ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 539

ตอนที่ 539 เมืองหลวงแคว้นฉีช่างไม่ถูกโฉลกกับข้าเลยจริงๆ

ไม่จำเป็นต้องให้เขาพูดอีก พอเห็นน้ำชา ตู๋กูจิ้งก็เข้าใจทันที เห็นได้ชัดว่าหนิวโหย่วเต้าหวาดระแวงทางนี้ ขนาดมีปู้สวินอยู่ด้วย แต่ยังเสแสร้งกับผู้มีชื่อเสียงอย่างท่านอาจารย์เช่นนี้ เพียงเท่านี้ก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว

ตอนนั้นหอจันทร์กระจ่างไล่ล่าสังหารหนิวโหย่วเต้า เนื่องจากสถานการณ์เร่งด่วน ท่านอาจารย์จึงเดินทางมาหาฮ่องเต้แคว้นฉีด้วยตัวเอง ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายข่าวสารอันกว้างขวางของแคว้นฉี

เรื่องนี้อาจารย์จัดการอย่างรอบคอบ คนกลางอย่างแคว้นฉีไม่มีทางสงสัยแน่นอน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจปล่อยให้กระดาษที่คั่นอยู่กึ่งกลางแผ่นนี้ถูกแทงทะลุได้ ไม่อาจปล่อยให้ตัวต้นเรื่องทั้งสองฝ่ายมองเห็นกันและกันผ่านรอยขาดบนกระดาษได้

ผลลัพธ์ของการมองเห็นกันและกันเป็นอย่างไรน่ะหรือ คนธรรมดาอาจจะไม่ใส่ใจ แต่หนิวโหย่วเต้าใช่คนธรรมดาหรือ? คนที่สามารถบีบคั้นให้เซ่าผิงปอต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดได้ คนที่สามารถหนีรอดจากการวางแผนไล่ล่าอย่างรัดกุมของหอจันทร์กระจ่างได้ การตอบสนองจะเฉียบไวขนาดไหนกัน!

ฮ่องเต้แคว้นฉีอาจจะไม่ทราบเรื่องที่หอจันทร์กระจ่างตามไล่ล่าหนิวโหย่วเต้าในตอนนั้น แต่หนิวโหย่วเต้าที่มีฐานะเป็นเป้าหมาย ในการปะทะตอบโต้กลับไปกลับมากับหอจันทร์กระจ่างตอนนั้น จู่ๆ ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงกะทันหันขึ้นกลางคัน มีหรือที่หนิวโหย่วเต้าจะจำไม่ได้?

ในที่สุดตอนนี้หนิวโหย่วเต้าก็ทราบถึงสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงแล้ว กระดาษที่คั่นอยู่กึ่งกลางขาดทะลุแล้ว หนิวโหย่วเต้าเหลียวหน้ากลับมา มองเห็นท่านอาจารย์ที่อยู่ด้านหลังของรอยขาดนั้น เขาจะไม่สงสัยได้หรือ? เกรงว่าพอนึกย้อนกลับไปคงจะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที!

ชาถ้วยนี้บ่งชี้ถึงปัญหาอย่างชัดเจน!

เดิมทีคิดว่าได้คันฉ่องบานนั้นมาแล้ว หอจันทร์กระจ่างตกลงสงบศึกกับหนิวโหย่วเต้าแล้ว บุญคุณความแค้นระหว่างสองฝ่ายจบลงแล้ว ไม่มีทางเอ่ยถึงเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาอีก

เดิมทีคิดไว้ว่าเรื่องนั้นทำให้ฮ่องเต้แคว้นฉีขายหน้า หลังจบเรื่องท่านอาจารย์ก็ไปเอ่ยปลอบฮ่องเต้แล้วว่าไม่เป็นไร เรื่องผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไป

หลักการก็เข้าใจง่ายนัก คนที่รู้เรื่องดีไม่มีทางเอ่ยถึงเรื่องนี้ให้ฮ่องเต้ขายหน้า การเผยแพร่เรื่องนี้ต่อภายนอก ทำให้ฮ่องเต้เสียพระเกียรติมันน่าสนุกนักหรือ?

