ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 348

ตอนที่ 348 หัวของเว่ยฉูอยู่ที่นี่แล้ว

Ink Stone_Fantasy

รถม้ายังคงจอดรออยู่นอกกำแพง ทั้งสองทะยานข้ามกำแพงออกไป มุดเข้าสู่รถม้าอย่างรวดเร็ว

เสียงแส้หวดแว่วดัง รถม้าเคลื่อนที่

ภายในห้องโดยสาร จู่ๆ ก่วนฟางอี๋ก็ขยับก้นเข้ามา นั่งเบียดอยู่ข้างกายหนิวโหย่วเต้า

หนิวโหย่วเต้าหันไปมอง ก่วนฟางอี๋ยื่นหน้าเข้ามาพอดี ทั้งสองอยู่ใกล้กันในระยะหน้าชิดหน้า ใบหน้าแทบจะแนบติดกัน ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ทั้งสองจ้องตากันด้วยความตกใจ

กลิ่นกายหอมฟุ้งของอีกฝ่ายโชยปะทะจมูก หนิวโหย่วเต้าเอนตัวถอยหลังเล็กน้อย เอ่ยด้วยความฉงน “เจ้าจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำไม?”

ก่วนฟางอี๋โมโหขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ถามกลับไป “เจ้าหลบทำไม? กลัวข้าจะจับเจ้ากิน หรือว่ารังเกียจยายแก่อย่างข้า?”

หนิวโหย่วเต้าจึงกล่าวว่า “กลิ่นแป้งบนตัวเจ้าฉุนเกินไป ข้าหายใจไม่ออก!”

“ให้มันน้อยๆ หน่อย!” ก่วนฟางอี๋ยื่นมือออกไป “เอาป้ายคำสั่งนั่นมาให้ข้าดู”

หนิวโหย่วเต้าแสร้งเลอะเลือน “ป้ายคำสั่งอะไร!”

ก่วนฟางอี๋ยื่นมือออกไปคว้าแขนเสื้อของเขาที่เก็บป้ายคำสั่งไว้ข้างนั้น

หนิวโหย่วเต้าชักมือหลบอย่างรวดเร็ว ก่วนฟางอี๋จึงโถมตัวเข้ามากอดรัดเขา ทับตัวเขาเอาไว้แล้วแงะแขนข้างนั้นของเขาออกมา

สำหรับก่วนฟางอี๋แล้ว ของอยู่ที่ตัวเขา ความจริงเค้นออกมาไม่ได้ แต่ของกลับสามารถแย่งมาได้

“อย่าแย่ง ข้าจะเอาให้เจ้าดู”หนิวโหย่วเต้าเอ่ยเสียงอู้อี้ เพราะใบหน้าซุกอยู่ตรงทรวงอกอวบอิ่มของนาง ส่วนแขนข้างนั้นยื่นชูออกไปนอกหน้าต่าง

ก่วนฟางอี๋ก็รับรู้ได้เช่นกันว่าเกิดเหตุไม่เหมาะไม่ควรขึ้นตรงทรวงอก นางรีบหดตัวกลับไป ตะโกนใส่ว่า “ลวนลามข้าอย่างนั้นรึ!”

หนิวโหย่วเต้าอึกอักคล้ายจะพูดอะไร สุดท้ายก็ยอมปล่อยผ่าน คร้านจะถกเถียงอันใดกับสตรีนางนี้แล้ว เขาล้วงป้ายคำสั่งในแขนเสื้อยื่นส่งให้นาง

ก่วนฟางอี๋รับป้ายคำสั่งไปพลิกดูอยู่สักพัก ดูอะไรไม่ออกอยู่ดี จึงเอ่ยถามว่า “นี่คือป้ายคำสั่งอะไร?”

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร?”

“เจ้าไม่ยอมบอกอย่างนั้นรึ? ได้ ข้าจะช่วยเก็บป้ายคำสั่งนี้ไว้ให้เจ้าเอง”

“ได้!” หนิวโหย่วเต้าพยักหน้ารับ เอ่ยด้วยสีหน้าแปลกพิกล “เป็นเจ้าเสนอตัวช่วยเก็บป้ายคำสั่งนี้แทนข้าเองนะ ข้าไม่ได้บังคับเจ้านะ!”

ก่วนฟางอี๋พลันมีสีหน้าหวาดระแวง พลิกป้ายคำสั่งในมือดูอีกครู่หนึ่ง จากนั้นก็โยนคืนกลับไป “ใครเขาอยากได้กัน”

หนิวโหย่วเต้าค่อยๆ เก็บป้ายคำสั่งไว้กับตัว จากนั้นหลับตางีบพักบนรถม้าโยกโคลงเคลง

….

