ตอนที่ 506 ให้เกียรติกันเสมือนปฏิบัติต่อแขก
“พูดจบหรือยัง?”
ภายในหมู่ศาลาพลับพลา เหวินซินจ้าวนั่งตัวตรง จ้องมองเฉินถิงซิ่วที่พูดพล่ามเป็นต่อยหอยอยู่ตรงนั้น เอ่ยถามอย่างเย็นชา
จู่ๆ คนผู้นี้ก็วิ่งแจ้นมาหา บอกว่ามีเรื่องของหงเหนียงแห่งเมืองหลวงแคว้นฉีอยากแจ้งให้ทราบ เมื่อเป็นเรื่องของหงเหนียงแล้วนางไม่มีทางทนเมินเฉยไปได้ ข่มกลั้นความรู้สึกในส่วนนั้นไม่ไหว ดังนั้นจึงยอมพบหน้า ผู้ใดจะทราบว่าเป็นคนที่มีความแค้นกับทางฝั่งหงเหนียงเช่นกัน มาที่นี่เพราะหวังดีอยากจะช่วยเหลือ
หลังจากถามตอบกันมาสักพัก เฉินถิงซิ่วที่พยายามเอ่ยโน้มน้าวอยู่ฝ่ายเดียวก็ถูกเอ่ยขัด จึงผงะไปเล็กน้อย ถามไปว่า “ฮูหยินมีความคิดเห็นประการใดหรือ?”
เหวินซินจ้าวเอ่ยสั้นๆ “ไสหัวไป!”
“….” เฉินถิงซิ่วมึนงง นี่มันอะไรกัน? เขาเอ่ยไปอีกว่า “เหตุผลที่หงเหนียงคนนั้นทำตัวกำเริบเสิบสานก็เพราะมีหนิวโหย่วเต้าเป็นที่พึ่งหลักของนาง ขอเพียงกำจัดหนิวโหย่วเต้า หากอยู่ในอาณาเขตมณฑลหนานโจวพวกเราสำนักหยกสวรรค์สามารถทำให้หงเหนียงคนนั้นอยู่ไม่สู้ตายได้ จะช่วยระบายแค้นนี้ให้ฮูหยินแน่นอน…”
“ไปให้พ้น!” เหวินซินจ้าวตวาดตัดบทอีกครั้ง
หากมิใช่เพราะเห็นแก่ที่อีกฝ่ายก็มีความแค้นกับหงเหนียง อยากจะสังหารหงเหนียงเช่นกัน ให้ความรู้สึกเหมือนมีศัตรูคู่แค้นคนเดียวกันอยู่ นางคงจะกำจัดเขาทิ้งเสียเดี๋ยวนี้
“เชิญ!” ชายชรานิ่งทื่อเหมือนตอไม้ที่อยู่ด้านข้างเดินเข้ามาขวาง ผายมือเชิญเขาออกไปโดยไม่เกรงใจ
พอเห็นว่าอีกฝ่ายโมโหขึ้นมาแล้ว เฉินถิงซิ่วก็ทำได้เพียงขอตัวอำลา จากไปด้วยความรู้สึกงุนงง
ก่อนที่เขาจะมา เขาได้สั่งให้ศิษย์ในสังกัดไปสอบถามยืนยันกับศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ที่รู้จักกันมาแล้ว เฉาเซิ่งไหวคนนั้นกล่าวไว้ไม่ผิดเลย เหวินซินจ้าวตบหงเหนียงเพราะความหึงหวงจริงๆ
ถึงอย่างไรนี่ก็มิใช่เรื่องเล็กๆ เขาย่อมต้องตรวจสอบยืนยัน หากไม่มีความมั่นใจก็ไม่อาจเสี่ยงมาหาได้
