ตอนที่ 537 คืนที่ไม่อาจหลับลงได้
ภายในจวนราชทูตแคว้นจิ้น บรรยากาศเงียบสงัด มีผู้คุ้มกันเฝ้าระวัง เดินตรวจตราลาดตระเวนกลับไปกลับมา
ริมหน้าต่างใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีแสงจันทร์นวลจางส่องลอดเข้ามา ตะเกียงดวงหนึ่งส่องสว่างให้แสงแก่ชายชราคนหนึ่งที่อ่านหนังสืออยู่ คนผู้นี้ก็คือป๋อควนหยวนราชทูตแคว้นจิ้นที่ประจำการในเมืองหลวงแคว้นฉี
มีเสียงเคาะประตูแว่วขึ้น ประตูเปิดออก ข้ารับใช้ชราคนหนึ่งเดินเข้ามา โน้มตัวกระซิบข้างหู “ใต้เท้า ส่งคนออกไปอย่างปลอดภัยแล้วขอรับ”
ป๋อควนหยวนจดจ่อกับหนังสือ เอ่ยโดยไม่ละสายตาไป “ไม่เกิดเหตุผิดปกติอันใดขึ้นกระมัง”
ข้ารับใช้ชราเอ่ยว่า “จากรายงานที่ส่งกลับมา ทุกอย่างราบรื่นดีไม่มีความผิดปกติใดๆ น่าจะไม่เกิดปัญหาอันใดขึ้นอีกขอรับ”
ป๋อควนหยวนสบายใจแล้ว วางหนังสือในมือลง ลูบเคราพลางเอนหลังพิงพนัก หัวเราะฮ่าๆ “คุณชายเซ่าคนนี้ชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ ร้ายกาจโดยแท้! อืม…แผนการครองหล้าสำหรับแคว้นจิ้นหรือ? ตอนนี้ข้าเริ่มคาดหวังเล็กน้อยแล้วสิว่าเขาจะถวายอันใดให้แก่ฝ่าบาท จะทำให้ข้าพลอยมีผลงานไปด้วยจริงหรือไม่ ทางจวนราชทูตแคว้นเว่ยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร?”
ข้ารับใช้ชราเอ่ยว่า “เฉียดฉิวมากขอรับ ปู้ฟางนำกำลังคนบุกเข้าไปจับคนในจวนราชทูตแคว้นเว่ยด้วยตัวเอง โชคดีที่หนีออกไปทันเวลา หากช้ากว่านี้อีกนิดก็คงหนีไม่รอดแล้ว ไม่แปลกเลยที่คุณชายเซ่าคนนั้นรีบร้อนจากไปนัก ไม่ยอมรั้งรอเลยสักครู่เดียว”
“ปู้ฟางลงมือเองเลยอย่างนั้นหรือ?” ป๋อควนหยวนค่อนข้างแปลกใจพอสมควร ใคร่ครวญอยู่พักใหญ่จู่ๆ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา “มีละครสนุกให้ชมแล้วสิ เกรงว่าวันพรุ่งนี้คงได้เห็นคังเหอบากหน้าไปเล่นละครร้องทุกข์แน่”
ตอนที่เซ่าผิงปอมาพบเขา หากยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากราชสำนักแคว้นจิ้น เขาก็ไม่สะดวกจะเข้าแทรกแซงในทันที หากเกิดเรื่องขึ้น เขาไม่มีทางรับผิดชอบไหว
แต่เซ่าผิงปอกลับรอส่งสารตอบกันไปกันมาไม่ไหว ประกาศชัดเจนว่าไม่มีทางชักนำปัญหาใดๆ มาให้เขาแน่ ต้องการเพียงคนรับส่งเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เขาจึงส่งเซ่าผิงปอออกไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ส่วนทางจวนราชทูตแคว้นเว่ยย่อมไม่กล้าเผยความจริงเช่นกัน ต้องกัดฟันปกปิดเอาไว้ พรุ่งนี้จะต้องแล่นไปเล่นละครต่อหน้าฮ่องเต้แคว้นฉี ร้องขอคำอธิบายเพื่อระบายโทสะที่สุมทรวงอยู่แน่นอน