ริมทะเล ท้องฟ้ากระจ่างสดใส

เรือใหญ่สามลำจอดเทียบริมฝั่ง เมื่อม้าศึกหลายสิบตัวสุดท้ายขึ้นเรือไป ก็มีคนยกไม้กระดานเทียบเรือออกทันที

หลังจากทุกคนขึ้นเรือแล้ว มีคนกลุ่มหนึ่งยืนเรียงแถวอยู่ตรงกราบเรือ ยกไม้พายขึ้นมา ออกแรงถ่อยันเรือออกจากฝั่ง เรือใหญ่สามลำค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากริมฝั่ง

ใบเรือถูกกางขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม้พายที่ยื่นออกมาจากกราบเรือทั้งสองด้านเริ่มตวัดพายไปพร้อมกัน เรือเคลื่อนตัวเข้าสู่ท้องทะเลอย่างเชื่องช้า

บนโขดหินริมทะเล มีคนสวมผ้าคลุมสีดำสามคนยืนอยู่ ผู้เป็นหัวหน้าคือซูจ้าว

ได้เห็นม้าศึกทั้งหมดขึ้นเรือไปอย่างราบรื่น ได้เห็นเรือสามลำสุดท้ายออกจากฝั่งไปอย่างราบรื่น ในที่สุดซูจ้าวก็โล่งอก

จนกระทั่งเรือใหญ่ทั้งสามลำกลายเป็นจุดสีดำไกลออกไปในท้องทะเล ซูจ้าวถึงจะหันหลังกลับมาเงยหน้ามองดวงตะวันที่ลอยโด่งบนท้องฟ้า ยกมือขึ้นมาเล็กน้อย

คนที่ยืนขนาบสองฝั่งซ้ายขวาทะยานตัวขึ้นมา ร่อนลงไปบนจุดที่ขนถ่ายม้าศึกขึ้นเรือ ร่ายอาคมลบร่องรอยยุ่งเหยิงบนพื้นดิน

….

ณ สวนไม้เลื้อย ปีกทองตัวหนึ่งบินร่อนเข้ามา ไม่นานนักเสิ่นชิวก็รีบเดินเข้ามาที่เรือนส่วนใน ยื่นจดหมายลับฉบับหนึ่งส่งให้หนิวโหย่วเต้า

หลังรับจดหมายไปอ่านจนจบ หนิวโหย่วเต้าค่อยๆ เดินออกมาจากห้องโถง ยืนอยู่ใต้ชายคา หรี่ตาทอดมองออกไปไกล

….

ณ จวนผู้ว่าการมณฑลเป่ยโจว เจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งยืนล้อมวงอยู่ในห้องโถง กำลังฟังคำสั่งการของเซ่าผิงปอ

เซ่าซานเสิ่งเดินมารออยู่หน้าประตูห้องโถง กระทั่งกลุ่มเจ้าหน้าที่แยกย้ายจากไปแล้ว เขาถึงจะรีบเดินเข้าไป อ้อมไปหยุดข้างกายเซ่าผิงปอที่กำลังตรวจเอกสารราชการบนโต๊ะอยู่ กระซิบรายงานว่า “คุณชายครับ คุณหนูซูส่งจดหมายมา ม้าศึกพันธุ์ดีสามหมื่นตัว ในนั้นมีแม่พันธุ์อยู่หนึ่งพันตัว ตอนนี้ขนขึ้นเรือเรียบร้อย แล้วก็ออกมาจากแคว้นฉีแล้ว คุณหนูซูบอกให้พวกเราเตรียมรอรับขอรับ!”

เซ่าผิงปอที่ก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่หันไปมองทันที กำปั้นทุบไปบนฝ่ามือ เอ่ยด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ดี! ดีมาก!”

เขาไม่สนใจเอกสารอีกต่อไป เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องโถงด้วยความตื่นเต้น ไม่ง่ายเลยกว่าจะสงบอารมณ์ลงได้ เขากวักมือเรียกเซ่าซานเสิ่งเข้ามา กระซิบสั่งการ “ส่งข่าวไปหาพี่จ้าวเดี๋ยวนี้ บอกนางว่าต้องจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยตามที่ตกลงกันไว้ ทางเราต้องติดต่อกับคาราวานเรือตลอดการเดินทาง ให้ทางคาราวานเรือติดต่อมาหาทางเราทุกๆ ครึ่งวัน ข้าต้องการทราบพิกัดคร่าวๆ ของคาราวานเรือทุกวัน!”

“ขอรับ!” เซ่าซานเสิ่งพยักหน้าตอบรับ

“ยังมีอีก ตรวจสอบเส้นทางน้ำของฝั่งแคว้นหานให้ข้าอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่าปล่อยให้เกิดความผิดพลาดใดๆ ขึ้น หากพบเห็นความผิดปกติใดๆ ให้รายงานข้าทันที! ผู้ใดกล้าทำให้งานใหญ่ของข้าเสียหาย ข้าจะสังหารมันเก้าชั่วโคตร!”

“ขอรับ!” เซ่าซานเสิ่งประสานมือรับคำสั่งแล้วจากไป

ภายในห้องโถงกว้างโล่ง เซ่าผิงปอพลันอ้าแขนออก หลับตาเงยหน้าขึ้น สีหน้าดื่มด่ำราวกับได้ร่ำสุราชั้นเลิศ

….

ภายในวังหลวงแคว้นฉี ปู้สวินเดินสาวเท้าเข้ามาในห้องหนังสือ โบกมือส่งสัญญาณเล็กน้อย ขันทีสองคนที่อยู่ในห้องค้อมกายให้แล้วถอยออกไป จากนั้นหันหลังเดินออกจากห้องหนังสือไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า