ตอนที่ 359 ฮูเหยียนเวยร้องไห้
อวี้ชางค้อมตัวลงเล็กน้อย “เชิญฝ่าบาทตรัสมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
เฮ่าอวิ๋นถูกล่าวว่า “เฮ่าชิงชิงธิดาของข้าถึงวัยออกเรือนแล้ว บ้านแม่ทัพฮูเหยียนมีบุตรชายคนเล็กที่ถึงวัยแต่งงานแล้วเช่นกัน เหมาะสมพอดีกันนัก จึงอยากให้ขอให้อาจารย์ช่วยเป็นพ่อสื่อ ไม่ทราบว่าอาจารย์มีความเห็นอย่างไร?” แววตาเปี่ยมด้วยความคาดหวัง
พอเขากล่าวประโยคนี้ออกมา ซานเชียนหลี่ เป่ยเสวียนและอวี่เหวินเยี่ยนสบตากันเล็กน้อย พอจะเข้าใจเหตุผลที่องค์ฮ่องเต้ลากพวกเขามาแล้ว
ถึงแม้อวี้ชางจะมีชื่อเสียง อีกทั้งเป็นยอดฝีมือลำดับที่ห้าบนทำเนียบโอสถ แต่ก็ยังมีความแตกต่างกับพวกเขาเป็นอย่างมาก
พวกเขาสามคนก็มีตำแหน่งในหอเลือนสลัวเช่นกัน อีกอย่างหอเลือนสลัวต่างหากที่กุมอำนาจทั้งหมดในใต้หล้าไว้ แตกต่างกันมากแค่ไหนเพียงคิดดูก็รู้แล้ว ดังนั้นอวี้ชางจึงยังไม่ได้มีค่าถึงขั้นที่จะให้พวกเขาทั้งสามออกหน้ามารับรองพร้อมกันได้ วุ่นวายมานานสองนาน ที่แท้องค์ฮ่องเต้ก็ทำเพื่อเรื่องวิวาห์ขององค์หญิงใหญ่นี่เอง!
ทั้งสามคนก็ทราบเรื่องนี้เช่นกัน กองทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นฉีอยู่ในมือของฮูเหยียนอู๋เฮิ่น กองทหารม้าที่เป็นหนึ่งไม่มีสองก็ถูกก่อตั้งขึ้นโดยฮูเหยียนอู๋เฮิ่น ภายในกองทหารม้า ตำแหน่งและอำนาจของฮูเหยียนอู๋เฮิ่นไม่มีผู้ใดมาแทนที่ได้ ขอเพียงฮูเหยียนอู๋เฮิ่นไม่ยินยอม ถึงราชสำนักจะส่งผู้ใดไปนั่งประจำการในตำแหน่งผู้บัญชาการก็ไม่มีประโยชน์
เรื่องแบบนี้ ต่อให้ส่งผู้บำเพ็ญเพียรจากสามสำนักไป ‘ปกป้อง’ อยู่ข้างกายฮูเหยียนอู๋เฮิ่น และสามารถปลิดชีพฮูเหยียนอู๋เฮิ่นได้ตลอดเวลาก็ไม่มีประโยชน์ ฮ่องเต้กล้าสังหารฮูเหยียนอู๋เฮิ่นส่งเดชอย่างนั้นหรือ?
ต่อให้องค์ฮ่องเต้อยากสังหารก็ต้องถามความเห็นจากสามสำนักด้วย หากสังหารฮูเหยียนอู๋เฮิ่น กองทหารม้าจะต้องเกิดความโกลาหลแน่นอน ดีไม่ดีทหารอาจจะก่อกบฏวุ่นวายขึ้นมา หากกองกำลังภายนอกฉวยโอกาสบุกเข้ามา มันจะกระทบถึงผลประโยชน์ของสามสำนักใหญ่ คนของสามสำนักใหญ่ไม่อาจนั่งดูดายได้!
