ตอนที่ 390 เฮ่าเจินควรจะขอบคุณข้าเสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้หยวนกังจะไม่เคยพบเซ่าผิงปอ แต่สำหรับเขา แค่คำว่า ‘คุณชายเซ่า’ ก็เพียงพอจะกระตุ้นความระแวดระวังในตัวเขาได้แล้ว คุณชายเซ่าที่รู้จักกับซูจ้าวอย่างนั้นหรือ? คนที่รู้เรื่องราวย่อมคิดเชื่อมโยงได้ไม่ยาก
ฉินเหมียนเดินเข้าไปหาซูจ้าว สายตาเต็มไปด้วยคำถามและคำตำหนิ
เซ่าผิงปอที่ตามเข้ามาก็มิใช่คนตาบอด มองเห็นหยวนกังที่นั่งดื่มชาอยู่ในห้องอย่างสงบเช่นกัน เขามองพินิจชายหน้าแดงคนนี้อย่างค่อนข้างสงสัยเล็กน้อย
จากนั้นก็กวาดตามองห้องของซูจ้าวอย่างรวดเร็ว เขาเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก วิเคราะห์จากเครื่องเรือนที่จัดวางไว้ในห้องแล้ว ที่นี่น่าจะเป็นห้องส่วนตัวของซูจ้าวไม่ผิดแน่
บุรุษที่มาปรากฏตัวในห้องส่วนตัวของซูจ้าว เขาค่อนข้างแปลกใจในฐานะของคนผู้นี้
เซ่าผิงปอพยักหน้าทักทายหยวนกังเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยกับซูจ้าวว่า “พี่จ้าว”
คำว่า ‘พี่จ้าว’ นี้ทำให้หยวนกังค่อยๆ ลุกขึ้นมา เขาแทบจะมั่นใจในตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว รู้สึกตกใจไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าคนผู้นั้นจะมาปรากฏตัวที่นี่ คนที่ทำให้เต้าเหยี่ยออกปากพูดว่าอันตรายได้ มีค่าพอให้เขาระมัดระวังตัวเป็นอย่างสูง
เขามองออกว่าอีกฝ่ายสวมหน้ากากหนังบดบังใบหน้าที่แท้จริงเอาไว้
ซูจ้าวยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย นางมักจะเรียกเซ่าผิงปอว่า ‘ผิงปอ’ แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าหยวนกังจึงไม่สะดวกเรียก ด้วยเกรงว่าจะเป็นการเปิดเผยตัวตนเซ่าผิงปอ
หยวนกังอยู่ที่นี่ด้วย นางไม่สะดวกจะพูดอะไร ได้แต่หันไปเอ่ยกับหยวนกังก่อนว่า “คุณชายอัน ข้าต้องดูแลแขกก่อน ไม่ส่งล่ะ”
ความหมายในวาจาคือเจ้าก็เห็นแล้วนี่ว่ามิใช่ซีย่วนต้าอ๋อง เจ้าออกไปได้แล้วกระมัง?
เหตุผลและข้ออ้างถูกลบล้างแล้ว ในใจก็พอจะคาดเดาได้แล้ว หยวนกังจึงพยักหน้าให้เล็กน้อย “ขอตัวก่อน!”
เซ่าผิงปอก็ประสานมือคำนับส่งอย่างสุภาพ
หลังจากมองส่งหยวนกังจากไปแล้ว ฉินเหมียนก็ถอยออกไปเช่นกัน “นายหญิง คุณชายเซ่า พวกท่านคุยกันไปเถิด ข้ายังมีแขกในโถงหน้าที่ต้องรับรองอยู่”
“รบกวนด้วย” เซ่าผิงปอกล่าวอย่างสุภาพ
ตอนที่ฉินเหมียนเดินออกไปก็ได้ช่วยปิดประตูให้
เวลานี้ ซูจ้าวสงบใจลงแล้ว สายตามองไปที่เส้นผมของเซ่าผิงปอ เอ่ยด้วยความสงสัย “เหตุใดเส้นผมเจ้าถึงขาวเช่นนี้?”
เรื่องทุกข์ใจ เซ่าผิงปอไม่อยากกล่าวถึงมากนัก เขาถามกลับไปว่า “ชายหน้าแดงเมื่อครู่เป็นใคร?”