ส่วนทางแคว้นฉีก็ย่อมจะคิดไปว่าแคว้นเว่ยพาคนหลบหนีไป ต้องตามสืบสาวแน่ ทิศทางการสืบต้องพุ่งเป้าไปทางแคว้นเว่ยแน่นอน สามารถปกปิดให้ทางนี้ส่งเซ่าผิงปอจากไปได้อย่างปลอดภัย
ที่สำคัญคือข้อพิพาทและความเดือดร้อนจะตกไปอยู่กับทางจวนราชทูตแคว้นเว่ยหมด ไม่มีทางมาถึงฝั่งจวนราชทูตแคว้นจิ้นของเขา
นับว่าทำงานสำเร็จโดยไม่ต้องสูญเสียอันใดไปเลยจริงๆ วางตัวเหมือนคนที่ไม่เกี่ยวข้องได้
ส่วนคนที่วิ่งเต้นทำงานเสียเปล่าถึงรู้ว่าพลาดไปแล้วก็ยังต้องทำหน้าหนาเล่นละครต่อไป ช่วยปกปิดให้คนร้ายตัวจริง แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกขบขันได้อย่างไรเล่า
และเนื่องด้วยเหตุนี้ ป๋อควนหยวนถึงได้ทึ่งในตัวเซ่าผิงปอ แม้ดูเหมือนจะเป็นวิธีหลบหนีที่ง่ายดาย แต่ความจริงแล้วไม่ง่ายเลย 艾琳小說
หากวางแผนไปแล้วไม่สามารถกันทางนี้ให้อยู่เหนือเรื่องราวได้ หากไม่สามารถพูดให้เขาหวั่นไหวได้ หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากทางแคว้นจิ้น เขาก็ไม่มีทางยอมรับปากเซ่าผิงปอ
พอคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ทุกขั้นตอนในแผนการทำให้เขารู้สึกตะลึงนัก!
….
แสงจันทร์สาดส่องธรณีกว้างใหญ่ วิหคยักษ์สองตัวเร่งเหินบินอยู่บนนภาสูงในยามราตรี
พอมองย้อนกลับไปยังเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากครัวเรือนที่ได้หายลับไปจากครรลองสายตาแล้ว เซ่าซานเสิ่งที่ยืนอยู่บนหลังวิหคก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หันกลับมามองเซ่าผิงปอที่อยู่บนวิหคอีกตัว รู้สึกเลื่อมใสในตัวคุณชายใหญ่ท่านนี้ขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
ก่อนหน้านี้เขายังคิดอยู่เลยว่าข้างกายมีผู้บำเพ็ญเพียรกลุ่มหนึ่งเฝ้าจับตามองอยู่ คิดจะหนีออกมาในระยะเวลาที่จำกัด ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น ไปขอความช่วยเหลือจากราชทูตแคว้นจิ้นประจำเมืองหลวงแคว้นฉี จู่ๆ อีกฝ่ายจะยอมช่วยท่านทำเรื่องเช่นนี้หรือ?
เขาคิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ค่อยได้ แต่คุณชายใหญ่กลับทำได้ง่ายๆ เพียงพูดคุยกันไม่นานก็ทำให้ราชทูตแคว้นจิ้นยอมให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ขั้นตอนเจรจารวมถึงเนื้อความในบทสนทนา เขายืนฟังอยู่ด้านข้างอย่างครบถ้วน
บอกว่าจะมอบสิ่งล้ำค่าให้แก่ฮ่องเต้แคว้นจิ้น ขอความช่วยเหลือจากกองกำลังของแคว้นจิ้นเพื่อหลบหนี แต่ราชทูตแคว้นจิ้นกลับพูดจาคลุมเครือ
ดังนั้นคุณชายใหญ่พูดไปประโยคเดียวว่า ‘เสวียนเวยสั่งการให้ราชทูตแคว้นเว่ยพาข้าออกจากเมืองหลวงแคว้นฉีในคืนนี้แล้วมุ่งหน้าไปยังแคว้นเว่ย ท่านราชทูตอยากให้ข้าไปแคว้นเว่ยหรือแคว้นจิ้นกันเล่า?’
