโยชน์นี้มันผิดปกติ แต่เฟิงเอินไท่ดึงดันจะให้เขารับเอาไว้ให้ได้ ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ
ลิ่งหูชิวถามกลับ “เจ้ากำลังพูดถึงสำนักหยกสวรรค์อยู่หรือ? ฮ่าๆ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข่าวลือที่ร่ำลือกันอยู่ด้านนอกไม่เกี่ยวข้องอันใดกับสำนักหยกสวรรค์เลย เพียงบอกว่าใบอนุญาตส่งออกม้าศึกอยู่ในมือเจ้า ไม่ได้เอ่ยถึงสำนักหยกสวรรค์เลยสักคำ!”
“หมายความว่าอย่างไร?” หนิวโหย่วเต้าถามกลับทันที
ลิ่งหูชิวกล่าวว่า “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะว่าหมายความว่าอย่างไร?”
หนิวโหย่วเต้ามึนงงเล็กน้อย “เมื่อคืนพวกเผยเหนียงจื่อก็เห็นกับตาว่าใบอนุญาตเหล่านั้นถูกมอบให้สำนักหยกสวรรค์ไปแล้ว”
ลิ่งหูชิวเอ่ยว่า “เจ้าก็ไปถามเผยเหนียงจื่อสิ เจ้ามาถามข้า ข้าจะไปถามผู้ใด ข้าว่าเจ้ารีบไปจัดการเรื่องนี้ให้ดีเถอะ หากเจ้าจัดการไม่ได้ น้องหนิว เจ้าอย่าได้โทษว่าข้าทอดทิ้งเจ้าล่ะ ข้าคงต้องรีบหนีเอาตัวรอดแล้ว รับมือไม่ไหวหรอก ถึงตายได้เลยนะ เจ้าชอบรนหาที่ตาย แต่ข้ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายปี”
“หึ น่าสนใจนี่ ฮ่องเต้คนนี้อยากถือโอกาสเล่นงานข้าแทนธิดาของเขาสินะ!” หนิวโหย่วเต้ายิ้มออกมา
เขาเองก็ทราบความหมายในวาจาของลิ่งหูชิวเช่นกัน อีกฝ่ายไม่ได้บอกว่าจะทอดทิ้งเขาไม่ไยดี หากแต่บอกให้เขานำเอาสัญญาส่งมอบระหว่างเขากับสำนักหยกสวรรค์ออกมาเปิดเผยเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ พิสูจน์ว่าใบอนุญาตส่งออกม้าศึกอยู่กับทางสำนักหยกสวรรค์ เพื่อให้คนที่อยากมาหาเรื่องไปหาสำนักหยกสวรรค์แทน
ในเวลานี้เอง กงซุนปู้และคนจากสามสำนักมาถึงแทบจะติดๆ กัน รายงานถึงข่าวลือด้านนอก พวกเขายังไม่ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จึงมาเพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง
“ไม่ต้องพูดแล้ว ข้ารู้เรื่องหมดแล้ว” หนิวโหย่วเต้าโบกมือ ชี้ไปที่ลิ่งหูชิว สื่อว่าลิ่งหูชิวบอกเขาหมดแล้ว
อูเซ่าฮวนที่เหลือแขนข้างเดียวมีสีหน้ากระวนกระวาย เขาคือคนที่สำนักเซียนสถิตส่งมารับผิดชอบดูแลศิษย์สำนักเซียนสถิตทางนี้ จึงเอ่ยถามว่า “เมื่อคืนเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “เรื่องก็เป็นเช่นที่ลือกันอยู่นั่นแหละ”
เขาไม่ได้บอกว่าตนมอบใบอนุญาตให้เฟิงเอินไท่ไปแล้ว หากปล่อยให้สามสำนักรู้ว่าผลประโยชน์ที่ตนต่อสู้เพื่อไขว่คว้าให้ได้ได้มาอยู่ในมือแล้ว เกรงว่าทั้งสามสำนักคงจากไปทันที ทั้งสามสำนักไม่มีทางแบกรับความเสี่ยงสูงขนาดนี้เพื่อสำนักหยกสวรรค์แน่นอน เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายอยู่ในแคว้นฉีอีกต่อไป