ซูจ้าวตอบเพียงประโยคเดียว “เป้าหมายที่เบื้องบนกำลังพัฒนาอยู่”
เซ่าผิงปอตอบ “อ่อ” ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อนึกถึงสีหน้ากระอักกระอ่วนก่อนหน้านี้ของซูจ้าว แล้วไหนจะเรื่องที่เป้าหมายที่กำลังพัฒนารั้งอยู่ที่นี่จนเขามาถึงเพื่อรอพบหน้าเขาอีก เรื่องนี้ผิดปกติ
คนอย่างเขามีประสาทสัมผัสเฉียบไวเป็นพิเศษ เรื่องผิดปกติเพียงเล็กน้อยกระตุ้นความระแวงของเขาได้ง่ายมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เมื่ออยู่ภายใต้สายตาเขา มันก็ยากจะปกปิดเรื่องบางอย่างต่อสายตาของเขาได้
แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรให้มากความ เพราะทราบชัดเจนดีว่าหากเป็นเรื่องที่มีเจตนาปกปิดเขาแล้ว ถามมากไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ทว่าเรื่องราวบางอย่างกลับต้องถามไถ่กันให้ชัดเจน “เรื่องม้าศึกชุดนั้นสรุปแล้วเป็นมาอย่างไรกันแน่? เพราะเหตุใดถึงตกไปอยู่ในมือของหนิวโหย่วเต้าได้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากทางฝั่งข้าหรือว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากทางฝั่งท่าน? เป็นเพราะท่านไปหาเรื่องหนิวโหย่วเต้าถึงทำให้หนิวโหย่วเต้าจับได้ถึงการมีตัวตนอยู่ของท่านกระมัง?” เขาเอ่ยถามออกไปรวดเดียวพลางสังเกตดูปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไปด้วย
ซูจ้าวยิ้มเจื่อนเอ่ยไปว่า “เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ เป็นเพราะกุ่ยหมู่แห่งเขาลับแลแปรพักตร์ ผู้ใดก็คาดไม่ถึงว่าหนิวโหย่วเต้าจะสมคบคิดกับกุ่ยหมู่…” นางบอกเล่าสถานการณ์รายละเอียดออกมา
พอได้ยินว่าขนาดหอจันทร์กระจ่างออกโรงแล้วหนิวโหย่วเต้าก็ยังหนีรอดไปได้ เซ่าผิงปอถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “ข้าเคยบอกท่านไปแต่แรกแล้วว่าหนิวโหย่วเต้าน่าจะทราบถึงฐานะของลิ่งหูชิวแต่แรกแล้ว ท่านนี่หนอ…” เขาไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะว่าอีกฝ่ายอย่างไรดี เรื่องราวเกิดขึ้นไปแล้วมาเอ่ยติเตียนอีกก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ จึงพูดได้เพียงเท่านี้
แต่เขาก็ยังเอ่ยปลอบไปว่า “แต่ก็ดีเหมือนกัน เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เบื้องบนของทางท่านน่าจะไม่ปล่อยเขาไปแน่ นับว่าตัดปัญหาไปได้แล้ว”
ผู้ใดจะคาดว่าซูจ้าวกลับเอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจ “แต่ท่าทีของเบื้องบนกลับทำให้ข้าไม่เข้าใจเลย”
เซ่าผิงปอถามด้วยความตื่นตัว “หมายความว่าอย่างไร?”
ซูจ้าวกล่าวว่า “เบื้องบนประกาศห้ามมิให้ผู้ใดแตะต้องหนิวโหย่วเต้า หากฝ่าฝืนต้องตาย!”
“แค่กๆ…” เซ่าผิงปอผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไอถี่ๆ ขึ้นมา ไอจนตัวงอหน้าแดงไปหมด เขาล้วงผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ ยกขึ้นปิดปากไว้
ซูจ้าวเข้ามาช่วยปรับลมหายใจให้เขาอย่างรวดเร็ว กระทั่งเขาคลายผ้าเช็ดหน้าออก พอมองเห็นคราบสีแดงสะดุดตาบนผ้าเช็ดหน้าก็เอ่ยถามด้วยความตกใจว่า “เจ้าเป็นอะไรไป ยังไม่หายดีหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า