ตอนที่ 349 หนิวโหย่วเต้า เจ้าว่าข้าสมควรแค้นเจ้าหรือไม่?
ณ ร้านเต้าหู้ ภายในห้องส่วนตัว เต้าฮวยชามหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าหนิวโหย่วเต้า เขาค่อยๆ ตักกินอย่างช้าๆ
เป็นห้องรับรองส่วนตัวที่ซูจ้าวร้องขอให้ทำขึ้นมาห้องนั้น
หนิวโหย่วเต้าปลอมตัวเป็นชายไว้หนวดเคราคนหนึ่ง ปลอมตัวออกมาเพียงลำพัง แอบเดินทางผ่านอุโมงค์ลับของก่วนฟางอี๋ออกมา
ตอนที่ออกมายังปลายทางของอุโมงค์ลับ เขาถึงขนาดที่ไม่กล้าให้คนในบ้านนั้นรู้ตัว ไม่กล้าให้คนในบ้านนั้นทราบเรื่อง
เนื่องจากก่วนฟางอี๋ไม่แน่ใจว่าหน่วยข่าวกรองทราบเรื่องอุโมงค์ลับเส้นนั้นหรือไม่ หากว่าทราบจริงๆ เช่นนั้นก็ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าคนในบ้านนั้นจะไม่มีปัญหา
เขายินดีให้หน่วยข่าวกรองรู้เรื่องที่เขาแอบนัดพบอิงอ๋องมากกว่า แต่ไม่อาจปล่อยให้หน่วยข่าวกรองรู้เรื่องที่เขาเกี่ยวข้องกับอันไท่ผิงแห่งร้านเต้าหู้ได้
อีกทั้งเขาไม่อยากนัดพบหยวนกังในสถานที่ไหนด้านนอกด้วย เพราะกลัวว่าหยวนกังจะถูกคนจับตามองอยู่
ในมุมมองของเขา สถานที่นัดพบที่ปลอดภัยสำหรับหยวนกังที่สุดก็คือร้านเต้าหู้ของหยวนกังเอง
แว่วเสียงปิดประตูดังแอ๊ด หยวนกังเปิดประตูเข้ามา จ้องมองเขาอยู่พักหนึ่ง หลังจากมั่นใจแล้วว่าผู้ปลอมตัวคือหนิวโหย่วเต้า เขาก็ดันประตูให้ปิดลง เดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับหนิวโหย่วเต้า เอ่ยทักทายว่า “เต้าเหยี่ย”
“รสชาติที่คุ้นเคยแบบนี้ชวนให้คิดถึงจริงๆ” หนิวโหย่วเต้ายกถ้วยขึ้นมา ซดรวดเดียวจนหมด จากนั้นก็วางถ้วยลงพลางถอนหายใจ “นายว่าถ้าพวกเราตายอีกครั้งจะกลับไปได้ไหม”
หยวนกังถาม “คุณอยากลองไหม?”
“เหอะ!” หนิวโหย่วเต้าหัวเราะพร้อมส่ายหน้า “เคยคิดไว้ แต่ไม่กล้าหรอก เรื่องชีวิตเอามาล้อเล่นไม่ได้ คุยกันที่นี่จะเหมาะเหรอ?”
หยวนกังตอบ “ทุกซอกมุมภายในห้องนี้ผ่านการตรวจสอบแล้ว ข้างนอกก็มีคนของเราเฝ้าอยู่…ปกติคุณไม่มีทางถามผมแบบนี้ แปลว่าคุณกำลังตึงเครียดมาก!”
หนิวโหย่วเต้ายิ้มนิดๆ “ไม่ได้พบหน้ากันเลย เลยไม่มีโอกาสได้พูดอะไรบางอย่างออกไป ทางนายเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยดีไหม?”
หยวนกังตอบว่า “มีตระกูลฮูเหยียนหนุนหลังผมอยู่ ขอแค่ตระกูลฮูเหยียนไม่แตะต้องผม ในเมืองหลวงแห่งนี้ก็มีคนที่กล้าแตะต้องผมอยู่ไม่มาก ตอนนี้ผมปลอดภัยไม่มีปัญหาอะไร ทางคุณต่างหาก ผมรู้สึกว่าคุณกำลังเผชิญปัญหายุ่งยากอยู่ตลอด”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “ตอนนี้อยู่ในการควบคุมของฉันหมดแล้ว ไม่มีทางเกิดปัญหาขึ้น”
หยวนกุงถาม “เรื่องหงเหนียงคนนั้นเป็นมายังไง ได้ยินว่าคุณจะแต่งกับเธอ?”
