ตอนที่ 513 โรคระบาด
มณฑลหนานโจว ณ สำนักหยกสวรรค์ ภายในโถงตำหนักหลัก เหล่าผู้อาวุโสมารวมตัวกัน มองเผิงโย่วไจ้ที่ยืนอยู่ในตำแหน่งประธานด้วยสีหน้าเย็นชา
เจ้าสำนักมีสีหน้าเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแล้ว เฟิงเอินไท่เอ่ยถาม “เจ้าสำนัก เรียกพวกเรามารวมตัวด้วยเรื่องใดหรือ?”
เผิงโย่วไจ้หันหน้าไปส่งสัญญาณเล็กน้อย ศิษย์ที่อยู่ด้านข้างยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ด้านล่าง ให้เหล่าผู้อาวุโสเวียนกันอ่าน
ผู้อาวุโสติงไคว่ที่ได้อ่านเป็นคนแรกร้อง “อา” ขึ้นมี สีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างรุนแรง
เหล่าผู้อาวุโสล้อมวงเข้ามาทันที พากันยื่นหัวเข้ามาแย่งอ่านเนื้อความในจดหมาย พอได้เห็นเนื้อหาชัดๆ ต่างมีสีหน้าตกตะลึง
เผิงโย่วไจ้เอ่ยเนิบๆ “ผู้อาวุโสเฉินถิงซิ่วตายแล้ว ถูกเหวินซินจ้าวฮูหยินเจ้าสำนักชะตาสวรรค์ หรือก็คือบุตรสาวอดีตเจ้าสำนักชะตาสวรรค์รุ่นก่อนสังหาร”
แม้ข่าวสารที่ส่งมาจากศิษย์สำนักหยกสวรรค์ที่อยู่ทางสำนักหมื่นสรรพสัตว์จะบอกชัดเจนแล้วว่าเฉินถิงซิ่วคิดจะนำเรื่องหงเหนียงไปหลอกใช้เหวินซินจ้าวเพื่อยืมดาบสังหารคน ผลสุดท้ายไปยั่วโทสะเหวินซินจ้าวเข้า ถูกสังหารตายนอกประตูสำนักหมื่นสรรพสัตว์ ด้วยแรงกดดันของสามสำนักใหญ่แห่งแคว้นเยี่ยน ความจริงถูกปกปิดเอาไว้ ได้รับเพียงเงินชดเชยหนึ่งล้านเหรียญทอง
แต่เฟิงเอินไท่ยังคงอดถามไม่ได้ “กลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?”
เผิงโย่วไจ้กล่าวว่า “ตอนแรกที่ผู้อาวุโสเฉินไปเยือนก็ถูกเหวินซินจ้าวไล่ออกมา หลังจากนั้นเหวินซินจ้าวก็ล่อผู้อาวุโสเฉินออกไปสังหารด้านนอกสำนัก หากอยากสังหารจริงๆ ก็แค่ล่อออกไปสังหารตั้งแต่ครั้งแรกเสียก็จบเรื่อง ไยต้องรอให้ถึงภายหลังด้วย? หากว่ามีปัญหาแอบแฝงจริง เกรงว่าคงไม่พ้นไปจากหนิวโหย่วเต้าที่อยู่ทางสำนักหมื่นสรรพสัตว์!”
เฟิงเอินไท่ที่ถือจดหมายลับอยู่เงียบไป ทางหนึ่งก็เป็นศิษย์พี่ร่วมสำนักของเขา อีกทางก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานของเขา ตอนที่ทางนี้ตัดสินใจกันว่าจะสังหารหนิวโหย่วเต้า เขาก็ไม่ได้สะดวกจะออกความเห็นเช่นกัน ได้แต่นิ่งเงียบ
“ไอ้สารเลวชั้นต่ำ!” หลินเฟยเสวี่ยผู้อาวุโสหญิงเพียงหนึ่งเดียวของสำนักหยกสวรรค์กระทืบเท้าด่าด้วยน้ำเสียงชิงชัง “สำนักชะตาสวรรค์จะรังแกกันเกินไปแล้ว!”
ติงไคว่ถอนหายใจ “สำนักชะตาสวรรค์ทรงอิทธิพล จะทำอย่างไรได้เล่า?”
เผิงโย่วไจ้กัดฟันเอ่ย “จดบัญชีแค้นครั้งนี้ไว้ ให้เหล่าศิษย์รุ่นหลังจำขึ้นใจ สำนักหยกสวรรค์ของพวกเราจะพัฒนาตัวให้แข็งแกร่ง ภายภาคหน้าจะต้องชำระแค้นนี้ให้ได้!”
