ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 378

ตอนที่ 378 คนที่ได้หัวเราะในตอนสุดท้ายต่างหากถึงจะเป็นผู้มีชัยอย่างแท้จริง!

“ขอบคุณเจ้า?” ดวงตากุ่ยหมู่แทบลุกเป็นไฟแล้ว ตอนนี้สิ่งที่นางกังวลมิใช่เรื่องที่ว่าฮ่องเต้แคว้นฉีจะหมายหัวนางหรือไม่ นางนึกห่วงจางสิงรุ่ยมากกว่า “พอเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแล้วจางสิงรุ่ยจะไปอยู่ที่ไหนได้? หรือจะให้พวกเขาทั้งบ้านย้ายตามข้าไปอยู่ในเขาลับแลที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันทั้งปีทั้งชาติแห่งนั้น? อิทธิพลหอจันทร์กระจ่างลึกล้ำเกินหยั่ง ไม่ว่าจะไปหลบซ่อนอยู่ที่ใดก็อาจจะถูกตามตัวพบทั้งสิ้น จางสิงรุ่ยจะรอดพ้นการตามล่าของหอจันทร์กระจ่างไปได้หรือ? หรือเขาจะต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวนไปชั่วชีวิต? หากไม่ใช่เพราะเจ้าสอดมือเข้ามายุ่ง จางสิงรุ่ยจะเดือดร้อนได้อย่างไร เจ้ายังจะให้ข้าขอบคุณเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ?”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “พี่หญิงโปรดใจเย็นก่อน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฐานะของจางสิงรุ่ยเปิดเผยแล้ว ย่อมกลับไปอยู่ข้างกายเฮ่าอวิ๋นเซิ่งไม่ได้แล้ว มิเช่นนั้นต้องถูกเฮ่าอวิ๋นเซิ่งจับเป็นตัวประกันข่มขู่พี่หญิงแน่ น่าเสียดายที่ทางฝั่งพี่หญิงมีคนกลุ่มใหญ่ติดตามอยู่ ยากจะเสาะหาสถานที่บำเพ็ญเพียรที่เหมาะกว่าเขาลับแลได้ มิเช่นนั้นคงให้ท่านและจางสิงรุ่ยมาอยู่ที่นี่แล้ว”

กุ่ยหมู่เอ่ยด้วยความโกรธ “สถานที่คับแคบแห่งนี้ของเจ้าจะสามารถขวางหอจันทร์กระจ่างได้หรือ? หากหอจันทร์กระจ่างระดมยอดฝีมือมาโจมตี สำนักหยกสวรรค์ก็ขวางไม่อยู่ เจ้ายากจะป้องกันตัวเองได้ แล้วยังจะมาพูดเรื่องปกป้องเขาอะไรอีก!”

หนิวโหย่วเต้าโบกมือพลางเอ่ยว่า “ดังนั้นข้าถึงไม่ได้ให้พวกท่านมาอยู่ที่นี่ ในเมื่อข้ากับพี่หญิงร่วมสาบานเป็นพี่น้องต่างแซ่กันแล้ว เรื่องของพี่หญิงก็เป็นเรื่องของข้าเช่นกัน ข้าจะมองดูเรื่องนี้เฉยๆ ได้หรือ? หากข้าต้องการอยู่เฉยๆ ไม่สนใจไยดีอะไรจริงๆ ข้าก็แค่ให้เงินท่านแล้วก็ปล่อยคนไปก็ได้ ไยข้าต้องหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองด้วย? พี่หญิงวางใจเถิด ข้ามีวิธีช่วยให้ครอบครัวจางสิงรุ่ยปลอดภัย!”

กุ่ยหมู่เอ่ยถาม “วิธีอะไร?”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “หากว่าให้ใครคนหนึ่งในแคว้นฉีช่วยออกหน้า ก็จะสามารถปกป้องเขาลับแลได้ แล้วก็จะปกป้องครอบครัวของจางสิงรุ่ยได้ ทั้งยังทำให้หอจันทร์กระจ่างไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ แล้วก็ทำให้ซีย่วนต้าอ๋องไม่กล้าบุ่มบ่ามด้วย!”

