ตอนที่ 368 รอยตราจอมมาร
สำหรับงานวิวาห์นี้ ทางวังหลวงกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันเสียยิ่งกว่า งานวิวาห์จึงถูกกำหนดไว้กระชั้นชิดยิ่งนัก!
กำหนดวิวาห์ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ งานมงคลยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ผู้คนในเมืองหลวงแทบจะรู้กันถ้วนหน้า มีทั้งคนที่ยินดีและมีผู้ที่เป็นกังวล
ประชาชนปรีดาตั้งตารอคอย ด้วยทราบว่าตามธรรมเนียมแล้วมีความเป็นไปได้สูงที่องค์ฮ่องเต้จะประทานเมตตาให้แก่ประชาชน อย่างเช่นงดเว้นภาษี จุดบริจาคทานบางแห่งอาจจะเปลี่ยนจากข้าวต้มเป็นพวกอาหารแห้ง หรือบางทีอาจจะได้กินเนื้อก็เป็นได้
แต่สำหรับเหล่าขุนนางในเมืองหลวงแล้ว สิ่งที่พวกเขามองเห็นกลับเป็นคลื่นมรสุมใต้น้ำ ตระกูลฮูเหยียนที่กุมอำนาจกองทหารม้าไว้เกี่ยวดองกับองค์ฮ่องเต้แล้ว รูปการณ์ของราชสำนักเปลี่ยนไปแล้ว!
น้องสาวร่วมมารดาได้ออกเรือนแล้ว จวนอวี้อ๋องปิติดีใจ ลงเงินและกำลังให้เพื่อแสดงน้ำใจ รวบรวมของล้ำค่าหายากมาเสริมเป็นสินสอดเจ้าสาวให้น้องสาว จวนอวี้อ๋องไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือบ่าวไพร่ล้วนดีใจกันทั้งสิ้น น้ำขึ้นเรือย่อมลอยสูง หลักการนี้ทุกคนล้วนแต่ทราบดี ต่างรู้ว่าอวี้อ๋องมีที่พึ่งคนสำคัญแล้ว ล้วนทราบว่าต่อให้ฮูเหยียนอู๋เฮิ่นจะไม่แสดงท่าทีออกมา แต่อวี้อ๋องก็ครองความได้เปรียบไปสามส่วนแล้ว ดังนั้นทั้งจวนตั้งแต่นายจรดบ่าวไพร่ล้วนวิ่งเต้นช่วยเหลืองานวิวาห์ขององค์หญิงใหญ่อย่างกระตือรือร้นเป็นพิเศษ จัดการทุกเรื่องอย่างดีที่สุด!
….
ณ จวนจินอ๋อง จินอ๋องอาละวาดทำลายข้าวของ สบถด่าตระกูลฮูเหยียน ท่าทางคล้ายปรารถนาจะสังหารตระกูลฮูเหยียนเก้าชั่วโคตรใจแทบขาดแล้ว!
มีขุนนางจำนวนมากที่เดินสวนเข้าๆ ออกๆ จวนของท่านอ๋องแต่ละคน ยุ่งง่วนกับการช่วยกันหารือวางแผนการ เรื่องราวบางอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มีขุนนางจำนวนมากที่ในสมัยก่อนมานะทำงานเพื่อความก้าวหน้า แต่พอมีตำแหน่งสูงขึ้นมาจริงๆ ก็ได้รู้เห็นและเข้าใจในบางเรื่องราวขึ้นมา จะมานึกเสียใจมันก็สายไปเสียแล้ว เรื่องที่เคยกระทำไว้ในอดีตย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงก้าวเดินไปจนสุดทาง
เชื้อพระวงศ์บางส่วนก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน บ้างก็เลือกข้างไว้แล้ว ลงมือกระทำเรื่องบางอย่างไปแล้ว คิดจะเปลี่ยนฝ่ายกลับลำหาได้ง่ายดายปานนั้นไม่
แม้แต่ภายในของสามสำนักใหญ่ก็ถูกงานวิวาห์ครั้งนี้สั่นคลอนจิตใจเช่นกัน ขุนนางที่กุมอำนาจในโลกมนุษย์ธรรมดาจำนวนมากเริ่มติดต่อสมาคมกับสามสำนักใหญ่ ล้วนดำเนินการเพื่อเจ้านายที่อยู่เบื้องหลัง ยิ่งไปกว่านั้นคือมีศิษย์จำนวนมากของสามสำนักใหญ่ที่ทำหน้าที่ฝ่าซือติดตามอยู่ในบ้านเหล่าขุนนางด้วย
จวนอิงอ๋องยังคงเงียบสงบเช่นเคย ทุกอย่างเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพียงแต่มีการจัดเตรียมของขวัญบางส่วนเพื่อนำไปแสดงความยินดีด้วยเท่านั้น
ราชทูตจากแคว้นต่างๆ ก็พากันเตรียมของขวัญเช่นกัน
….
