ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 503

ตอนที่ 503 เล่นเป็นเพื่อนพวกเขา

“คิดอะไรอยู่หรือ?”

เหวินซินจ้าวเดินเข้ามายังข้างกายตู้อวิ๋นซาง หยุดยืนเคียงข้างกัน จากนั้นเอ่ยออกไปคล้ายจะถามเรื่อยเปื่อย

ตู้อวิ๋นซางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “แดนความฝันเสื้อยังไม่ปิดตัวลง ตามที่เหล่าบรรพบุรุษในสมัยราชวงศ์อู่เล่าขานไว้ อสูรศักดิ์สิทธิ์สัตว์วิเศษของหลีเกอก็อยู่ในแดนความฝันเช่นกัน ตามตำนานเล่าว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์สามารถคงความเป็นอมตะไว้ได้ด้วยการเข้าสู่สภาวะดักแด้จำศีล หากตำนานเป็นความจริง การที่แดนความฝันยังไม่ปิดตัวลงก็เท่ากับประตูใหญ่ที่ใช้เข้าออกแดนความฝันจะเปิดอยู่ตลอดเวลา หากอสูรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้น แปลว่าบนโลกจะมียอดฝีมือระดับจิตทารกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน รูปการณ์ของใต้หล้าจะเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง”

เหวินซินจ้าวเอ่ยถาม “กำลังคิดเรื่องนี้อยู่จริงๆ น่ะหรือ? ไม่ใช่ว่าคิดถึงสตรีนางนั้นอยู่กระมัง?”

ตู้อวิ๋นซางเอ่ยว่า “เรื่องผ่านไปแล้วยังจะเอ่ยถึงนางอีก มีประโยชน์อะไร?”

เหวินซินจ้าวเบือนหน้ามองไปด้านข้าง ในใจอยากจะเอ่ยถึงเรื่องที่ตนวู่วามตบก่วนฟางอี๋ไปสองฉาด ต้องการดูปฏิกิริยาของเขา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยออกไป

สองสามีภรรยาต่างคนต่างเงียบงัน มองกันไปคนละทาง

ช่วงเวลาที่ทั้งสองอยู่กันตามลำพังมักจะเงียบงันเช่นนี้เสมอ จู่ๆ ก็มักจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้คำพูดจะคุยต่อ แต่ไหนแต่ไรมาเป็นเช่นนี้ อนาคตก็น่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไป…

….

กลางลานเรือนใต้แสงจันทร์ เฉินถิงซิ่วเดินวนไปวนมา ประเดี๋ยวก้มหน้า ประเดี๋ยวมองนภายามราตรี ทอดถอนใจออกมาเป็นครั้งคราว

หากไม่มีอะไรผิดพลาดไป เจตนาของหนิวโหย่วเต้าปรากฏเด่นชัดแล้ว ออกจากมณฑลหนานโจวมาเพื่อสะสมกำลังเตรียมเปิดฉากปะทะกับสำนักหยกสวรรค์ครั้งที่สอง ตอนนี้หลงซิวไม่ยอมพบเขา แต่กลับยอมพบหนิวโหย่วเต้า ซ้ำยังคุยกันอยู่นานสองนาน ประมุขวังเหินเวหาผู้สูงศักดิ์มีอะไรต้องสนทนากับหนิวโหย่วเต้าตามลำพังตั้งนานเล่า? ยิ่งคิดก็ยิ่งกระวนกระวาย กังวลว่าหนิวโหย่วเต้าจะชักจูงหลงซิวไปเป็นพวกเพื่อมาจัดการกับสำนักหยกสวรรค์

แผนการของสำนักหยกสวรรค์จัดวางไว้สองขั้น เขามาเพื่อดำเนินการขั้นแรก ดำเนินแผนการยืมดาบสังหารคน เร่งเดินทางมาตลอดโดยไม่หยุดพัก

ที่เขารีบร้อนเดินทางมาเช่นนี้ก็เพื่อสืบลาดเลาเตรียมการสำหรับแผนการขั้นที่สอง ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ทราบเพียงว่าหนิวโหย่วเต้าเดินทางมาที่นี่ ส่วนเรื่องอื่นไม่ทราบเลย

สำหรับแผนการขั้นที่สองที่จะดำเนินการคือจะส่งยอดฝีมือที่เป็นหนึ่งในสองผู้อาวุโสรุ่นก่อนของสำนักหยกสวรรค์มา หากแผนยืนดาบสังหารคนไม่สำเร็จ ก็จะใช้กำลังดำเนินการลอบสังหาร

ทำได้เพียงลอบสังหารเท่านั้น ทั้งยังต้องลงมืออย่างเงียบเชียบด้วย กำจัดหนิวโหย่วเต้าทิ้งเงียบๆ ไม่อาจลงมืออย่างโจ่งแจ้งได้

