ตอนที่ 445 ไม่ไป!
ในเวลาเพียงไม่นาน กลุ่มอิทธิพลจำนวนไม่น้อยพากันส่งคนไปมอบของขวัญแสดงความยินดีที่มณฑลหนานโจว รวมถึงราชทูตของแคว้นต่างๆ ล้วนแต่เดินทางมาพบอย่างเปิดเผย ซางเฉาจงได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักแคว้นเยี่ยนอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่กบฏแยกดินแดน ไม่ว่าผู้ใดก็ว่าอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น นี่ก็คือข้อดีของการมีตำแหน่งสถานะ
การที่กลุ่มอิทธิพลต่างๆ เดินทางไปร่วมยินดีกับตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลหนานโจวนั้นเป็นเหตุผลรอง ความจริงคือพวกเขาอยากติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับซางเฉาจง
ส่วนเฟิ่งหลิงปอที่ก่อนหน้านี้ได้ความคาดหวังจากกลุ่มอิทธิพลต่างๆ กลับกลายเป็นผู้แพ้ไป ถูกผู้คนลืมเลือนไปแล้ว
…..
ณ จวนผู้ว่าการมณฑลเป่ยโจว เซ่าซานเสิ่งเดินเข้ามาในห้องหนังสือ เดินมาหยุดข้างกายเซ่าผิงปอที่ก้มตัวเขียนหนังสืออยู่บนโต๊ะ นิ่งเงียบไม่พูดจา
เซ่าผิงปอเอ่ยโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “มีเรื่องอะไรก็ว่ามา”
เซ่าซานเสิ่งเอ่ยว่า “นายท่านขังตัวเองไว้ในห้องหนังสือ ไม่ยอมออกมาเลยทั้งวันขอรับ”
มือของเซ่าผิงปอที่จับพู่กันอยู่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เขียนต่ออีกตัวให้จบแล้ววางพู่กันลงด้านข้าง มือทั้งสองก็ค่อยๆ วางทาบลงบนโต๊ะ เงียบงันอยู่ครู่ใหญ่
เขารู้ดีว่าเหตุใดท่านพ่อถึงขังตัวเองไว้ในห้อง มีข่าวเรื่องมณฑลหนานโจวในแคว้นเยี่ยนมาแล้ว หลังรู้ว่าซางเฉาจงได้ปกครองมณฑลหนานโจว สภาพอารมณ์ของท่านพ่อก็ค่อนข้างผิดแปลกไป
เขารู้ว่าท่านพ่อยังคงรู้สึกผิดเพราะเรื่องในอดีตมาโดยตลอด คิดมาตลอดว่าตนทรยศต่อหนิงอ๋อง ยามนี้เมื่อบุตรชายของหนิงอ๋องที่เป็นตัวแทนสืบทอดกองกำลังของหนิงอ๋องมีอำนาจขึ้นมาอีกครั้ง เกรงว่าท่านพ่อคงได้รับความสะเทือนใจเข้าเสียแล้ว เกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมาอีกครั้ง
เซ่าซานเสิ่งเองก็เข้าใจในข้อนี้ดี เขาเอ่ยถามว่า “คุณชายใหญ่จะไปโน้มน้าวนายท่านหรือไม่ขอรับ?”
เซ่าผิงปอส่ายหน้า
เซ่าซานเสิ่งเอ่ยด้วยความฉงน “แต่ก็แปลกจริงๆ นะขอรับ ทางมณฑลจินโจวให้ความช่วยเหลือซางเฉาจงในช่วงวิกฤต ไม่รู้เหมือนกันว่าวังสวรรค์หมื่นวิมานคิดอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้นมีหรือที่ซางเฉาจงจะได้ปกครองมณฑลหนานโจวแบบนี้”
เซ่าผิงปอหัวเราะหยัน “ถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? วังสวรรค์หมื่นวิมานถูกหนิวโหย่วเต้าข่มขู่ถึงได้ส่งทหารไป มิเช่นนั้นไม่ว่าผู้ใดได้ปกครองหนานโจว พวกเขาก็ล้วนไม่เสียหายทั้งสิ้น ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายขนาดนี้เลย นี่สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงเรื่องเรื่องหนึ่งได้…ศิษย์หมอผีอันใดมารักษาเซียวเทียนเจิ้นจนหายได้ล้วนเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ เห็นได้ชัดว่าเป็นผลจากผลตะวันชาดที่หนิวโหย่วเต้าขโมยมา”
คิ้วเซ่าซานเสิ่งพลันกระตุกรุนแรง เผยสีหน้ากระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที พลันเอ่ยกระซิบไปว่า “ไยไม่ลอบปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกไปล่ะขอรับ?”