กุ่ยหมู่ตะลึงไปเล็กน้อย ดวงตากลอกกลิ้งไปมา เอ่ยด้วยความสงสัยว่า “เฮ่าอวิ๋นถู? เจ้าจะให้เฮ่าอวิ๋นถูออกหน้าอย่างนั้นหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “พี่หญิงโปรดวางใจเถิด หากพี่หญิงไว้วางใจในตัวข้า เช่นนั้นก็ยกเรื่องนี้ให้ข้าจัดการเถิด ข้าจะให้คำตอบที่พี่หญิงพอใจอย่างแน่นอน…”

คนด้านนอกก็ไม่ทราบเช่นกันว่าสองคนที่อยู่ด้านในคุยอะไรกัน กว่าทั้งสองคนจะออกมาจากจุดพักม้า ฟ้าก็มืดแล้ว

ม้าศึกชุดใหญ่เริ่มทำการแบ่งกลุ่มขนย้ายเป็นชุดๆ ศิษย์จากแต่ละสำนักเข้าร่วมคุ้มกัน

กุ่ยหมู่เดินเข้ามาลู่หลีจวิน ทำการจัดวางกำลังผู้บำเพ็ญเพียรผีที่มาที่นี่ นางจะพักอยู่ที่นี่ชั่วคราว หากหนิวโหย่วเต้าไม่ให้คำตอบที่นางพึงพอใจ นางก็จะไม่ไปไหนเช่นกัน

คำพูดปากเปล่าไม่มีประโยชน์ นางต้องการเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง

หนิวโหย่วเต้ายืนอยู่นอกจุดพักม้า กวาดตามองไปรอบๆ กงซุนปู้เดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยว่า “เต้าเหยี่ย ทางท่านอ๋องให้ข้ามาถามว่าอีกนานหรือไม่กว่าทางท่านจะเสร็จธุระ ต้องการกลับไปพร้อมกันหรือไม่”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “แจ้งท่านอ๋องว่าสามารถออกเดินทางได้เลย”

ตรงข้ามจุดพักม้ามีโรงฝากเงินแห่งหนึ่ง คนกลุ่มหนึ่งออกันอยู่ตรงประตู ไม่นานนักก็มีหลายคนปล่อยปีกทองออกไป หลังจากสวี่เหล่าลิ่วและคนกลุ่มคนนั้นคำนับลากันแล้ว เขาก็ปลีกตัวเดินกลับมา

หนิวโหย่วเต้าพยักเพยิดหน้าไปทางโรงฝากเงิน เอ่ยถามสวี่เหล่าลิ่วว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”

สวี่เหล่าลิ่วเอ่ยว่า “ชำระค่าใช้จ่ายที่ติดค้างกับเรือเหล่านั้นแล้วขอรับ ส่วนที่สมควรจะชดเชยก็ชดเชยไปแล้วเช่นกัน ได้รับเงินมากขึ้น พวกเขาล้วนแต่ดีใจกันมาก แต่เงินมากมายขนาดนี้ พวกเขาไม่สะดวกจะพกติดตัวไปด้วย จึงให้ฝากเงินทั้งหมดเข้าบัญชีของเจ้าของเรือแทน จากนั้นก็พากันส่งข่าวกลับไปแจ้งเจ้าของเรือ เรื่องนี้นับว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ”

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยถาม “สอบถามเบื้องหลังมาชัดเจนแล้วใช่หรือไม่?”

สวี่เหล่าลิ่วตอบว่า “ถามมาชัดเจนแล้ว จดไว้หมดแล้วขอรับ”

หนิวโหย่วเต้าหรี่ตาเพ่งมองกลุ่มลูกเรือที่รวมตัวกันอยู่หน้าประตูโรงฝากเงินอย่างคึกคักเตรียมจะไปสังสรรค์ดื่มกินกัน เขาพึมพำกับตัวเอง “ไม่รู้ว่าเบื้องหลังของคนเหล่านี้จะมีกองกำลังของหอจันทร์กระจ่างแฝงตัวอยู่หรือไม่”

ก่วนฟางอี๋ที่อยู่ข้างๆ ก็จ้องมองอยู่พักหนึ่ง แต่ไหนเลยจะมองอะไรออก นางหันไปเอ่ยหยอกว่า “เงินห้าล้านเหรียญทองที่เพิ่งได้มา ใช้หมดไปเช่นนี้น่ะหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าไม่ได้คิดมากอะไร “หมดแล้วก็หมดไป คนอยู่เงินอยู่ คนตายเงินหมด มีเงินมิสู้มีชีวิต!”