ก่อนหน้านี้ศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์ที่เคยติดต่อด้วยไม่ได้เผยเรื่องนี้ออกมา หลังจากนำเรื่องนี้ไปสอบถามยืนยัน ศิษย์สำนักหมื่นสรรพสัตว์คนนั้นก็ตกใจมาก ถามด้วยพวกเขาทราบเรื่องได้อย่างไร ใครเป็นคนบอก เฉาเซิ่งไหวกล่าวไว้แล้วว่าทางสำนักสั่งห้ามไม่ให้เอ่ยถึงเรื่องนี้เด็ดขาด ทางฝั่งเฉินถิงซิ่วย่อมไม่กล้าพูดถึงเฉาเซิ่งไหว
การเปิดเผยเรื่องเฉาเซิ่งไหวเป็นเรื่องเล็ก แต่การล่วงเกินเฉาจิ้งผู้อาวุโสของสำนักหมื่นสรรพสัตว์เป็นเรื่องใหญ่ เขาไม่อาจล่วงเกินได้ ไอรีนโนเวล
อันว่าสตรีเมื่อหึงหวงขึ้นมาแล้วน่ากลัวนัก เขามาครานี้มีความมั่นใจว่าจะหลอกใช้ยุแยงอีกฝ่ายได้สำเร็จ ใครจะคาดว่าผลลัพธ์กลับเป็นเช่นนี้ ท่าทีของเหวินซินจ้าวทำให้เขาแปลกใจเป็นอย่างมาก
เหวินซินจ้าวผู้ถูกยุแยงนั่งอยู่ในศาลาตามลำพัง เนื่องจากเฉินถิงซิ่วไม่ได้พูดเรื่องดีอันใดเลย แน่นอนว่านางปรารถนาจะฉีกทึ้งนังแพศยาคนนั้นใจแทบขาดแล้ว ทำให้นางแพศยาคนนั้นอยู่ไม่สู้ตาย
หากว่าลงมือได้นางทำไปนานแล้ว ไหนเลยจะต้องให้คนเช่นนี้มาช่วยเหลืออีก? ช่างน่าขันเสียจริง!
….
“เจ้าเองหรือ?”
ภายในห้องโถงรับแขก พอตู้อวิ๋นซางเห็นว่าแขกที่มาคือลุงเฉินก็ค่อนข้างประหลาดใจ
ตามรายงานที่ทางนี้แจ้งมา บอกว่าคนที่จ้าวสยงเกอส่งตัวมาต้องการพบเขา อยู่ในเขตสำนักหมื่นสรรพสัตว์ ตามปกติแล้วไม่มีผู้ใดกล้าพูดจาเหลวไหลหลอกลวง เขาจึงยอมพบหน้า
ขณะที่กำลังแปลกใจอยู่ว่าจ้าวสยงเกอส่งคนมาพบตนด้วยเรื่องใด ผู้ใดจะคาดว่าแขกที่มากลับเป็นลุงเฉิน
เขาย่อมรู้จักลุงเฉินดี เป็นคนที่เคยรู้จักกันในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ซ้ำยังเคยอยู่ด้วยกันระยะเวลาหนึ่งด้วย นับว่าเป็นคนคุ้นเคยเก่าที่ค่อนข้างรู้จักกันดี
“ข้าเอง!” ลุงเฉินเอ่ยด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ตู้อวิ๋นซางหรี่ตาลงนิดๆ “เจ้ามีสถานะอื่น เป็นคนของจ้าวสยงเกออย่างนั้นหรือ?”
ลุงเฉินกล่าวว่า “แค่อ้างชื่อเท่านั้น หาไม่แล้วท่านที่เป็นคนใหญ่คนโต คนตัวเล็กๆ อย่างข้าไหนเลยจะเข้าพบผู้สูงศักดิ์อย่างท่านได้!”