“ลอบปล่อยหรือ?” เซ่าผิงปอปรายตามอง “เจ้าคิดว่าลอบเปิดเผยอย่างลับๆ แล้วหนิวโหย่วเต้าจะไม่รู้หรือว่าเป็นฝีมือข้า? ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใดที่ส่งผลร้ายต่อข้าขึ้นมา คนแรกที่ข้าจะสงสัยก็คือหนิวโหย่วเต้า หนิวโหย่วเต้าเองก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใดที่ส่งผลเสียต่อเขา ข้าก็จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกของเขาทันที เจ้าคิดว่าพอหนิวโหย่วเต้าตกไปอยู่ในมือหอหิมะเหมันต์แล้วจะช่วยปกปิดให้ข้าหรือ? เขาจะต้องบอกเรื่องที่ข้าหลอกใช้หอหิมะเหมันต์ในครั้งนั้นออกมาเพื่อดัดหลังข้าแน่นอน หากเขาไม่มั่นใจว่าข้าจะไม่กล้าเผยความลับของเขา เจ้าคิดว่าเขาจะกล้าทำเช่นนี้หรือ?”
เซ่าซานเสิ่งอึกอักพูดไม่ออก จากนั้นก็เอ่ยอย่างค่อนข้างสงสัย “หากว่ากันเช่นนี้แล้ว แปลว่าพวกเราต้องช่วยปิดความลับให้พวกเขาไปตลอดหรือขอรับ?”
เซ่าผิงปอมองด้ามพู่กันที่วางอยู่ด้านข้าง ถอนหายใจเบาๆ “ไอ้คนเจ้าเล่ห์ผู้นี้วางแผนรอบคอบ มีความสามารถสูงส่ง วันหน้าต้องกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของข้าแน่! ซางเฉาจงด้านบุ๋นมีหลานรั่วถิง ด้านบู๊มีเหมิงซานหมิง ซ้ำยังมีคนเจ้าเล่ห์ผู้นี้เป็นกุนซือจัดการปัญหาทางโลกบำเพ็ญเพียรอีก เรียกได้ว่าเป็นเสือติดปีกโดยแท้ ช่างน่าอิจฉานัก! แซ่เซ่าต้องการตัวผู้มีความสามารถ สถานการณ์ของเป่ยโจวมั่นคงแล้ว ทว่าไร้ผู้มีความสามารถมาพึ่งพิง…”
เซ่าซานเสิ่งเงียบไป เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของคุณชายใหญ่ที่ถูกหนิวโหย่วเต้าทำให้ฉาวโฉ่
….
นอกกระท่อมไม้หลังเล็กในหุบเขา หนิวโหย่วเต้านอนอยู่บนเก้าอี้เอนหลัง งีบหลับอยู่ภายใต้แสงแดด หยวนกังถือบัวรดน้ำกำลังรดน้ำให้ดอกหมู่ตานสีดำอย่างพิถีพิถัน
ตอนที่อพยพออกจากกระท่อมฟาง ทางนี้ไม่ได้นำสิ่งใดติดมาเลย แต่กลับนำดอกหมู่ตานสีดำกระถางนี้มาด้วย เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า บุปผาโรยราจนผลิบานใหม่อีกครั้ง
ก่วนฟางอี๋โบกพัดเดินเข้ามาอย่างไม่เร่งร้อน เมื่อเดินมาถึงด้านหลังเก้าอี้ก็ออกแรงผลักไปทีหนึ่งแล้วหัวเราะคิกคัก
หนิวโหย่วเต้าที่ถูกเขย่าอย่างรุนแรงลืมตาตื่นขึ้นมา เอ่ยเนิบๆ คำหนึ่งว่า “ซนจริงๆ!”