เรื่องที่ทำให้ก่วนฟางอี๋ยอมจำนนได้เขาไม่แปลกใจ แต่เรื่องจะแต่งกับก่วนฟางอี๋ทำให้ค่อนข้างประหลาดใจ
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แต่งหรือไม่แต่งไม่สำคัญ ปล่อยให้คนอื่นพูดไปเถอะ แต่ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างน่าสนใจ เหมาะสมกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ ถ้าเทียบกับอายุที่แท้จริงของฉันน่าจะพอๆ กัน ในใจรู้สึกสนิทสนมได้ง่ายมากกว่า ในมุมมองของฉัน เธอเหมาะสมกว่าเฮยหมู่ตาน มีประสบการณ์มากกว่าเฮยหมู่ตานด้วย ผู้ชายเนี่ย ถ้ารอบตัวมีแต่ผู้ชายล่ะก็ มันก็จะแข็งเกินไป มีผู้หญิงมาอยู่ใกล้ตัวสักคนจะสมดุลขึ้นเยอะ งานบางอย่างให้ผู้หญิงจัดการก็สะดวกกว่า อารมณ์ก็ชื่นมื่นกว่า ฮ่าๆ พออยู่กับเธอแล้ว ถึงฉันอยากจะเคร่งขรึมจริงจังก็ทำไม่ได้ เอะอะโวยวายเป็นอย่างมาก ขนาดตัวฉันเองยังรู้สึกว่าตัวเองอ่อนวัยลงไปหลายปีทีเดียว”
หยวนกังกล่าวว่า “ถ้าเฮยหมู่ตานได้ยินคำพูดนี้ของคุณ เกรงว่าคงจะไม่ชอบใจ”
“ทำเหมือนนายเข้าใจผู้หญิงดีอย่างนั้นแหละ” หนิวโหย่วเต้ามองอย่างดูแคลน นิ้วมือเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ “เรื่องเหมาะน่ะเหมาะจริงๆ แต่ฉันยังไม่ไว้ใจเท่าเฮยหมู่ตานหรอก ประวัติความเป็นมาของเฮยหมู่ตานเรียบง่ายใสสะอาด แต่อดีตของผู้หญิงคนนี้ซับซ้อนเกินไป ฉันก็ยังไม่กล้าแน่ใจว่าเธอจะไม่มีปัญหา ยังมีลูกน้องพวกนั้นของเธออีก ต้องรอดูว่าเรื่องในตอนนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นไหม ถ้าหากกลับไปยังจังหวัดชิงซานอย่างราบรื่นได้ ฉันถึงจะวางใจ”
หยวนกังเข้าใจความหมายของเขา นี่เท่ากับว่ายังไม่เห็นหงเหนียงเป็นพวกเดียวกันอย่างสมบูรณ์ เท่ากับเป็นการให้คำตอบกลายๆ ว่าไม่มีทางแต่งงานกับก่วนฟางอี๋ แต่เขาให้ความสนใจกับคำพูดของหนิวโหย่วเต้าที่ว่าจะกลับไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่ จึงถามออกไปว่า “อันตรายมากเหรอ?”
“อันตรายน่ะมีทุกที่อยู่แล้ว” หนิวโหย่วเต้าเอ่ยย้อน เงยหน้ามองไปที่เขา เอ่ยเนิบๆ ว่า “ฉันน่าจะอยู่ที่นี่อีกไม่นานแล้ว ถ้าไม่มีเหตุเหนือความคาดหมายอะไร อีกไม่นานก็จะไปแล้ว ที่มาวันนี้เพราะอยากถามนายว่าทางนายวางแผนไว้ยังไง?”
หยวนกังถาม “คุณอยากให้ผมทำอะไร?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “กลับไป! กลับไปทันที! ฉันไม่เห็นด้วยที่นายจะมาตั้งแต่แรกแล้ว เป็นนายที่รั้นจะมาให้ได้ ฉันไม่สะดวกจะพูดอะไรมาก แต่นายน่าจะรู้ดี ถ้าโต้คลื่นบ่อยเข้า ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกคลื่นซัดจนสำลักเอา คนที่จมน้ำตายได้ง่ายที่สุดก็คือคนที่คิดว่าตัวเองว่ายน้ำเป็น นายเคยติดตามฉันอย่างเปิดเผย ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีคนที่จำนายได้ สำหรับนายแล้ว ที่นี่อันตรายเกินไป!”
วันนี้ที่เขาตั้งใจถ่อมาที่นี่ก็เพราะอยากพูดเรื่องนี้
“เรื่องทางนี้ไม่มีอะไรที่ต้องให้ผมทำเลยเหรอ?”
“เรื่องที่นายสมควรทำ นายก็ได้ช่วยทำให้ฉันไปแล้ว การเตรียมการครั้งก่อนของนายทำให้เหลือช่องมากพอจะพลิกสถานการณ์ได้ ส่วนเรื่องหลังจากนี้ไปนายไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงแล้ว”
“แต่ผมยังไม่ได้ลงมือเลย”
“เจ้าลิง นายน่าจะเข้าใจนะ โลกนี้ต่างไปจากโลกใบนั้นที่พวกเราคุ้นเคย โลกใบนี้อยู่ใต้การควบคุมของผู้บำเพ็ญเพียร ในโลกนี้ความสามารถของนายมีขีดจำกัด พอซางเฉาจงขยายฐานอำนาจออกไป ระดับชั้นของโลกบำเพ็ญเพียรที่ฉันต้องเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เจ้าลิง กลับไปซะ! ซ่อนตัวอยู่ในแนวหลังเถอะ แนวหน้าให้ฉันจัดการเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า