หลินเฟยเสวี่ยเอ่ยว่า “หนิวโหย่วเต้าติดต่อกับสามสำนักใหญ่ ต้องให้อาจารย์ลุงเฉิงเร่งเดินทางไปยังสำนักหมื่นสรรพสัตว์เพื่อหยุดยั้ง”
เผิงโย่วไจ้กล่าวว่า “ไอ้ชั้นต่ำจอมเจ้าเล่ห์ โจมตีซึ่งหน้าหลบง่ายแต่ลอบโจมตีหลบยาก ไม่ควรให้อาจารย์ลุงเฉิงเผชิญหน้ากับไอ้สารเลวนั่นตรงๆ เลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุเหนือความคาดหมายขึ้น เขาอยากติดต่อก็ให้เขาติดต่อไป จะไม่มีการเปลี่ยนแผนเดิมที่วางไว้ ให้อาจารย์ลุงเฉิงซุ่มรอโอกาสสังหาร ข้าส่งข่าวไปหาศิษย์ที่อยู่ทางสำนักหมื่นสรรพสัตว์แล้ว ให้พวกเขารั้งอยู่ที่สำนักหมื่นสรรพสัตว์ จับตามองความเคลื่อนไหวหนิวโหย่วเต้าไว้ คอยประสานงานกับอาจารย์ลุงเฉิง”
….
ขุนเขาเขียวขจี คฤหาสน์กระท่อมฟางยังคงตั้งอยู่ที่เดิม ใต้พฤกษานอกเรือนมีหลุมศพตั้งโดดเดี่ยว
ปีกทองสามตัวโผบินเข้ามา แยกย้ายกันพุ่งลงไปยังสิ่งปลูกสร้างสามแห่งที่ตั้งอยู่ในป่า
เฟ่ยฉางหลิวเพิ่งเดินออกมาจากด้านในโถง เจิ้งจิ่วเซียวและเซี่ยฮวาก็ทะยานตามกันเข้ามา รวมตัวกันพร้อมหน้าใต้ชายคาโถงใหญ่
“พวกเจ้าก็ได้รับข่าวจากหนิวโหย่วเต้าแล้วกระมัง?” เฟ่ยฉางหลิวเอ่ยถาม
เจิ้งจิ่วเซียวและเซี่ยฮวาต่างหยิบจดหมายลับฉบับถอดความแล้วออกมาจากแขนเสื้อคนละฉบับ เฟ่ยฉางหลิวก็หยิบฉบับหนึ่งออกมาเช่นกัน ทั้งสามนำออกมาเปรียบเทียบกัน เนื้อหาเหมือนกันทุกประการ
เนื้อความในจดหมายต้องการให้สามสำนักเร่งระดมกำลังพลในร้านค้าสาขาหอหิมะเหมันต์เป็นการด่วน ตามไปดักสกัดผู้ส่งสารโดยเร็ว ต้องจับกุมเป้าหมายมาให้ได้ หนิวโหย่วเต้าต้องการจดหมายที่อยู่กับผู้ส่งสาร
เจิ้งจิ่วเซียวเอ่ยขึ้นว่า “นี่เขาอยู่ที่ไหน คิดจะทำอะไรกันแน่? เรื่องราวคลุมเครือไร้ต้นสายปลายเหตุ ซ่งซูบุตรชายของเสนาบดีซ่งคนนั้นแปรพักตร์ไปอยู่กับเซ่าผิงปอแห่งเป่ยโจวแล้วมิใช่หรือ? หรือว่าเจ้านี่จะทอดทิ้งหนานโจวแล้วไปที่เป่ยโจวแทน? หรือว่ายังคงจดจำความแค้นสมัยที่อยู่สำนักสวรรค์พิสุทธิ์ไว้ ต้องการขุดรากถอนโคนตระกูลซ่งกระมัง?”