เหตุใดวาจานี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังคุยกับเด็กน้อยเลยเล่า? ก่วนฟางอี๋กลอกตาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปหยุดเก้าอี้ที่โยกไหวอยู่ เอ่ยขึ้นว่า “มีข่าวจากทางเหล่าปาที่อยู่ในจินโจวแล้ว”
หนิวโหย่วเต้าถาม “จินโจวถอนกำลังแล้วหรือ?”
ก่วนฟางอี๋ตอบ “อืม” คำหนึ่ง “วังสวรรค์หมื่นวิมานฝากถ้อยคำผ่านเหล่าปามา ต้องการตัวเซียวเทียนเจิ้น แต่ไห่หรูเยวี่ยกลับลอบติดต่อเหล่าปาว่าอย่าส่งตัวเซียวเทียนเจิ้นกลับไป”
หนิวโหย่วเต้าถาม “หมายความว่าอย่างไร?”
ก่วนฟางอี๋เอ่ยว่า “วังสวรรค์หมื่นวิมานกักบริเวณไห่หรูเยวี่ยเอาไว้ ไห่หรูเยวี่ยต้องลำบากไม่น้อยกว่าจะลอบติดต่อเหล่าปาได้ วังสวรรค์หมื่นวิมานควบคุมไห่หรูเยวี่ยแล้ว บีบให้ไห่หรูเยวี่ยปรับเปลี่ยนกำลังคนด้านการเมืองและการทหาร มองจากการกระทำของวังสวรรค์หมื่นวิมานแล้ว ดูเหมือนเตรียมจะทิ้งตระกูลเซียว ต้องการจัดระเบียบอำนาจในโลกปุถุชนของมณฑลจินโจวใหม่ เปลี่ยนคนใหม่เข้ามาเข้ามารับผิดชอบแทน ไม่รู้เหมือนกันว่าวังสวรรค์หมื่นวิมานลงมือทำเช่นนี้ด้วยคิดจะทำอะไร”
นางไม่รู้ว่าทางนั้นคิดจะทำอะไร แต่หนิวโหย่วเต้ากลับทราบดี วังสวรรค์หมื่นวิมานไม่มีทางยอมโดนคนอื่นบงการไปตลอด พวกเขาย่อมต้องการทำลายหลักฐานแน่นอน ตอนนี้ไห่หรูเยวี่ยจึงไม่อยากให้ส่งตัวเซียวเทียนเจิ้นกลับไป หากเซียวเทียนเจิ้นไม่กลับไป ไห่หรูเยวี่ยอาจจะพอมีทางรอด แต่หากเซียวเทียนเจิ้นกลับไป สองแม่ลูกจะตายทั้งคู่แน่นอน
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยอย่างไม่อนาทรว่า “ตอบกลับทางวังสวรรค์หมื่นวิมานไปว่าจัดการตามที่ตกลงกันไว้ รอให้ท่านอ๋องควบคุมมณฑลหนานโจวได้สมบูรณ์แล้วถึงจะส่งตัวเซียวเทียนเจิ้นกลับไป”
ก่วนฟางอี๋ตอบรับ แต่ก็เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจอีกครั้ง “ในเมื่อวังสวรรค์หมื่นวิมานต้องการกำจัดอำนาจของตระกูลเซียวทิ้ง เหตุใดถึงต้องรีบเรียกตัวเซียวเทียนเจิ้นกลับไปด้วย? ในเมื่อไม่ต้องการตระกูลเซียวแล้ว เซียวเทียนเจิ้นคนนี้จะกลับไปหรือไม่ยังสำคัญอยู่อีกหรือ?”
หนิวโหย่วเต้าเอ่ยไม่ตรงกับที่ใจคิด “ใครจะไปรู้ล่ะว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่”
ดวงตาก่วนฟางอี๋ฉายแววฉงน รู้สึกสงสัยว่าหนิวโหย่วเต้าจะไม่ได้พูดความจริง
นางคิดว่าตัวของเซียวเทียนเจิ้นคนนี้ต้องมีปัญหาอะไรอยู่แน่นอน มิเช่นนั้นแค่เซียวเทียนเจิ้นคนเดียวจะใช้ข่มขู่วังสวรรค์หมื่นวิมานให้ยอมแบกรับความเสี่ยงมหาศาลปานนั้นได้หรือ รวมไปถึงพฤติกรรมแปลกประหลาดในครั้งนี้ของวังสวรรค์หมื่นวิมานด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า