ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 35

ตอนที่ 35 เจ้าคิดว่าข้ากลัวตระกูลซ่งของเจ้าหรือ?

ฝ่ามือที่เด็ดขาดและรุนแรงฝ่ามือหนึ่งฟาดเข้าใส่ทรวงอกของสวี่อี่เทียน!

ภายในเสียงกระแทกทึบๆ มีเสียงกระดูกแตกร้าวดังขึ้นมา สวี่อี่เทียนกระเด็นลอยไปด้านหลัง “พรืด!” โลหิตสดๆ ไหลทะลักออกมาจากปากและจมูก ทำเอาผู้ที่ดูเหตุการณ์อยู่พากันตกใจ

สวี่อี่เทียนที่ตกลงมาบนพื้นถอยโซซัดโซเซไปด้านหลัง ภายในปากและจมูกมีโลหิตไหลทะลักออกมา ขณะเดียวกันยังเบิ่งตาโตมองดูหนิวโหย่วเต้า ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เขาประมาทเกินไป ประมาทจนกระทั่งในตอนที่รับรู้ได้ถึงความผิดปกติมันก็สายไปเสียแล้ว ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ยกระดับการป้องกันไปอยู่ในระดับสูงสุดด้วย

สำหรับคนที่ชมเหตุการณ์อยู่ข้างๆ แล้ว ภาพเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเร็วจนมองตามแทบจะไม่ทัน คนอื่นๆ รวมไปถึงซางเฉาจงต่างค่อนข้างตกใจ เพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำให้ศัตรูบาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้ หรือว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายจะแตกต่างกันมากถึงเพียงนี้? หากเป็นเช่นนั้นจริง เหตุใดคนผู้นี้ถึงได้ดูค่อนข้างประมาทคู่ต่อสู้?

ฝ่ามือที่ฟาดออกไปของหนิ่วโหย่วเต้ายังคงค้างอยู่เช่นนั้น หลังฟาดใส่ศัตรูจนถอยไปแล้วจึงค่อยๆ วางลง ตัวหนิวโหย่วเต้ายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าสงบเยือกเย็น แต่ภายในใจกลับกำลังครุ่นคิด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทดสอบ ‘ฝ่ามือมหาจักรวาล’ ของตัวเองบนร่างกายคนอย่างแท้จริง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไรบ้าง

สวี่อี่เทียนที่ถอยโซซัดโซเซไปด้านหลังไม่หยุดถูกเฉินกุยซั่วยื่นมือมาประคองเอาไว้ถึงจะหยุดลงได้ ซ่งเหยี่ยนชิงและเฉินกุยซั่วเพียงมองดูโลหิตที่ยังคงไหลทะลักออกมาจากปากและจมูกของสวี่อี่เทียนไม่หยุดก็รู้ว่าเขาถูกฝ่ามือของหนิวโหย่วเต้าเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส!

ทั้งสองคนลอบด่าสวี่อี่เทียนที่ประมาทศัตรูอยู่ในใจ คิดไม่ถึงว่าจะถูกฝ่ามือเดียวฟาดเข้าใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ได้ พวกเขายังคงคิดว่าเป็นเพราะสวี่อี่เทียนประมาทคู่ต่อสู้มากเกินไป อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะระวังยันต์ถ่ายทอดธรรมคุ้มกายบนตัวอีกฝ่ายเอาไว้หน่อยหรือเปล่า?

