ตอนที่ 353 ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
บนผืนแผ่นดินกว้างไพศาล เห็นชัดเจนว่าม่านรัตติกาลมาเยือนแล้ว ทว่าร่างของเหล่าศิษย์จากสามสำนักที่โดยสารวิหคยักษ์ทั้งห้าโบยบินอยู่บนนภาสูงกลับยังคงอาบไล้ด้วยแสงตะวันสดใสอยู่ที่ปลายขอบฟ้า ผืนดินที่อยู่ด้านล่างแทบจะถูกความมืดปกคลุมไปกว่าครึ่ง
ปีกทองตัวหนึ่งบินอยู่ด้านหน้า วิหคทั้งห้าบินตามหลังมาห่างๆ
เทือกเขาคดเคี้ยวทอดยาวอีกสายปรากฏขึ้นมา ราวกลับมังกรยักษ์ตัวหนึ่งที่ทอดตัวหลับไหลอยู่บนพื้น
“ข้างล่าง!” จู่ๆ ศิษย์จากสำนักศาสตราลึกล้ำคนหนึ่งก็ตะโกนเตือนขึ้นมา ทุกคนมองลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
เงาดำหลายสายโผทะยานออกมาจากเทือกเขาด้านล่าง เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เป็นวิหคยักษ์ห้าตัวเช่นกัน พุ่งเข้ามาจู่โจม บนร่างของวิหคยักษ์แต่ละตัวล้วนมีคนชุดดำโพกหน้าอยู่สามคน รวมเป็นสิบห้าคนเท่ากัน!
“นั่นใคร!” หนึ่งในกลุ่มศิษย์สามสำนักตะโกนกร้าว!
วิหคทั้งห้าพุ่งโฉบขึ้นมาในแนวทแยง คนโพกหน้าทั้งหมดต่างยกมือขึ้นมา เผยให้เห็นธนูคันใหญ่เทอะทะ แต่ละคนหยิบลูกศรสามดอกออกมาจากกระบอกลูกศรที่สะพายไว้ด้านหลัง ขึ้นสายธนูพร้อมกัน น้าวยิงอย่างรวดเร็ว!
ไม่ทราบเช่นกันสายธนูสีดำที่ดูเหมือนเชือกเส้นหนาสร้างขึ้นจากวัสดุใด วินาทีที่น้าวสายมีไอหมอกจางๆ แผ่ออกมาปกคลุม
ฟุบๆๆ! ลูกศรสิบห้าดอกพุ่งเข้ามาพร้อมกัน
เหล่าศิษย์จากสามสำนักต่างโคจรพลัง หมายจะทำการป้องกัน แต่จู่ๆ ลูกศรสิบห้าดอกที่พุ่งเข้ามากลับสลายตัวไปดั่งโคลนที่ละลายเมื่อตกลงไปในน้ำ
จู่ๆ ลูกศรสิบห้าดอกนั้นก็สลายตัวไปกลางอากาศ โดยเริ่มจากส่วนหัวลูกศร
จากหัวไปจนถึงปลายลูกศร จู่ๆ ก็สลายตัวไปเหมือนดั่งหมอกควัน
ไม่นานเหล่าศิษย์สามสำนักก็รู้ตัว ไม่ใช่ว่าสลายตัวไป หากแต่เป็นการแตกตัวต่างหาก ลูกศรทุกดอกแตกตัวออกเป็นเข็มเล็กบางดั่งเส้นขนวัวจำนวนนับไม่ถ้วน!
ลูกศรสิบห้าดอกกลายเป็นห่าเข็มปกคลุมเข้ามา!
“ศรทะลวงสวรรค์ ระวัง!” ใครบางคนในกลุ่มศิษย์สามสำนักอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
เข็มขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนนั้นถูกสร้างขึ้นเป็นพิศษ ขอเพียงออกแรงยิงด้วยกำลังที่มากพอ เข็มที่เรียวบางและแหลมคมจะสามารถเจาะทะลวงปราณคุ้มกายได้ สกัดต้านไม่อยู่!
หากนำศรทะลวงสวรรค์มาใช้การลอบโจมตีจะมีผลลัพธ์รุนแรงอย่างยิ่ง แต่ก็ขั้นตอนการผลิตก็ยากลำบากเป็นอย่างมาก
ศรทะลวงสววรรค์แค่ดอกเดียวก็นับว่าหาได้ยากแล้ว ต่อให้หลับฝันเหล่าศิษย์สามสำนักก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนนำศรทะลวงสวรรค์สิบห้าดอกมาโจมตีใส่พวกเขาในคราวเดียว!
กระทั่งเข็มขนาดเล็กเข้ามาใกล้จนเห็นได้ชัด จนรับรู้ได้แล้วว่าเป็นสิ่งใดกันแน่ แต่มันก็สายเกินกว่าจะป้องกันได้แล้ว
ห่าเข็มจำนวนมหาศาลถาโถมปกคลุมเข้ามา เหล่าศิษย์สามสำนักพยายามยกอาวุธปัดป้องสุดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถสกัดต้านได้ทั้งหมด
“อึก…”
“อ๊าก…”
เข็มขนาดเล็กนับร้อยทิ่มทะลุเข้าไปในร่างคน เกิดเสียงร้องโหยหวนแว่วดังขึ้นมา!
