ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 430

ตอนที่ 430 จำเป็นต้องตั้งกฎเกณฑ์นี้ขึ้นสำหรับพวกเขา!

เหตุผลนี้ทำให้มุมปากของเผิงโย่วไจ้กระตุกขึ้นมาเล็กน้อย เขาเอ่ยเนิบๆ ว่า “ข้าไม่สนใจเรื่องรักใคร่ชายหญิงอันใดของไห่หรูเยวี่ย ซือถูซยง ข้าเพียงอยากทราบว่าการที่จินโจวระดมทัพใหญ่ไปรวมตัวที่ชายแดนหนานโจวมันหมายความว่าอย่างไร?”

ซือถูเย่ายกไห่หรูเยวี่ยมาอ้างอีกครั้ง “ก็อย่างที่ข้ากล่าวไปเมื่อครู่ ไห่หรูเยวี่ยไม่ยอมทนเห็นซางเฉาจงได้รับความอยุติธรรม การเรียกระดมทัพใหญ่เป็นความประสงค์ของไห่หรูเยวี่ย”

ถึงแม้ตัวเขาจะทราบดีว่าข้ออ้างนี้ฟังดูปัญญาอ่อน แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาข้ออ้างสักอย่างมาให้ได้ มิเช่นนั้นจะให้เขาพูดอย่างไรเล่า? จะให้บอกเผิงโย่วไจ้ไปว่า ‘ถูกต้อง วังสรรค์หมื่นวิมานของข้าอยากโจมตีเจ้า’ อย่างนั้นหรือ?

หากกล่าวไปเช่นนี้จริงๆ มันก็ออกจะข่มเหงกันเกินไปหน่อย เป็นใครก็ต้องโมโหทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องบีบให้อีกฝ่ายกลายเป็นสุนัขจนตรอกเลย อีกทั้งนี่ก็มิใช่จุดประสงค์ของทางนี้ด้วย

เผิงโย่วไจ้กล่าวว่า “ซือถูซยงกำลังจะบอกว่าไห่หรูเยวี่ยต้องการระดมกำลังพลของจินโจวเข้าโจมตีหนานโจวของข้า เพื่อทวงความเป็นธรรมให้ซางเฉาจงอย่างนั้นหรือ?”

ซือถูเย่าเอ่ยว่า “สุนัขที่เห่ามักไม่กัด ส่วนสุนัขที่กัดมักจะไม่เห่า สตรีนางนี้เรียกระดมกำลังครั้งนี้อย่างเงียบๆ มีความเป็นไปได้สูงที่จะก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมาจริงๆ สตรีเนี่ยน้า มักจะชอบใช้อารมณ์นำหน้าเสมอ”

เผิงโย่วไจ้กล่าวว่า “หากข้าตีความไม่ผิดล่ะก็ ซือถูซยงกำลังจะบอกข้าว่าวังสวรรค์หมื่นวิมานควบคุมไห่หรูเยวี่ยไม่อยู่แล้ว แล้วก็จะนั่งเฉยปล่อยให้ไห่หรูเยวี่ยทำลายพันธมิตรระหว่างพวกเราสองฝ่ายอย่างนั้นหรือ?”

ซือถูเย่ากล่าวว่า “จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก อันที่จริงยังพอหลีกเลี่ยงสถานการณ์ได้อยู่”

เผิงโย่วไจ้เอ่ยว่า “ข้าเดินทางมาด้วยตัวเอง มาพร้อมกับความจริงใจ หากสามารถแก้ไขปัญหาได้ย่อมเป็นเรื่องน่ายินดี เช่นนั้นข้าขอฟังความเห็นดีๆ จากซือถูซยงหน่อยแล้วกัน”