เซี่ยฮวาถอนหายใจเอ่ยไปว่า “คนผู้นี้ชอบทำอะไรมีลับลมคมในมาโดยตลอด ไม่เคยยอมเผยแผนการออกมาง่ายๆ ใครจะไปรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ทำตามเขาก็แล้วกัน! เจ้าไม่เห็นสำนวนวาจาที่ใช้ในครั้งนี้หรือ? ดำเนินการอย่างลับๆ ซ้ำยังต้องสำเร็จเท่านั้น ไม่อาจล้มเหลวได้ หากว่าทำพลาดจะขับไล่พวกเราสามสำนักออกจากเขตหนานโจว คำพูดเช่นนี้ชวนให้อึดอัดนัก”
เฟ่ยฉางหลิวรำพัน “อึดอัดแล้วจะทำอย่างไรได้? แต่ไม่ว่าอย่างไร ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ในที่สุดก็ติดต่อมาหาพวกเราเสียที อย่างน้อยก็แปลว่ายังไม่ได้ตัดขาดสัมพันธ์กับพวกเรา ศึกที่มณฑลหนานโจว พวกเราโลเลไม่เลือกข้าง อีกฝ่ายเขามองพวกเราในแง่ร้ายไปเสียแล้ว หากว่าครั้งนี้ทำงานพลาดอีก เกรงว่าคนผู้นี้คงแตกหักกับพวกเราจริงๆ หากไม่สามารถตั้งตัวในหนานโจวได้ เกรงว่าพวกเราสามสำนักคงต้องกลายเป็นพวกเร่ร่อนกันจริงๆ แล้ว”
เจิ้งจิ่วเซียวและเซี่ยฮวาพยักหน้ารับ หากหนิวโหย่วเต้าต้องการสร้างปัญหาให้พวกเขาก็ง่ายดายนัก แค่ถ่ายทอดข้อความให้แก่ทางซางเฉาจง ไพร่พลที่ประจำการอยู่ก็เข้ามาก่อกวนพวกเขาได้แล้ว ทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบาก พวกเขาจะกล้าสังหารไพร่พลของซางเฉาจงได้หรือ?
“เฮ้อ พวกเจ้าลองดูสถานการณ์ของพวกเราสามสำนักสิ ดีร้ายอย่างไรก็มีคนมากมายปานนี้ ไม่เพียงแต่จะต้องพึ่งพิงบารมีคนอื่น แต่กลับยังต้องคอยมองสีหน้าคนอื่นอยู่ตลอดด้วย แล้วลองย้อนมองคนผู้นั้นสิ เป็นเพียงศิษย์คนหนึ่งที่ถูกขับไล่ออกจากสำนักสวรรค์พิสุทธิ์ ด้านจำนวนคนสู้เราไม่ได้ ด้านความแข็งแกร่งก็ห่างชั้นเทียบพวกเราไม่ติด แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นพวกเราที่ต้องคอยวิ่งเต้นรับใช้เขา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?” เจิ้งจิ่วเซียวเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น ไอรีนโนเวล
เซี่ยฮวาเอ่ยว่า “เจ้าก็อย่าบ่นไปเลย ตั้งแต่ก่อตั้งสำนักจนถึงปัจจุบันนี้ พวกเราเปลี่ยนที่พึ่งพาไปมากน้อยเพียงใดแล้ว? ส่วนอีกฝ่ายต่อให้เข้าตาจนอย่างไรก็ไม่เคยเปลี่ยนนาย ติดตามซางเฉาจงไม่เคยทอดทิ้ง คอยสนับสนุนซางเฉาจงมาตั้งแต่ตอนตกทุกข์ได้ยาก แล้วซางเฉาจงจะไม่ซาบซึ้งบุญคุณได้อย่างไร?”
เจิ้งจิ่วเซียวเอ่ยว่า “เปรียบเทียบเช่นนี้ไม่มีประโยชน์”
เซี่ยฮวาถามกลับ “เช่นนั้นจะให้เปรียบเทียบอย่างไร? สังหารราชทูตแคว้นเยี่ยน พวกเราสามสำนักมีผู้ใดกล้าทำบ้าง? ปะทะกับสำนักหยกสวรรค์ในหนานโจว พวกเจ้ากล้าหรือไม่เล่า?”
เฟ่ยฉางหลิวยกมือปราม “เอาละ เลิกทะเลาะกันเถอะ มาแสดงจุดยืนให้ชัดเจนกันเถอะ!”
ไม่มีทางเลือกแล้ว ทั้งสามหารือกันเล็กน้อย จากนั้นก็แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักปีกทองสามตัวก็กระพือปีกพุ่งสู่นภาไกลลิบ…
ข่าวไปถึงหอหิมะเหมันต์แล้ว
เมื่อเซียวเถี่ยเถ้าแก่ร้านค้าสำนักเซียนสถิต เฉาเหิงเถ้าแก่ร้านค้าสำนักเมฆาล่องและหลี่หั่วอวิ๋นเถ้าแก่ร้านค้าสำนักคีรีพิลาสได้รับข่าวก็ไม่กล้าชักช้า ภารกิจเร่งด่วนอย่างยิ่ง ทั้งสามระดมกำลังคนในแถบหอหิมะเหมันต์อย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า