ทันทีที่ลงมือจะต้องขุดรากถอนโคนให้เรียบร้อย ไม่อาจปล่อยให้มีคนสนิทของหนิวโหย่วเต้าหนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว จะปล่อยให้มีใครรอดไปแจ้งข่าวไม่ได้ มิเช่นนั้นต่อให้สังหารหนิวโหย่วเต้าได้ แต่เมื่อข่าวแพร่ไปถึงมณฑลหนานโจว ทางมณฑลหนานโจวต้องเกิดความโกลาหลใหญ่โตแน่นอน ซึ่งนั่นจะทำให้ราชสำนักแคว้นเยี่ยนสบโอกาสเข้ามาจัดการมณฑลหนานโจวได้

เนื่องด้วยเหตุนี้ สำนักหยกสวรรค์ถึงได้ยอมส่งยอดฝีมือประจำสำนักที่ไม่เปิดเผยตัวง่ายๆ ออกมาลงมืออย่างไม่นึกเสียดาย เป้าหมายย่อมเป็นเพราะอยากจัดการให้สำเร็จในครั้งเดียว

ทว่าสรุปแล้วข้างกายหนิวโหย่วเต้ามีผู้ติดตามอยู่เท่าไรก็ไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัด ไม่อาจมั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่าจะไม่มีข่าวรั่วไหลออกไป ดังนั้นการลอบสังหารจึงมีความเสี่ยง หากไม่เข้าตาจนจริงๆ ทางสำนักหยกสวรรค์ก็ไม่มีทางยอมเสี่ยงแน่นอน

ตัวเขาเฉินถิงซิ่วมาที่นี่เพื่อดำเนินแผนการขั้นแรก ผลคือพบว่าหนิวโหย่วเต้าอยู่ในสำนักหมื่นสรรพสัตว์ ไม่เพียงแต่จะลงมือจัดการได้ยาก แต่กลับยังต้องมองดูหนิวโหย่วเต้าคล้ายว่าชิงนำหน้าไปก่อนหนึ่งก้าวโดยไม่อาจทำอะไรได้ แล้วจะให้เขาทนนิ่งเฉยได้อย่างไร

ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากติดต่อกับสำนักเพลิงนภา คิดจะอาศัยข้อพิพาทในอดีตระหว่างหนิวโหย่วเต้ากับสำนักเพลิงนภามาทำให้เรื่องราวลุกลามขึ้น แต่สำนักเพลิงนภากลับคร้านจะพบหน้าเขา

ตอนนี้เขากำลังรอข่าวอยู่ ข่าวที่ส่งศิษย์ในสำนักออกไปจัดการ

ศิษย์ทั้งหมดที่ติดตามมาด้วยในครั้งนี้ล้วนถูกเขาส่งตัวออกไปทำงานแทบทั้งหมด ให้เหล่าศิษย์ระดับล่างคิดหาทางติดต่อคนรู้จักที่อยู่ทางสำนักหมื่นสรรพสัตว์ แม้จะเป็นศิษย์ระดับล่างของสำนักหมื่นสรรพสัตว์ก็ตาม พยายามจัดวางสายสืบคอยสังเกตพฤติกรรมของหนิวโหย่วเต้ายามที่อยู่ในสำนักหมื่นสรรพสัตว์ให้ได้มากที่สุด

ทางโฉวซานก็ทำตัวมีคุณธรรมขึ้นมา ไม่ยอมช่วยอะไรเขาอีก อีกทั้งที่นี่คืออาณาเขตภายในสำนักหมื่นสรรพสัตว์ ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเขาเฉินถิงซิ่วเดินเพ่นพ่านสืบข่าวไปทั่วได้ เขาจึงทำได้เพียงคิดหาวิธีขอความช่วยเหลือจากศิษย์ในสำนักหมื่นสรรพสัตว์…

….

หนิวโหย่วเต้าก็เดินวนกลับไปกลับมาอยู่ในลานเรือนใต้แสงจันทร์เช่นกัน เงาร่างโดดเดี่ยว เย็นชาอ้างว้าง

หยวนฟาง ลุงเฉินและสวี่เหล่าลิ่วมิใช่คนที่จะสนทนาเปิดอกลึกซึ้งกับเขาได้ ส่วนก่วนฟางอี๋ก็เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ออกมาเลย

ท้ายที่สุดยังคงเป็นหยวนกังที่เดินออกมาหา ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบงัน เอ่ยโพล่งออกไปประโยคหนึ่ง “วันนี้ดูเหมือนคุณจะมีเรื่องให้คิดเยอะไปหน่อยนะ”

หนิวโหย่วเต้าหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เงยหน้ามองพระจันทร์ “เฉินถิงซิ่วมาแล้ว”

หยวนกังถาม “เขาจะกล้าก่อเรื่องวุ่นวายในสำนักหมื่นสรรพสัตว์หรือไง?”

หนิวโหย่วเต้ากล่าวว่า “สำนักหยกสวรรค์คงต้องการฆ่าฉันแล้ว” เพราะถูกกลุ่มคนจากสำนักสวรรค์พิสุทธิ์พัวพันในเมืองวั่นเซี่ยง ฐานะจึงเปิดเผยออกไป เขาก็กังวลมากเช่นกัน ข่าวการมาถึงของเฉินถิงซิ่วสร้างความกังวลให้เขาขึ้นมารางๆ

หยวนกังถาม “พวกเขาไม่กลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในหนานโจวหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า