ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 456

ตอนที่ 456 เป็นไอ้สารเลวคนนั้น!

หยวนกังที่ดวงตาฉายแววระแวดระวังผงะไปเล็กน้อย คนจากเขาข้ามเมฆาอย่างนั้นหรือ? ถึงแม้เขาจะไม่ได้เข้าร่วมการเดินทางไปเยือนเขาข้ามเมฆา ทว่าเขาก็ทราบถึงความเกี่ยวข้องระหว่างหนิวโหย่วเต้ากับเขาข้ามเมฆา ความคิดที่ว่าอีกฝ่ายมาหาเต้าเหยี่ยแวบผ่านเข้ามาในสมองของเขา

ชายร่างผอมเพรียวถูกกลิ่นอายของหยวนกังสะกดข่มเอาไว้เล็กน้อย กลิ่นอายจากร่างของอีกฝ่ายทำให้เขาค่อนข้างกริ่งเกรงอย่างน่าประหลาด

เขาหันไปมองหยวนฟางที่โผล่ออกมาจากห้องหมายเลขสามของชั้นนี้ พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง ปีศาจหมีที่ ‘จูเจียง’ คนนั้นกล่าวถึงคือคนผู้นี้หรือ?

พอเห็นหยวนฟางก็รู้สึกคุ้นหน้า คิดว่าน่าจะเคยพบกัน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นผู้ใด เนื่องจากเขาไม่เคยติดต่อสนทนากับหยวนฟาง แม้แต่ชื่อของหยวนฟางก็ยังไม่ทราบเลย เพียงเคยพบกันผ่านๆ เท่านั้น หากว่าเฮยหมู่ตานยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องจำนางได้แน่นอน

การขวางถนนดักปล้นเป็นพฤติกรรมปกติมากสำหรับชาวหุบเขาข้ามเมฆา เขาจำได้ไม่กระจ่างด้วยซ้ำว่าตนดักปล้นในแถบเขาข้ามเมฆาไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว เคยพบหน้าหยวนฟางแค่ผ่านๆ ครั้งเดียว เขาจึงนึกไม่ออกจริงๆ

ประเด็นสำคัญคือ ทันทีที่หยวนฟางเปิดประตูออกมาก็เปิดโปงฐานะชาวหุบเขาข้ามเมฆาของเขามในทันที

เขามาที่โรงเตี๊ยมนี้โดยไม่ได้ปลอมตัว แล้วก็กลัวว่าหากถูกอื่นมองออกว่าปลอมตัวมันจะดูน่าสงสัยยิ่งกว่าเดิม ใครจะไปคิดถึงว่าจะมาเจอคนรู้จักเอาเสียได้

“ที่แท้ก็เป็นน้องโหวฉิงเทียนนี่เอง” หนิวโหย่วเต้าที่ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังกลับจำได้แม่น มองเพียงเล็กน้อยก็จำได้แล้วว่าคนที่ถูกขวางอยู่คือผู้ใด เขาเดินยิ้มร่าเข้ามาหา

คนที่ได้รู้จักกันบนเขาข้ามเมฆามีอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น อีกทั้งคนผู้นี้คือคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเขามากที่สุดในครั้งนั้น เขาย่อมจดจำได้แม่นยำ

“…..” โหวฉิงเทียนผงะไป อ้าปากค้างเล็กน้อย พูดอะไรไม่ออก

เขาไม่รู้จักหยวนฟาง แต่เขาจะไม่รู้จักหนิวโหย่วเต้าได้หรือ? คนที่พอมาถึงเขาข้ามเมฆาก็สาบานเป็นพี่น้องกับท่านผู้ดูแลทันที อีกเหตุผลที่ไม่มีทางลืมง่ายๆ เพราะตอนนี้คนเขากลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกบำเพ็ญเพียรแล้ว แม้แต่ท่านผู้ดูแลก็ยังเอ่ยถึงพลางทอดถอนใจอยู่ทุกวัน พูดทำนองว่าไม่คิดเลยว่าจะจับพลัดจับผลูได้ร่วมสาบานกับคนผู้นี้เข้า