ซือถูเย่ากล่าวว่า “ข้าคิดว่าเผิงซยงคงทราบเจตนาที่ราชสำนักแต่งตั้งซางเฉาจงเป็นผู้ว่าการมณฑลหนานโจวแน่นอน ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในมณฑลหนานโจว เพื่อปูทางสำหรับยึดหนานโจวกลับไปในภายหลัง ดังนั้น ข้าเองก็ไม่มีความเห็นดีๆ อันใด อันที่จริงปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก ก็แค่ยกหน้าที่ปกครองมณฑลหนานโจวให้ซางเฉาจงไป ปัญหาทุกอย่างก็คลี่คลายแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นไห่หรูเยวี่ยก็จะถอนทัพ มณฑลหนานโจวก็จะหลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วนฐานขัดราชโองการอย่างเปิดเผย แล้วก็จะคลี่คลายแผนร้ายของทางราชสำนักไปได้ด้วย ส่วนมณฑลหนานโจวก็ยังเป็นของสำนักหยกสวรรค์อยู่ ทางข้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกว่ามณฑลหนานโจวจะเกิดการปะทะกับราชสำนักแคว้นเยี่ยนขึ้นมาอีก จัดการเพียงเรื่องเดียวแต่ได้ประโยชน์หลายทาง เป็นประโยชน์ต่อพวกเราสองฝ่าย นี่ก็ขึ้นอยู่กับสำนักหยกสวรรค์แล้วว่าจะยอมละวางความยึดติดหรือไม่ เผิงซยง ให้เฟิ่งหลิงปอปกครองมณฑลหนานโจวแล้วมีปัญหาตามมามากมายขนาดนี้ มันคุ้มกันแล้วหรือ?”

เผิงโย่วไจ้เอ่ยว่า “ความหวังดีของซือถูซยง แซ่เผิงขอรับไว้ด้วยใจ แต่เรื่องภายในสำนักหยกสวรรค์ สำนักหยกสวรรค์ย่อมจัดการกันเองได้ ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่ทางฝั่งจินโจว จินโจวกำลังจะบุกโจมตีหนานโจวของข้า วังสวรรค์หมื่นวิมานโปรดควบคุมไห่หรูเยวี่ยคนนั้นเอาไว้ให้ดีด้วย!”

อันที่จริงเขารู้แก่ใจดี หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากวังสวรรค์หมื่นวิมาน ไห่หรูเยวี่ยไม่มีทางทำเช่นนี้ได้ เพียงแต่ไม่อาจพูดออกไปตรงๆ ได้ จำเป็นต้องอดทนเอาไว้

ซือถูเย่ากล่าวว่า “เผิงซยง ความลำบากใจของข้า ท่านก็ต้องเข้าใจเหมือนกันนะ ตระกูลเซียวปักหลักอยู่ในจินโจวมานาน อำนาจและอิทธิพลหยั่งรากฝังลึก สตรีนางนี้ยืนกรานจะใช้อารมณ์ตัดสินเรื่องราว หากฝืนบังคับขึ้นมา จิวโจวของข้าอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นง่ายๆ ได้เช่นกัน”

เผิงโย่วไจ้เอ่ยไปว่า “ซือถูซยง ท่านเคยใคร่ครวญถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาหลังจากพวกเราสองมณฑลเปิดศึกกันหรือไม่? ทางข้าไม่ขอเอ่ยถึงแล้วกัน แต่ทางจินโจว ฮ่องเต้ไห่อู๋จี๋ต้องฉวยโอกาสเข้าโจมตีแน่นอน ผลลัพธ์ที่จะตามมานั้น วังสวรรค์หมื่นวิมานไม่มีทางแบกรับไหว!”

ซือถูเย่าก้มหน้าหลุบตาลงแล้วกล่าวว่า “เผิงซยง ปมปัญหาวุ่นวายมาจากซางเฉาจง ยกมณฑลหนานโจวให้ซางเฉาจงดูแลเถอะ!”

เผิงโย่วไจ้ถาม “ท่านไม่รู้สึกว่าการตัดสินใจที่วังสวรรค์หมื่นวิมานแสดงออกมามันไร้สาระจนน่าขบขันบ้างหรือ?”

ซือถูเย่ายืนกรานไม่เปลี่ยนความคิด ยังคงยืนยันประโยคเดิม “มอบหนานโจวให้เขาไปเถอะ!”