ลิ่งหูชิวเหลือบมองหนิวโหย่วเต้าเล็กน้อย ย่อมมองออกว่าหนิวโหย่วเต้ามีเจตนาปิดบัง
“พวกท่านวางใจเถอะ ไม่มีทางเกิดเรื่องแน่…” หนิวโหย่วเต้าเอ่ยปลอบ ส่งพวกเขากลับไป
ลิ่งหูชิวเฝ้ามองอยู่ด้านข้างด้วยสายตาเย็นชา หลังจากมองคนทั้งกลุ่มจากไปแล้ว เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “น้องหนิว เจ้าคงไม่ได้คิดจะแบกรับเรื่องนี้ไว้กับตัวกระมัง? ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้เลยนะ เจ้าแบกรับเรื่องนี้ไม่ไหวหรอก”
หนิวโหย่วเต้าไม่ตอบเขา หากแต่มองไปรอบๆ “เฟิงเอินไท่ล่ะ? สามสำนักล้วนทราบกันแล้ว ไม่มีทางที่สำนักหยกสวรรค์ของเขาจะยังไม่ทราบกระมัง?”
ลิ่งหูชิวยิ้มเยาะ “หากเจ้ามอบใบอนุญาตให้เขาวันนี้ ตีให้ตายเขาก็คงไม่ยอมรับไว้ เกรงว่าตอนนี้เขาคงกำลังนึกเสียใจที่เมื่อวานนี้เขาใช้อำนาจตัดสินใจแทนสำนักหยกสวรรค์ไปอยู่ คาดว่ากระทั่งความคิดที่อยากจะตายก็คงจะปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาแล้ว เขาไม่มีทางอธิบายเรื่องนี้ต่อสำนักหยกสวรรค์ได้”
“ไป! ไปดูเขาหน่อย” หนิวโหย่วเต้าว่าพลางออกเดิน
“เต้าเหยี่ย!” จู่ๆ เฮยหมู่ตานก็ส่งเสียงเรียก “ขอคุยเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่เจ้าคะ”
หนิวโหย่วเต้าค่อนข้างแปลกใจ มองลิ่งหูชิวเล็กน้อย มีเรื่องที่ไม่สะดวกคุยต่อหน้าลิ่งหูชิวอย่างนั้นหรือ?
ลิ่งหูชิวเองก็ปรายตามองเฮยหมู่ตานเช่นกัน ยิ้มน้อยๆ พลางเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร พวกเจ้าคุยกันไปเถอะ ข้าจะไปดูทางเหล่าเฟิงก่อน”
หนิวโหย่วเต้าตามเฮยหมู่ตานเข้าไปในเรือน เอ่ยถาม “มีเรื่องใดถึงเอ่ยต่อหน้าลิ่งหูชิวไม่ได้?”
เฮยหมู่ตานกล่าวว่า “เต้าเหยี่ย ยังจำที่ลิ่งหูชิวเอ่ยเมื่อครู่นี้ได้หรือไม่เจ้าคะ? เขาบอกว่าเขาไม่อยากรนหาที่ตาย”
หนิวโหย่วเต้าถาม “เจ้าคิดจะพูดอะไร? อยู่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ คุยกับข้ายังต้องอ้อมค้อมอีกหรือ?”
เฮยหมู่ตานจึงกล่าวว่า “เต้าเหยี่ย ท่านกังวลมาตลอดมิใช่หรือเจ้าคะว่าลิ่งหูชิวจะมีแผนการอันใดอยู่ นี่เป็นโอกาสเหมาะที่จะได้สลัดเขาทิ้งพอดี ท่านมิสู้แสร้งทำเป็นแบกรับเรื่องนี้ไว้เสีย ทำให้เขาทนไม่ไหวจนยอมล่าถอยไปเอง”
หนิวโหย่วเต้ายิ้มออกมา “ในจุดนี้เจ้ายังสู้เจ้าลิงไม่ได้ ข้าเข้าใจความคิดของเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เข้าใจความคิดของข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า