พอเขาเอ่ยมาเช่นนี้ เมื่อผู้คุ้มกันในห้องโถงทราบว่าเป็นผู้ที่มาเยือนกลับเป็นคนที่สร้างเรื่องหลอกลวง พวกเขาตื่นตัวอย่างเต็มที่ คิดที่จะลงมือ
“เรื่องในอดีตผ่านไปแล้ว ที่นี่มิใช่สถานที่ที่เจ้าควรมา ไปซะ ส่งแขก!” ตู้อวิ๋นซางหันหลังให้ ไม่ได้สั่งให้ลูกน้องจัดการ นับว่าเมตตาไม่เอาความ
เขาทำข้อตกลงกับเหวินซินจ้าวไว้แล้วว่าจะไม่ไปมาหาสู่ใดๆ กับหงเหนียงอีก ย่อมรวมถึงการไม่พบหน้าคนจากฝั่งหงเหนียงด้วย
“เชิญ!” ผู้คุ้มกันภายในห้องโถงผายมือเชิญแขกออกไปทันที
ลุงเฉินเอ่ยด้วยความโมโห “พวกเราก็อยากปล่อยให้เรื่องในอดีตผ่านพ้นไปเช่นกัน แต่เหตุใดพวกท่านถึงเอาแต่ตามจองล้างจองผลาญไม่ให้ทางรอดนายหญิงของพวกเราบ้าง? เมื่อวานนี้ฮูหยินของท่านตบหน้าหงเหนียงสองฉาดยังพอทนได้ ตอนนี้ยังจะสมคบกับสำนักหยกสวรรค์ ต้องการจะเล่นงานนายหญิงให้ตายอีก…”
พอได้ยินเรื่องราวเช่นนี้ ผู้คุ้มกันในห้องโถงก็ลงมืออย่างไร้ความเกรงใจในทันที เข้าควบคุมเขาในทันใด ทำให้เขาไม่สามารถส่งเสียงได้ ลากตัวออกไปด้านนอก
ลุงเฉินเองก็ไม่ได้ตอบโต้เช่นกัน ปล่อยให้ควบคุมตัว ทางหนิวโหย่วเต้าเคยสั่งการไว้ว่าให้พูดอย่างเดียวไม่ให้ลงมือ
ตู้อวิ๋นซางที่หันหลังอยู่มิใช่คนหูหนวก สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย หันกลับมาทันที ตวาดออกไปว่า “หยุดก่อน!”
ผู้คุ้มกันสองคนที่เพิ่งคุมตัวลุงเฉินไปถึงประตูตัวแข็งทื่อทันที มีคนหนึ่งหันไปเอ่ยว่า “เจ้าสำนัก อย่าได้สนใจคำพูดเหลวไหลของคนผู้นี้เลยขอรับ!”
เรื่องบางอย่าง บุคคลในเรื่องราวมักจะได้รู้เป็นคนสุดท้าย
เรื่องบางอย่าง ลูกน้องระดับล่างก็ไม่กล้าปล่อยให้ตู้อวิ๋นซางทราบความ
พวกเขาไม่รู้จักลุงเฉิน มิเช่นนั้นคงไม่ปล่อยให้ลุงเฉินเข้ามาพบตู้อวิ๋นซาง ซึ่งความจริงแล้วทั่วทั้งสำนักชะตาสวรรค์มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยพบลุงเฉินมาก่อน
เนื่องจากเรื่องของตู้อวิ๋นซางที่เคยเกิดขึ้นในสมัยก่อน สำนักชะตาสวรรค์ไม่อาจปล่อยให้คนนอกทราบถึงเรื่องน่าอับอายได้ ถึงแม้จะไม่มีผู้ใดทราบ แต่ก็สมควรกำชับควบคุมคนในสำนักไว้
ลองคิดดูเถิด หากว่าสตรีที่เคยมีสัมพันธ์กับเจ้าสำนักเกิดมีสัมพันธ์สวาทกับศิษย์ระดับล่างขึ้นมาอีก แบบนั้นออกจะเกินรับได้ไปหน่อย ทั้งไม่อยากให้มีใครในสำนักไปพัวพัวคลุมเครือกับหงเหนียงอีก
ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้ว คนในสำนักชะตาสวรรค์ที่เคยพบหงเหนียงจึงมีอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น คนที่เคยพบลุงเฉินย่อมมีน้อยยิ่งกว่า
อันที่จริงแล้วจนถึงตอนนี้ผู้คุ้มกันทั้งสองก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าลุงเฉินเกี่ยวข้องกับหงเหนียงอย่างไร แต่พอจะเดาออกแล้วว่าคนผู้นี้น่าจะเป็นคนของทางฝั่งหงเหนียง
ตู้อวิ๋นซางเอ่ยสั่ง “ปล่อยเขา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า