เผิงโย่วไจ้จ้องมองเขา ซือถูเย่าเงียบงันไม่เปล่งเสียง ทั้งสองเงียบงันอยู่ใต้เดือนดาราอยู่พักใหญ่

“ไอ้สารเลวหนิวโหย่วเต้าคนนั้นมันใช้ลูกไม้อะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้วังสวรรค์หมื่นวิมานเลือกทำเช่นนี้โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมาเลย?” จู่ๆ เผิงโย่วไจ้ก็เอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดวังสวรรค์หมื่นวิมานถึงทำเช่นนี้ เขาจึงนึกเชื่อมโยงไปถึงหนิวโหย่วเต้าก่อนเป็นอันดับแรก

อันที่จริงตั้งแต่ตอนที่เขาได้รับแจ้งว่าทางมณฑลจินโจวระดมกำลังทหาร เขาก็นึกสงสัยในตัวหนิวโหย่วเต้าแล้ว จะไม่ให้สงสัยเลยคงเป็นไปไม่ได้ จดหมายที่ซางเฉาจงมอบให้เขาฉบับนั้นคือหลักฐานยืนยัน

แต่ซือถูเย่าไม่มีทางยอมบอกความจริงกับเขา แล้วก็ไม่สามารถบอกความจริงกับเขาได้ ไม่เพียงแต่บอกไม่ได้เท่านั้น ยังต้องปกปิดเอาไว้ด้วย เรื่องบางอย่างไม่อาจปล่อยให้คนนอกทราบเรื่องได้ เขาเอ่ยเนิบๆ ว่า “หนิวโหย่วเต้าหรือ? อยู่ดีๆ ไยจึงโยงไปหาหนิวโหย่วเต้าได้เล่า? ท่านคิดมากไปแล้ว เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับหนิวโหย่วเต้าเลย!”

….

บนหน้าผาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา หนิวโหย่วเต้าปล่อยผมสยายคลุมบ่า นั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่ขึ้นมา

ชายกระโปรงโบกสะบัด ก่วนฟางอี๋ทะยานลงมา เดินไปหยุดข้างกายหนิวโหย่วเต้า เอ่ยขึ้นว่า “เหล่าปาส่งข่าวมาแล้ว เผิงโย่วไจ้ไม่ได้รั้งอยู่ที่วังสวรรค์หมื่นวิมานนานนัก จากไปภายในคืนนั้นเลย”

สีหน้าหนิวโหย่วเต้าสงบราบเรียบ เอ่ยเนิบๆ ขึ้นมาทั้งที่หลับตาอยู่ “การเจรจาเป็นอย่างไรบ้าง?”

ก่วนฟางอี๋ตอบว่า “เจ้าเดินหมากเหนือกว่า เผิงโย่วไจ้กลับไปมือเปล่า!”

ยามที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา นางมองไปที่หนิวโหย่วเต้าพลางกะพริบตาปริบๆ ดวงตาฉายแววสับสน

นางสงสัยมากจริงๆ ไม่รู้ว่าคนผู้นี้ใช้วิธีการใดถึงสามารถบังคับให้วังสวรรค์หมื่นวิมานอนุญาตให้จินโจวเคลื่อนกำลังพลได้ ต่อให้นางจะไม่รู้เรื่องเพียงใด นางก็ยังรู้ว่าเรื่องการเมืองและการทหารของมณฑลจินโจวอยู่ในความรับผิดชอบของไห่หรูเยวี่ย จับตัวเซียวเทียนเจิ้นมาเพียงคนเดียวไม่มีทางข่มขู่วังสวรรค์หมื่นวิมานได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือทำให้วังสวรรค์หมื่นวิมานยอมเผชิญหน้ากับแรงกดดันและความเสี่ยงที่จะสูญเสียผลประโยชน์มากมายขนาดนั้นได้ไอรีนโนเวล

แต่ไม่ว่านางจะถามอย่างไร หนิวโหน่วเต้าไม่ก็ยอมบอกสาเหตุต่อนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า