ท่านผู้ดูแลยังเอ่ยอยู่เลยว่าไม่รู้ว่าน้องชายร่วมสาบานคนนั้นจะมาเยี่ยมเยือนที่เขาข้ามเมฆาอีกเมื่อใด ความหมายในวาจานั้นคือหากน้องชายร่วมสาบานคนนั้นมาเยือนอีก เขาจะต้อนรับขับสู้อย่างกระตือรือร้นแน่นอน ไม่มีทางเฉยเมยเย็นชาเหมือนอย่างตอนที่พบหน้ากันครั้งแรก คาดว่าคงจะมองอีกฝ่ายเป็นน้องชายร่วมสาบานของตนเข้าจริงๆ แล้ว

ท่านผู้ดูแลยังเคยคิดด้วยว่าจะไปเยือนจังหวัดชิงซานดีหรือไม่ แต่พอพิจารณาถึงว่าตอนนี้อีกฝ่ายมีชื่อเสียงในโลกบำเพ็ญเพียรไม่น้อย แต่ก่อนเคยเย็นชาต่ออีกฝ่าย แต่ยามกลับจะทำตัวชิดเชื้อ กังวลใจว่าหากไปหาอาจจะทำให้คนเขาเข้าใจผิดว่าตนต้องการประจบประแจงเอาได้ ดังนั้นจึงไม่เคยเดินทางไปเยี่ยมเยือนเลยไอรีนโนเวล

อันที่จริงเขารู้ดีว่าท่านผู้ดูแลมีเจตนาอยากจะสานไมตรี ความแข็งแกร่งทางด้านสภาวะของเขาข้ามเมฆาอาจจะแข็งแกร่งกว่าคนผู้นี้ แต่มันไม่อาจเทียบกับบุคคลที่มีอิทธิพลต่อเจ้าศักดินาผู้หนึ่งได้ คุณสมบัติของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากวันใดวันหนึ่งเขาข้ามเมฆาไม่อาจตั้งตัวอยู่ในแคว้นจ้าวได้อีก บางทีอาจจะพอโยกย้ายไปปักหลักในเขตมณฑลหนานโจวของแคว้นเยี่ยนได้

คนที่ท่านผู้ดูแลต้องการสานไมตรีด้วยเสมอมา ไม่คิดเลยว่าตนจะบังเอิญมาพบในสถานที่แห่งนี้เข้า

ถูกต้อง เขาก็คือคนของเขาข้ามเมฆา โหวฉิงเทียนลูกน้องคนสนิทของอวิ๋นฮวนผู้ดูแลคนปัจจุบันของเขาข้ามเมฆา

หนิวโหย่วเต้าเดินเข้ามาโบกมือพลางเอ่ยว่า “คนกันเอง!” สื่อว่าให้พวกหยวนกังเปิดทางให้อีกฝ่าย จากนั้นยิ้มแล้วเอ่ยกับโหวฉิงเทียนว่า “อะไรกัน ขี้ลืมขนาดนี้เชียวหรือ จำข้าไม่ได้หรือไง?”

โหวฉิงเทียนรีบประสานมือเอ่ยทักทาย “คารวะเต้าเหยี่ย!”

พอเห็นเช่นนี้ คนอื่นๆ ก็สบตากัน ที่แท้ก็เป็นคนรู้จักจริงๆ

หนิวโหย่วเต้าเอ่ยว่า “ไม่พบกันหลายปี โหวซยงยังสง่างามเช่นเคย”

โหวฉิงเทียนรีบเอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “เต้าเหยี่ยชมเกินไปแล้ว มิกล้ารับไว้หรอกขอรับ”