ณ ร้านเต้าหู้ เสมียนเกามาที่ลานส่วนใน มองเห็นหยวนกังที่เปลือยกายท่อนบนโหนคานไม้อยู่ อดไม่ได้ที่อุทานชื่นชมอยู่ในใจ ด้วยร่างกายอันกำยำนี้คาดว่าคงสามารถขึ้นเขาไปล่าเสือได้เลยทีเดียว ร่างกายเช่นนี้ต่อให้ตนหลับฝันก็ยังไม่ได้มาอยู่ดี
“เถ้าแก่ขอรับ” เสมียนเกาเงยหน้าประสานมือคำนับด้วยรอยยิ้ม
หยวนกังที่โหนอยู่บนคานไม้มองลงมา “มีอะไร?”
เมื่อเห็นว่าเขาไม่คิดจะลงมาคุยกัน เสมียนเกาก็ทำได้เพียงเงยหน้าคุย “เถ้าแก่ คืออย่างนี้ขอรับ ช่วงวานวิวห์ของคุณชายสาม เกรงว่าร้านเต้าหู้ของพวกเราอาจจะต้องปิดร้านสักสองสามวันขอรับ”
หยวนกังกล่าวว่า “หรือว่าจะมีการเชิญคนงานในร้านไปร่วมดื่มสุรามงคลในงานวิวาห์ของคุณชายสามด้วย?”
เสมียนเกาหัวเราะฮ่าๆ พลางเอ่ยไปว่า “เถ้าแก่ล้อกันเล่นแล้ว งานวิวาห์ของคุณชายสามกับองค์หญิงใหญ่ เถ้าแก่ย่อมไปร่วมดื่มสุรามงคลได้ แต่ข้ารับใช้หยาบช้าอย่างพวกเราและเหล่าคนงาน ไหนเลยมีสิทธิ์ไปร่วมดื่มสุรามงคลขององค์หญิงได้ แค่เหมาเหลาสุราสักแห่งให้ทุกคนไปครื้นเครงกันได้ก็นับว่าดีมากแล้วขอรับ คืออย่างนี้ขอรับ ความหมายของทางจวนแม่ทัพคือช่วงงานวิวาห์ของคุณชายสาม จะให้พวกเราปิดร้านเต้าหู้สามวัน ไม่เปิดขายต่อคนนอก แต่ให้ไปตั้งจุดแจกเต้าฮวยตามบริเวณต่างๆ ภายในเมืองหลวงแก่ประชาชนตลอดสามวันโดยไม่คิดเงินขอรับ นับเป็นการร่วมเฉลิมฉลองให้แก่งานวิวาห์มากขึ้นด้วย แต่แน่นอนว่ายังคงต้องคิดค่าใช้จ่ายอยู่ขอรับ ให้ลงบัญชีในนามของคุณชายสาม ใช้จ่ายไปมากน้อยแค่ไหนก็ให้หักจากเงินปันผลของคุณชายสามในภายหลังขอรับ เถ้าแก่ ท่านคิดเห็นประการใดขอรับ? หากว่าเห็นชอบ ข้าจะได้แจ้งกลับไปขอรับ”
ตุบ! หยวนกังพลันปล่อยมือทิ้งตัวลงมาจากคาน ร่วงลงบนพื้น ซวนเซเล็กน้อย
เสมียนเการ้องไอ๊หยา รีบเดินเข้าไปประคอง “ระวังหน่อยขอรับ ระวังหน่อย เถ้าแก่โปรดระวังตัวด้วย”
หยวนกังหลับตาลง สะบัดหน้าไปมาแรงๆ จากนั้นลืมตาขึ้นพลางเอ่ยเนิบๆ ว่า “ได้ จัดการไปตามความต้องการของจวนแม่ทัพเถอะ”
“ขอรับ เข้าใจแล้ว ข้าจะกลับไปรายงานเดี๋ยวนี้ขอรับ”
“ช้าก่อน เมื่อครู่เจ้าพูดถึงเรื่องเหมาเหลาสุรา…งานวิวาห์ของคุณชายสาม ช่วงที่ปิดร้านทั้งสามวันให้เหมาเหลาสุราหลายๆ แห่งเฉลิมฉลองกันสักหน่อย ให้คนงานในร้านได้กินดื่มสังสรรค์โดยไม่คิดเงินสามวัน แล้วก็ หากมีสมาชิกในครอบครัวก็ให้พาทั้งหมดมาด้วยกันได้ สุราอาหารต้องเป็นของมีคุณภาพ อย่าได้ทำอย่างขอไปที”
“หวา เถ้าแก่ นั่นคืออาหารการกินสำหรับคนหลายร้อยคนเลยนะขอรับ กินดื่มสามวันคงสิ้นเปลืองเงินไม่น้อย”
“หักไปจากบัญชีของข้า ไม่ต้องพูดมาก ไปจัดการตามนี้”