แต่พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าสวี่อี่เทียนนั้นบาดเจ็บสาหัสจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว ภายในร่างกายของเขาเวลานี้มีพลังหยางที่แข็งกร้าวสายหนึ่งและพลังหยินที่อ่อนโยนสายหนึ่งกำลังสอดประสานกันอยู่ หนึ่งร้อนหนึ่งเย็นพัวพันกันไม่หยุด ทำเอาพลังภายในร่างกายของเขาปั่นป่วน ไม่สามารถโคจรพลังเพื่อปรับลมปราณได้ ลมหายใจปั่นป่วนเป็นอย่างมาก จนเขาไม่สามารถอ้าปากเพื่อพูดได้

ความรู้สึกตกตะลึงที่เขามีต่อหนิวโหย่วเต้าไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เขามั่นใจว่าวิชาที่หนิวโหย่วเต้าฝึกฝนมิใช่เคล็ดวิชา ‘สวรรค์พิสุทธิ์หทัยสูตร’ ของสำนักสวรรค์พิสุทธิ์อย่างเด็ดขาด วิชาของสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ไม่ได้ดุดันแข็งกร้าวเช่นนี้!

จนปัญญาที่เขาไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกตกตะลึงที่อยู่ภายในใจให้คนอื่นรับรู้ได้

ภายในใจซ่งเหยี่ยนชิงเองก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเช่นกัน นึกเสียใจว่าในอดีตไม่น่าเกลี้ยกล่อมให้สำนักสวรรค์พิสุทธิ์อนุญาตให้หนิวโหย่วเต้าฝึกวิชาเลย ดูเหมือนหลายปีมานี้เจ้านี่มันจะฝึกฝนจนมีความรุดหน้า มิเช่นนั้นคงไม่มีทางเล่นงานสวี่อี่เทียนจนได้รับบาดเจ็บได้

ไม่จำเป็นต้องให้เขาบอกอะไร เฉินกุยซั่วปล่อยมือจากสวี่อี่เทียน ก้าวอาดๆ ออกไป ก่อนจะพุ่งตัวขึ้นไปบนอากาศ มือชักกระบี่ออกมา ลำแสงกระบี่สายหนึ่งชี้ตรงมายังหนิวโหย่วเต้า จากนั้นพุ่งทะยานเข้ามา

หนิวโหย่วเต้ายังคงยืนเฉยเหมือนอย่างก่อนหน้า ขณะที่เฉินกุยซั่วกำลังพุ่งลงมาถึง แขนข้างที่ถือกระบี่ของเขาพลันยันขึ้นไปบนกระบี่ ร่างกายพลิกกลับหัวโดยใช้กระบี่เป็นจุดศูนย์กลางคอยค้ำพื้นเอาไว้ ขาทั้งสองข้างเตะตามกันออกไป

เท้าข้างหนึ่งเตะไปที่ผิวด้านข้างของตัวกระบี่ที่ฟันลงมา กระแทกกระบี่ที่ฟันลงมาออกไป เท้าอีกข้างหนึ่งเตะใส่ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งของเฉินกุยซั่วที่ฟันลงมา เท้าอีกข้างหนึ่งที่ชักกลับมาฟาดเข้าไปที่หน้าอกของเฉินกุยซั่วดังผัวะ ขณะที่ทุกคนกำลังมองดูจนตาลาย เฉินกุยซั่วที่เพิ่งจะกระโจนเข้ามาก็ถูกหนิวโหย่วเต้าเตะจนกระเด็นลอยกลับไป

ซ่งเหยี่ยนชิงที่เห็นท่าไม่ดีพุ่งตัวออกมา เขากระโดดขึ้นไปกลางอากาศ เท้าเหยียบไปบนร่างเฉินกุยซั่วที่กระเด็นลอยกลับมา ขณะเดียวกับที่หลบหลีกร่างเฉินกุยซั่วที่ลอยมาก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง มือตวัดกระบี่ออกมาดังชิ้ง ลำแสงกระบี่สาดประกายเจิดจ้า สาดส่องลงมาจากบนท้องฟ้า ปกคลุมร่างหนิวโหย่วเต้าที่อยู่ด้านล่างเอาไว้