เนื่องด้วยเหตุนี้ หากจะพูดให้ฟังดูแน่หน่อย หากจู่ๆ วันหนึ่งฮูเหยียนอู๋เฮิ่นแสดงท่าทีจะสนับสนุนองค์ชายคนใดขึ้นมา สามสำนักใหญ่ก็จำเป็นต้องใคร่ครวญให้ความสำคัญกับความเห็นของฮูเหยียนอู๋เฮิ่นด้วย หากวันนั้นมาถึงจริงๆ เกรงว่าแม้แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ของเฮ่าอวิ๋นถูก็คงจะมีอันตรายไปด้วย
อย่าคิดว่าแคว้นฉีแห่งนี้จะสงบสุขทั่วกัน อย่าคิดว่าจะไม่มีผู้ใดหมายปองตำแหน่งฮ่องเต้ของเฮ่าอวิ๋นถู
เมื่อเป็นเช่นนี้ เฮ่าอวิ๋นถูย่อมต้องมีความพะวงในตัวฮูเหยียนอู๋เฮิ่นเป็นธรรมดา
ฮูเหยียนอู๋เฮิ่นเองก็ใช่ว่าจะไม่ภักดีต่อแคว้นฉี และใช่ว่าจะไม่ภักดีต่อเฮ่าอวิ๋นถู แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาไม่อยากเลือกใช้วิธีการนำเอาลูกมาแต่งงานเกี่ยวดองกัน
แต่เฮ่าอวิ๋นถูไม่วางใจนี่นา เรื่องราวในใต้หล้านี้มีปัจจัยไม่แน่นอนอยู่มากเกินไป เรื่องในอนาคต ไม่ว่าผู้ใดก็บอกได้ยาก เขาจำเป็นต้องผูกมัดตระกูลฮูเหยียนไว้กับเขา!
ตอนนี้การมาถึงของอวี้ชางทำให้เฮ่าอวิ๋นถูมองเห็นโอกาส อวี้ชางเองก็นับได้ว่าเป็นอาจารย์ของฮูเหยียนอู๋เฮิ่น ในฐานะที่เป็นอาจารย์ อีกฝ่ายน่าจะโน้มน้าวฮูเหยียนอู๋เฮิ่นได้ดีกว่าคนอื่น
สำหรับเรื่องนี้ เจ้าสำนักทั้งสามไม่สะดวกจะกล่าวอันใด
อวี้ชางได้ฟังก็เงียบไปเล็กน้อย ชื่อเสียงของเขาก็ใช่ว่าจะได้มาเปล่าๆ ย่อมต้องกระจ่างในบางเรื่องราวดี
เจตนาขององค์ฮ่องเต้ชัดเจนเป็นอย่างมาก อย่าว่าแต่ฮูเหยียนอู๋เฮิ่นเลย แม้แต่คนนอกก็รู้แก่ใจดีเช่นกัน หากว่าบุตรชายคนใดของฮูหยียนอู๋เฮิ่นได้แต่งกับองค์หญิง องค์ฮ่องเต้ก็จะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องในตระกูลฮูเหยียนได้ แต่มิใช่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องทั่วๆ ไปในครอบครัวอันใด หากแต่เป็นเรื่องที่ว่าผู้ใดแต่งกับองค์หญิง ฮ่องเต้ก็จะสนับสนุนผู้นั้น คนที่ได้รับการสนับสนุนย่อมได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลฮูเหยียนในอนาคตแน่นอน ถ้าเฮ่าอวิ๋นถูยืนกรานจะให้การสนับสนุนใครสักคน จะมีสักกี่คนที่ขวางเขาได้?
ประเด็นสำคัญคือเกรงว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แค่ให้การสนับสนุนเท่านั้น เพราะเมื่อต้องการสนับสนุนใครสักคน ก็อาจจะต้องข่มบุตรชายคนอื่นๆ ของฮูเหยียนอู่เฮิ่นไว้
เห็นได้ชัดว่าฮูเหยียนอู๋เฮิ่นไม่ต้องการให้องค์ฮ่องเต้สอดมือเข้ามาในบ้านตน เพราะแบบนั้นมันจะทำให้ภายในบ้านเกิดความวุ่นวาย การทีเรื่องในครอบครัวกับเรื่องบ้านเมืองปะปนกันมิใช่เรื่องดีอันใดต่อตระกูลฮูเหยียนแน่นอน หากว่าฮูเหยียนอู๋เฮิ่นยอมตอบตกลงง่ายๆ คาดว่าเฮ่าอวิ๋นถูคงไม่ต้องมาขอร้องอวี้ชางแบบนี้
อวี้ชางเองก็ฟังเจตนาขององค์ฮ่องเต้ออกเช่นกัน มีเจตนาจะทำการแลกเปลี่ยน ความหมายคือหากเจ้าช่วยจัดการเรื่องวิวาห์ให้ข้าได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าตามหาหนิวโหย่วเต้า!
อวี้ชางเอ่ยเสียงเรียบว่า “บุตรชายคนเล็กของตระกูลฮูเหยียน กระหม่อมเคยได้ยินเรื่องราวมาเช่นกัน เป็นเด็กซุกซนเสเพลคนหนึ่ง เกรงว่าจะไม่เหมาะกับองค์หญิงใหญ่พ่ะย่ะค่ะ!”