ราชทูตแคว้นจิ้นประหลาดใจ มีท่าทีสงสัยเช่นกัน
คุณชายใหญ่ก็ขอให้อีกฝ่ายรอพิสูจน์ดู หากคืนนี้ไม่เห็นราชทูตแคว้นเว่ยมีท่าทีว่าจะพาตัวข้าไป ท่านก็สามารถมองดูอยู่เฉยๆ ได้ หากว่ากลับกัน ท่านก็หาทางจัดการเอาแล้วกัน หากท่านไม่อยากรับข้าไว้ ข้าก็จะเชื่อฟังการจัดแจงของราชทูตแคว้นเว่ย!
ผลลัพธ์ก็กลายเป็นเช่นนี้ในตอนนี้ ราชทูตแคว้นจิ้นใช้อำนาจของแคว้นจิ้นเรียกใช้งานวิหคพาหนะและฝ่าซือคุ้มกัน ช่วยเขาหนีออกจากเมืองหลวงแคว้นฉีอย่างราบรื่น
แต่เซ่าผิงปอที่เงยหน้ามองดวงดาวอย่างสงบกลับมีสีหน้าเรียบเฉย สำหรับเขาแล้ว การใช้กลยุทธ์บางอย่างหนีรอดได้สำเร็จไม่ได้ควรค่าให้ดีใจอะไรนัก ผ่านคลื่นมรสุมมามากมายหลายครั้ง หากแม้แต่ความอดทนในส่วนนี้ยังไม่มี เขาคงไม่รอดมาถึงวันนี้
ไม่เพียงแต่ไม่ดีใจเท่านั้น กลับยังรู้สึกอัปยศอีกด้วย สำหรับตัวเขาในยามนี้ เขาได้กลายเป็นหมาจรพลัดถิ่นที่ถูกคนไล่หวดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนแล้ว!
ไม่มีความรู้สึกดีใจอยู่ภายในใจเลยสักนิด แล้วก็ไม่ได้รู้สึกโชคดีเลยแม้แต่น้อย
….
ภายในเรือนรับรองแขกต่างแคว้น ในเรือนพำนักของเซ่าผิงปอ ปู้ฟางนั่งกำกับการด้วยตัวเอง เรียกใช้งานกองกำลังผู้บำเพ็ญเพียรในเมืองหลวง อีกทั้งเรียกใช้งานกองกำลังหน่วยข่าวกรอง รอคอยข่าวตอบกลับจากแต่ละฝ่ายอยู่
รอมาหนึ่งชั่วยามกว่าแล้ว ก็ยังไม่ได้รับข่าวที่เป็นประโยชน์ใดๆ หนิวโหย่วเต้าตระหนักแล้วว่ารอต่อไปก็ไม่มีความหมาย ด้วยความสามารถของเซ่าผิงปอ รอนานขนาดนี้แล้วยังหาตัวไม่พบก็ไม่มีทางจับตัวได้อีก
“มีปู้กงกงคอยดูแลอยู่ เช่นนั้นผู้น้อยขอตัวก่อน” หนิวโหย่วเต้าบอกกล่าวประโยคหนึ่ง เตรียมจะกลับไปใคร่ครวญดูให้ดีก่อนว่าจะไล่ตามไปสังหารที่แคว้นเว่ยดีหรือไม่
ภายใต้แสงจันทร์ ปู้ฟางที่ร่างกายกำยำยืนเหยียดตรงอยู่ในสวนค่อยๆ หันมามองเขา “เจ้าเตรียมจะไปที่ใด?”
หนิวโหย่วเต้าตอบว่า “กลับโรงเตี๊ยมก่อน หากมีข่าวมาสามารถติดต่อข้าได้ทุกเมื่อ ด้วยความสามารถของหน่วยข่างกรองแล้ว ข้าพักอยู่ที่ใด เชื่อว่าคงไม่รอดพ้นสายตาของกงกงไปได้”
ปู้ฟางกล่าวว่า “ข้าว่าไม่จำเป็นต้องเทียวไปเทียวมาเลย พักอยู่ที่นี่เถอะ”
หนิวโหย่วเต้าฟังความหมายแฝงในวาจาเขาออก พลันหรี่ตาลงนิดๆ จ้องมองเขา
ก่วนฟางอี๋และลุงเฉินที่อยู่ด้านข้างก็ระแวดระวังขึ้นมาเช่นกัน
ปู้ฟางเอ่ยเสริมว่า “เป็นความประสงค์ของผู้ดูแลหลวง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า