หนิวโหย่วเต้าที่ใช้มือยันกระบี่พลิกตัวขึ้นไปกลางอากาศก็ยังไม่ตกลงพื้นเช่นกัน ในขณะที่ตัวเขาบิดหมุนอยู่กลางอากาศ จู่ๆ ร่างเขาพลันหดงอเหมือนกุ้งแห้ง จากนั้นยืดกางออกอย่างฉับพลัน ร่างกายที่หมุนกลับหัวพลันพลิกกลับมา เสียงชิ้งดังขึ้น ประกายเยียบเย็นพุ่งออกจากฝัก ปลายเท้าแตะไปบนฝักกระบี่ที่ตั้งตรงอยู่บนพื้น ร่างกายพลันทะยานขึ้นไปบนอากาศ สะบัดกระบี่ฟันขึ้นไปด้านบน เกิดเป็นเงากระบี่ที่ดุดันเกรี้ยวกราด กระบี่นี้มีชื่อว่า ‘กระบี่เอกะวิถีแบ่งประทีป!’

หากเป็นสภาวะในโลกก่อนหน้านี้ หนิวโหย่วเต้าไม่มีทางใช้กระบี่นี้ออกมาได้!

ลำแสงกระบี่จำนวนมากกระจายตัวออกไปเหมือนดั่งผืนผ้า เมื่ออยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดแสงลงมาแลดูแสบตาเป็นอย่างมาก

ซ่งเหยี่ยนชิงที่หมุนตัวพุ่งลงมาจากด้านบนตกใจจนมือไม้ปั่นป่วน หากมองลงไปจากด้านบน เงากระบี่ที่พุ่งขึ้นมาอย่างดุดันนั้นเป็นเหมือนดั่งดอกบัวที่เบ่งบาน เขาแยกไม่ออกแล้วว่าไหนจริงไหนลวง ไม่รู้ว่าควรจะปัดป้องอย่างไร ในเวลานี้เขารู้แล้วว่าหนิวโหย่วเต้ามิใช่หนิวโหย่วเต้าที่เขาคิดเอาไว้

เสียงติงตังๆ ดังขึ้นมา แขนข้างหนึ่งของซ่งเหยี่ยนชิงกระเด็นออกไปพร้อมกับกระบี่ที่กุมอยู่ในมือ

หนิวโหย่วเต้าที่ลอยผ่านร่างซ่งเหยี่ยนชิงกลางอากาศหมุนตัวแล้วสะบั้นกระบี่อาบเลือดออกไปอีกคราหนึ่ง ก่อนจะสะบัดเท้าเตะเฉียงๆ เข้าไปที่หน้าอกของซ่งเหยี่ยนชิงดังผัวะ ซ่งเหยี่ยนชิงถูกเตะจนร่างกระเด็นลอยออกไป เหลือไว้เพียงขาสองข้างที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศพร้อมโลหิตที่สาดกระเซ็น

ปลอกกระบี่ที่ตั้งอยู่บนพื้นกำลังจะล้มลง หนิวโหย่วเต้าที่ลอยอยู่กลางอากาศซัดกระบี่ลงมา กระบี่ส่งเสียงหวีดร้อง ลำแสงเยียบเย็นสายหนึ่งสาดกระจายลงมาจากด้านบน พุ่งกลับเข้าไปในปลอกกระบี่ ทำให้ปลอกกระบี่ที่กำลังจะล้มลงตั้งอยู่ได้

เฉินกุยซั่วกระแทกลงพื้นดังตึง

จากนั้นซ่งเหยี่ยนชิงก็กระแทกลงพื้นดังตึงเช่นกัน

หลังจากนั้นถึงจะมีร่างคนคนหนึ่งลอยลงมาจากบนฟ้า อาภรณ์พลิ้วไหวโบกสะบัด หนิวโหย่วเต้าที่ลงมายืนบนพื้นยื่นมือออกไปกุมบนด้ามกระบี่เอาไว้อย่างแผ่วเบา

ไม่มีใครมองเห็นโลหิตที่อาบอยู่บนคมกระบี่ อาวุธสังหารนี้ยังคงอยู่ในมือของหนิวโหย่วเต้าเหมือนไม้เท้าแท่งหนึ่ง กระบี่นี้มีนามว่า ‘หลั่งเลือดภักดี!’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า