เฮ่าอวิ๋นถูกล่าวว่า “หากว่าเกินจะเยียวยาแล้วจริงๆ ข้าก็คงไม่พูดถึงเรื่องนี้ แต่ข้าคอยจับตาดูเด็กคนนั้นมาตลอด ภายนอกหยาบกระด้าง เนื้อในละเอียดลออ มิได้ย่ำแย่อย่างที่เห็นกันในภายนอก ยิ่งไปกว่านั้นคือธิดาของเราคนนั้นถูกพะเน้าพะนอมาตั้งแต่เล็ก เป็นสาวน้อยที่ทำให้คนปวดเศียรเวียนเกล้าเช่นกัน ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร ข้าต้องการบุรุษที่กล้าสั่งสอนอบรมนางอยู่พอดี คนหนึ่งรอแต่งออก อีกคนรอแต่งเข้า ทั้งสองนับว่าเป็นคู่สร้างคู่สมกัน!”
วาจานี้หากปล่อยให้เฮ่าชิงชิงมาได้ยินเข้า คาดว่าคงอาละวาดเป็นแน่ คิดไม่ถึงว่าจะมีบิดาที่พูดถึงบุตรสาวตนเช่นนี้ด้วย
อวี้ชางเอ่ยว่า “อาจจะยังมีคนอื่นที่เหมาะสมกับองค์หญิงใหญ่มากกว่านะพ่ะย่ะค่ะ”
เฮ่าอวิ๋นถูกล่าวว่า “แต่คนที่ถูกใจเราคือบุตรชายคนเล็กของตระกูลฮูเหยียนผู้นั้น!”
พูดกันมาถึงขั้นนี้แล้ว หลังจากอวี้ชางเงียบไปครู่หนึ่งก็พยักหน้ารับช้าๆ “ได้พ่ะย่ะค่ะ! บุรุษถึงวัยแต่งงานสตรีถึงวัยออกเรือนก็เป็นเรื่องดีงาม หลังออกจากวังไป กระหม่อมจะไปเจรจาเรื่องนี้ที่บ้านท่านแม่ทัพพ่ะย่ะค่ะ!”
“รบกวนท่านอาจารย์แล้ว!” เฮ่าอวิ๋นถูเอ่ยด้วยความดีใจ กุมจอกสุราด้วยสองมือพลางเอ่ยว่า “ข้าขอคารวะท่านอาจารย์!”
อวี้ชางคารวะสุรากลับ
เจ้าสำนักทั้งสามสบตากันเล็กน้อย ไม่พูดอะไร และไม่คิดจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องเช่นนี้ด้วย เรื่องระหว่างองค์ฮ่องเต้และฮูเหยียนอู๋เฮิ่น พวกเขาจะช่วยฝ่ายใดก็ไม่เหมาะสมทั้งนั้น
หลังจากวางจอกสุราลง เฮ่าอวิ๋นถูหันกลับไปเอ่ยกับปู้สวินทันที “จงฮูหยินดั้นด้นเดินทางมาไกลเพื่อกราบอาจารย์ เหนื่อยยากมากนัก ไหนเลยจะปล่อยให้จงฮูหยินมาเสียเที่ยวได้? เจ้าจงส่งคนออกไปค้นหาเดี๋ยวนี้ เร่งค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของหนิวโหย่วเต้ามาให้จงได้!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ปู้สวินค้อมรับคำสั่ง
สำหรับร่องรอยของหนิวโหย่วเต้า ปู้สวินทราบอยู่แต่แรกแล้ว เขาย่อมเข้าใจถึงเจตนาของเฮ่าอวิ๋นถู
ก่อนหน้านี้เพิ่งบอกว่าไม่ทราบไปหยกๆ ไหนเลยจะกลับคำพูดของตนในชั่วพริบตาได้ หากอวี้ชางช่วยเรื่องวิวาห์ขององค์หญิงใหญ่ให้สำเร็จได้ ทางนี้ย่อมสามารถค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของหนิวโหย่วเต้าให้ หากว่าเจรจาไม่สำเร็จ ผลลัพธ์ย่อมต้องต่างออกไป ทางนี้ก็ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกได้ง่ายๆ เช่นกัน
ฝ่ายอวี้ชางก็ทำตามที่รับปากเอาไว้ ก่อนงานเลี้ยงสังสรรค์จะจบลง ก็ได้บอกว่าหลังออกจากวังไปแล้วจะตรงไปเจรจาเรื่องวิวาห์ที่บ้านแม่ทันฮูเหยียนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า