“ขอรับ เข้าใจแล้ว ข้าจะไปจัดการให้ขอรับ”
หลังจากเสมียนเกาจากไป หยวนกังที่ฝืนต่อไปไม่ไหวก็ส่ายโงนเงนอีกครั้ง ยื่นมือออกไปคว้าเสาไม้ด้านข้างเพื่อค้ำยันตัว จากนั้นก็สะบัดหน้าแรงๆ อีกครั้ง ลมหายใจค่อยๆ ถี่กระชั้นขึ้นมา ความรูสึกทรมานรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกอันคุ้นเคยนี้ทำให้เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์ตอนยาพิษออกฤทธิ์ในห้องมืดของเรือนเมฆาขาวขึ้นมาทันที
แล้วก็นึกถึงยาที่ฉินเหมียนมอบให้เขาในวันนั้น บอกว่าให้เขาใช้ตอนเกิดอาการทรมาน
เขาฝืนหยัดยืนให้มั่นคงแล้วรีบเดินไปทางห้องพักของตัวเอง
กระทั่งเข้าไปในห้อง ร่างกายก็รักษาสมดุลไม่อยู่แล้ว เดินชนสะเปะสะปะอยู่ในห้อง ไม่ง่ายเลยว่าจะคลำเจอลิ้นชักแล้วดึงออกมา ค้นหาจนพบยาเม็ดนั้น
ขณะที่กำลังจะบีบขี้ผึ้งหุ้มให้ปริแตก จู่ๆ เขาก็ชกหัวตัวเองเข้าเต็มแรงจนเกิดเสียงดัง ผัวะ! จากนั้นโยนยาใส่ลิ้นชักอีกครั้ง กระแทกลิ้นชักปิดเสียงดังปัง ซวนเซถอยหลังไปพิงผนังห้อง สูดหายใจหอบถี่รุนแรง
ของจากหอจันทร์กระจ่างจะกินเข้าไปได้หรือ? เขาไม่เชื่อว่าหอจันทร์กระจ่างจะใจดีถึงขนาดที่ยอมช่วยล้างพิษให้เขาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ยานี้จะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่!
แต่ความรู้สึกทุกข์ทรมานที่ตามมากลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกเหมือนจะดับดิ้นไปในในชั่วพริบตา
สองมือเขากำแน่น ตัวคนไถลจากผนังลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น เอนล้มลงไปขดกายคุดคู้ จากนั้นเหยียดออก พยายามควบคุมไม่ให้ตนกลิ้งเกลือกไปมาอย่างสุดกำลัง พยายามอดกลั้นไม่ให้ตนเปล่งเสียงครวญครางด้วยความทรมาน แต่ร่างกายกลับสั่นสะท้าน เหงื่อค่อยๆ ผุดซึมออกมาดั่งสายฝนชโลม สองแก้มและขอบตาค่อนข้างเขียวคล้ำแล้ว
ฝืนทนอยู่สักพักก็ดูเหมือนจะทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาคืบคลานไปกับพื้น คลานไปถึงหน้าตู้ใบนั้นอีกครั้ง ยื่นมือออกไปเพื่อคว้าหูลิ้นชัก
แต่ก็เอื้อมไม่ถึง คว้าไม่ได้ จึงเอื้อมมือไปจับตู้แล้วออกแรงพยุงตัวขึ้นจากพื้น ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงลิ้นชักนั้น ยื่นมือเข้าไปควานหาในลิ้นชักอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดมือที่สั่นเทาก็ควานพบยาหุ้มขี้ผึ้งเม็ดนั้น
ขณะที่กำลังจะหยิบยาออกมาจากลิ้นชัก จู่ๆ ก็ปล่อยมือจนยาร่วงกลับไปอีกครั้ง จากนั้นกระแทกปิดลิ้นชักอีกครั้งดังปัง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า