บางคนด้วยความลนลานจึงพลาดถูกโจมตีเข้าที่ดวงตาทั้งสอง ใบหน้ามีเข็มบางๆ ปักอยู่ เลือดไหลออกมาจากสองตา ร้องโหยหวนน่าเวทนา!
เกิดเสียงโลหะแว่วกระทบกัน ศิษย์ของสำนักศาสตราลึกล้ำควบคุมแผ่นเกล็ดก่อตัวเป็นโล่กำบังขวางกั้นไว้ โล่ถูกเข็มกระทบจนปรากฏสะเก็ดไฟกระจายไปทั่ว
ถึงจะป้องกันอันตรายเอาไว้ได้ แต่การตอบสนองยังคงค่อนข้างจวนตัว บนร่างจึงยังมีเข็มขนาดเล็กทิ่มแทงปักเข้าไปบ้างไม่มากก็น้อย
“แกว่ก…” วิหคทั้งห้าส่งเสียงโหยหวนขึ้นมากลางอากาศ กระทั่งเหล่าศิษย์สามสำนักยังเอาตัวไม่รอด สถานการณ์ของพวกมันจะเป็นอย่างไร เพียงแค่คิดดูก็รู้แล้ว
วิหคทั้งห้าตัวโดนโจมตีเข้าไปเต็มๆ บินสะเปะสะปะกลางอากาศ!
ศิษย์สิบห้าคนจากสามสำนักดีดตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากศิษย์ที่ตาบอดไปแล้วคนนั้นที่โคจรปราณเหินทะยานมุ่งสู่พื้น ที่เหลือล้วนมุ่งหน้าเข้าโจมตีศัตรูพร้อมกัน
ถึงแม้ศรทะลวงสวรรค์จะร้ายกาจเป็นอย่างมาก แต่มันก็มีจุดอ่อนอยู่ นั่นก็คือพลังทำลายล้างไม่รุนแรง!
เนื่องจากเข็มมีขนาดเล็กบางเกินไป พลังทำลายล้างจึงมีกำจัด ไม่เหมือนดาบกระบี่ที่ฟันเพียงเล็กน้อยก็ปลิดชีพได้!
ทันทีที่เข็มทิ่มเข้าสู่ร่างของพวกเขา มันก็ถูกพวกเขาโคจรลมปราณในร่างสกัดเอาไว้ ก่อนจะใช้พลังพ่นเข็มย้อนออกไปอีกครั้ง
ทว่าหลังจากลงมือเสร็จ คนโพกหน้าที่มาลอบโจมตีเหล่านั้นก็ควบคุมวิหคยักษ์หันเหเบี่ยงทิศทางไป ไม่ได้เข้าต่อสู้พัวพันกับเหล่าศิษย์สามสำนัก
“มีพิษ!” ศิษย์คนหนึ่งของสำนักเพลิงนภาตะโกนด้วยความตกใจ บริเวณใบหน้าของเขาที่ถูกเข็มทิ่มจนกลายเป็นจุดสีแดงเล็กจิ๋วได้เปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว จุดดำขยายลุกลามไปบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว
คนอื่นๆ ก็รับรู้ได้เช่นกันว่าเข็มอาบยาพิษไว้ จุดที่โดนเข็มเริ่มรู้สึกชาขึ้นมา ความรู้สึกชาแผ่ลามไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเรื่องร้ายแรงถึงชีวิตอย่างแท้จริง!
ไหนเลยจะยังมีใจตามไล่ล่าอีก รักษาชีวิตให้รอดได้ก็นับว่าดีมากแล้ว เหล่าศิษย์สามสำนักรีบร่อนถลาลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว
พอพวกเขาลงมาถึงพื้น แต่ละคนก็ส่ายโงนเงน ซวนเซล้มลุกคลุกคลาน
ส่วนคนที่ถูกเข็มโจมตีไปค่อนข้าเยอะ แค่จะร่อนลงพื้นแบบปกติก็ยังทำไม่ได้เลย ยามที่ใกล้จะแตะถึงพื้นกลับล้มกระแทกพื้นไป เนื้อตัวฟกช้ำอาบเลือด
วิหคห้าตัวสยายปีกพุ่งโฉบลงมาจากด้านบน เงาร่างมนุษย์สิบห้าคนพุ่งออกมา ปราณกระบี่ทรงพลังสายแล้วสายเล่าถูกซัดออกมา
เหล่าศิษย์สามสำนักบ้างก็ศีรษะกระเด็นหลุดลอยไป บ้างก็ถูกแยกร่างในแนวทแยง บ้างก็ถูกฟันจนตัวขาดครึ่ง โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว
ราวกับเศษฟางที่ล้มลง ไร้ซึ่งกำลังจะตอบโต้ แต่ละคนนอนจมอยู่ท่ามกลางกองโลหิต
ปัง! กรงนกที่อยู่ในมือใครบางคนหล่นร่วงสู่พื้น แตกกระจายย่อยยับ ปีกทองหลายตัวที่อยู่ด้านในถูกปราณกระบี่ทรงพลังสายหนึ่งฟาดฟันจนแหลกเป็นเศษเนื้อ
ก่อนสิ้นใจตายมีศิษย์บางคนเปิดกรงปีกทองที่สะพายไว้ด้านหลังออก ปล่อยปีกทองหลายตัวที่อยู่ด้านในให้บินออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า