เขาให้ความเคารพนอบน้อมอย่างแท้จริง หนิวโหย่วเต้าในวันวานที่ถูกคนอื่นตามล่าสังหารอาจจะมองข้ามไม่เห็นอยู่ในสายตาได้ แต่ตอนนี้กลับต่างกันออกไป คนที่ทำร้ายศิษย์สำนักเพลิงนภาแล้วยังรอดมาได้อย่างปลอดภัย เวลานี้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลกบำเพ็ญเพียร อิทธิพลที่มีต่อโลกคนธรรมดาก็ยิ่งมากมายนัก ใต้หล้านี้มีทั้งหมดสองร้อยกว่ามณฑล ได้ยินว่าคนผู้นี้สามารถควบคุมมณฑลแห่งหนึ่งได้ พูดอีกอย่างก็คือคนผู้นี้มีอิทธิพลต่อมณฑลแห่งหนึ่งจากทั้งหมดสองร้อยกว่ามณฑลในโลกคนธรรมดา แม้ว่าสัดส่วนจะน้อยนิด ทว่าเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในโลกบำเพ็ญเพียรไม่อาจทำได้ สำนักบำเพ็ญเพียรมากมายหลายแห่งก็ทำไม่ได้เช่นกัน

คนประเภทนี้ไปที่ใดก็ล้วนแต่มีคนอยากผูกมิตรด้วย อิทธิพลระดับนั้น เขาข้ามเมฆาไหนเลยจะเทียบชั้นได้ อำนาจบารมีนับว่าทิ้งห่างจากเขาข้ามเมฆาไปไกลแสนไกลแล้ว

หนิวโหย่วเต้าถามยิ้มๆ “ไม่ได้พบพี่ใหญ่อวิ๋นเสียหลายปี ไม่ทราบว่าพี่ใหญ่อวิ๋นสบายดีหรือไม่?”

โหวฉิงเทียนตอบกลับอย่างนอบน้อม “สบายดีขอรับ!”

หนิวโหย่วเต้าแปลกใจ “เจ้ามาหาข้าหรือ? พี่ใหญ่อวิ๋นก็มาด้วยใช่หรือไม่?”

โหวฉิงเทียนตอบว่า “เปล่าขอรับๆ ข้าได้รับคำสั่งให้ออกจากเขามาจัดการธุระเล็กน้อย นี่มาสำรวจโรงเตี๊ยมสำหรับพักแรมดูเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญพบเต้าเหยี่ยเข้า ช่างบังเอิญจริง ขอรับ”

หนิวโหย่วเต้าเอียงศีรษะส่งสัญญาณเล็กน้อย “ในเมื่อมาแล้วก็มาพักด้วยกันสิ จะได้คอยช่วยเหลือดูแลกันและกัน” เขาก็อยากจะสอบถามสถานการณ์ของทางเขาข้ามเมฆาเช่นกัน

โหวฉิงเทียนประสานมือกล่าวขอบคุณในความหวังดี “เต้าเหยี่ย ข้ารับคำสั่งมาจัดการธุระ ตอนนี้ยังไม่สะดวกขอรับ รอให้ข้าจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วจะมาขออภัยจากเต้าเหยี่ยในภายหลังขอรับ”

ในเมื่อเขากล่าวมาเช่นนี้ หนิวโหย่วเต้าก็ไม่บังคับอีก พูดจาตามมารยาทสองสามประโยคแล้วปล่อยอีกฝ่ายจากไป

ขณะที่เดินลงไปยังชั้นล่าง โหวฉิงเทียนบ่นในใจ ราชาหมีขนทองถูกหลอกพามาอันใดกัน เขาเคยพบหยวนฟางมาก่อน รู้แต่แรกแล้วว่าเป็นคนของหนิวโหย่วเต้า ถูกหลอกมาที่ไหนกันล่ะ

หนิงโหย่วเต้าที่ยืนมองดูอีกฝ่ายจากไปอยู่ชั้นบนหันไปมองหยวนกังเล็กน้อย

หยวนกังเข้าใจความคิดเขา เอ่ยไปว่า “ไม่เหมือนบังเอิญพบ น่าจะมาตรวจสอบอะไรบางอย่าง”

มาตรวจสอบชั้นที่ทางนี้พักอยู่อย่างนั้นเหรอ? หนิวโหย่วเต้าขมวดคิ้วเล็กน้อย สำหรับเขาแล้ว นี่จะต้องมีความไม่ชอบมาพากลแฝงอยู่ในเรื่องราวแน่

เขาเป็นคนที่มีความระแวดระวังสูงมาก ออกคำสั่งต่อก่วนฟางอี๋ทันที “จับตามองไว้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า