ก่วนฟางอี๋ร้องจุ๊ๆ เอ่ยไปว่า “เจ้าเป็นยาจกผู้ใจกว้างนี่เอง!”

แม้จะเอ่ยไปเช่นนี้ แต่สายตาที่ทอดมองมากลับเจือแววชื่นชมที่ไม่อาจปกปิดไว้ได้ ปากก็กล่าวไปว่า “แล้วกลับไปจะอธิบายอย่างไร?”

หนิวโหย่วเต้าฉวน “อธิบายอย่างไรอะไร?”

ก่วนฟางอี๋ฟาดพัดกลมในมือใส่อกเขา “เผิงโย่วไจ้อย่างไรเล่า! เจ้าปิดล้อมอีกฝ่ายไว้ อีกฝ่ายต้องการให้เจ้ามอบคำอธิบาย หากเจ้าไม่มอบคำอธิบายให้ ข้าไม่พลอยซวยไปกับเจ้าด้วยหรือ?”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “เจ้าคิดมากไปแล้ว สูตรลับกลั่นสุรายังอยู่ในมือข้า อีกอย่างข้าบอกเขาไว้แต่แรกแล้วว่าข้ายังมีไพ่ตายอยู่ เขาพะวงถึงผลประโยชน์จากการค้าสุรา ไม่กล้าแตะต้องข้าแน่นอน เพราะกลัวข้าจะเผยแพร่สูตรลับออกไป ที่บอกว่าต้องการคำอธิบายก็แค่อยากหาทางลงไม่ให้เสียหน้าเท่านั้น มอบคำอธิบายสักอย่างให้เขาไปส่งๆ ก็ใช้ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือทางนี้เพิ่งร่วมสาบานกับพี่หญิงไป ในขณะที่ยังไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด เขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามเช่นกัน เผิงโย่วไจ้ไม่มีอะไรให้น่ากังวลเลย”

อย่างนี้นี่เอง! ก่วนฟางอี๋ลอบพยักหน้ารับ หันไปมองกุ่ยหมู่ที่กำลังสั่งการลูกน้องอยู่ไม่ไกล แอบรู้สึกขบขัน หันกลับมาถามอีกครั้ง “แล้วจะทำอย่างไรกับหอจันทร์กระจ่าง? อีกฝ่ายไม่มีทางยอมโดนเล่นงานโดยไม่ตอบโต้กลับ อย่านึกเชียวนะว่าหนีออกจากแคว้นฉีมาได้อีกฝ่ายจะไม่กล้าแตะต้องเจ้าแล้ว ตอนนี้ทราบเป้าหมายชัดเจน รู้แล้วว่าเจ้าอยู่ที่จังหวัดชิงซาน หอจันทร์กระจ่างสามารถลงมือกับเจ้าได้ทุกเมื่อ!”

“ไม่จำเป็นต้องกังวล ในเมื่อข้ากล้ากลับมา ข้าย่อมต้องมีวิธีรับมือ!” หนิวโหย่วเต้าเอ่ยทิ้งท้ายไว้แล้วเดินออกไปต้อนรับซางเฉาจงที่เดินเข้ามาหา

ไม่นานนัก ขบวนม้าก็วิ่งทะยานออกไป ในขบวนมีรถม้าอยู่คันหนึ่ง เหมิงซานหมิงโดยสารอยู่ข้างใน

คนที่เหลือรวมถึงซางเฉาจงและหนิวโหย่วเต้าล้วนอยู่บนหลังม้า กุ่ยหมู่เองก็พาผู้บำเพ็ญเพียรหลายรายติดตามมาด้วย

…..

ทั้งคณะมาถึงปากทางเข้าสู่หุบเขานอกตัวเมืองจังหวัดชิงซานในช่วงกลางดึก ซางเฉาจงยืนกรานจะเข้าไปส่งด้วยตัวเองให้ได้ หนิวโหย่วเต้ายากจะปฏิเสธน้ำใจได้ จึงได้แต่ต้องตามใจเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า