ผู้ใดจะทราบว่าจู่ๆ หนิวโหย่วเต้าจะมาที่เมืองหลวงแคว้นฉี แล้วยังบุกเข้าไปในวังหลวงเพื่อตามล่าเซ่าผิงปอ

ผู้ใดจะทราบว่าฮ่องเต้เฮ่าอวิ๋นถูยังจะถือโอกาสนี้คุมตัวหนิวโหย่วเต้ามาที่นี่อีก

คิดไม่ถึงว่าจะทำให้เรื่องราวเปิดเผยออกมาเช่นนี้ ทำให้ทางนี้ป้องกันไม่ทัน

“ด้วยฐานะของข้า ตอนนี้เขายังไม่มีหลักฐานที่จะไปพูดกับผู้ใดได้ เจ้าคงรู้ว่าควรทำอย่างไร” แววตาอวี้ชางเย็นชา เอ่ยเสียงทุ้ม

“ขอรับ!” ตู๋กูจิ้งตอบรับ ทราบถึงความสำคัญของเรื่องนี้ได้ ต่อให้เรื่องคันฉ่องบานนั้นจะเปิดเผยออกไปก็ไม่สนใจแล้ว

หากเรื่องคันฉ่องเผยออกไป จริงอยู่ที่จะมีปัญหามากมายประเดประดังเข้ามาหาหอจันทร์กระจ่าง แต่ถึงอย่างไรหอจันทร์กระจ่างก็เป็นกลุ่มอิทธิพลลึกลับ ยากที่จะขุดรากถอนโคนได้ ทว่าถ้าเกิดฐานะของท่านอาจารย์เปิดเผยออกไป นั่นกลับจะเป็นการเผยรากฐานของหอจันทร์กระจ่างออกไปด้วย

“แต่คนผู้นี้เจ้าเล่ห์นัก เมื่อเขาตระหนักได้ถึงอันตรายแล้ว เขาย่อมไม่มีทางที่จะไม่ป้องกัน…”

ตู๋กูจิ้งเอ่ยยังไม่ทันจบ อวี้ชางก็ล้วงขวดกระเบื้องเคลือบขนาดเล็กใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นส่งให้เขา ขณะเดียวกันก็ยกมือซ้ายขึ้นมา บี้นิ้วมือพลางสูดดมอยู่ตรงปลายจมูก

ตู๋กูจิ้งพลันกระจ่างแจ้ง ท่านอาจารย์เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่จับแขนหนิวโหย่วเต้า เขาได้ทำอะไรบางอย่างไว้บนร่างของหนิวโหย่วเต้า

….

รถม้าเคลื่อนออกจากสวนไม้เลื้อย หนิวโหย่วเต้าที่นั่งอยู่ในรถม้าอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ผู้ดูแลหลวง ท่านไม่ได้แจ้งเรื่องกับทางนี้ไว้ก่อน เหตุใดถึงไม่บอกข้าเลย?”

เขานึกว่าอวี้ชางรู้อยู่แต่แรกแล้ว หากตนไม่มา นั่นกลับจะยิ่งแย่กว่าเดิม

แต่พอเข้าสู่สวนไม้เลื้อยแล้วได้ยินปู้สวินเอ่ยกับอวี้ชางทำนองว่า ‘ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ถือวิสาสะมาเยี่ยมเยือน’ หนิวโหย่วเต้าก็นึกเสียใจเป็นอย่างมาก

หากรู้แต่แรกว่าทางนี้ไม่ทราบเรื่อง ต่อตีให้ตายเขาก็ไม่มีทางมาที่นี่ คงคิดหาทางหลบลี้จากไป จะปล่อยให้อวี้ชางทราบว่าเขารู้เรื่องแล้วได้อย่างไร?

แต่จะว่าไปแล้ว ตนเองก็ฉลาดมากไปจนตกเป็นเหยื่อความฉลาดของตัวเอง ด้วยหูตาของอีกฝ่ายแล้ว จะไม่รู้ได้หรือว่าอวี้ชางอยู่ที่สวนไม้เลื้อยหรือเปล่า? ยังจำเป็นต้องกังวลด้วยหรือว่าจะมาเสียเที่ยว? ด้วยฐานะตัวตนของอีกฝ่ายยังต้องกังวลว่าอวี้ชางจะไม่ยอมพบเขาด้วยหรือ? จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าด้วยอย่างนั้นหรือ?

ปู้สวินกล่าวว่า “ความหมายของเจ้าคือ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนต้องรายงานเจ้าล่วงหน้าอย่างนั้นหรือ?”

ก่อนจะดำเนินเรื่องสำเร็จ เขาจะพูดออกไปให้หนิวโหย่วเต้าหาข้ออ้างมาปฏิเสธได้หรือ

หนิวโหย่วเต้าถอนหายใจดังเฮ้อ “ท่านผู้ดูแลหลวง ครั้งนี้เกรงว่าข้าคงถูกท่านพาซวยแล้ว”

ปู้สวินเอ่ยถาม “หมายความว่าอย่างไร? มีโอกาสได้ทำความรู้จักอาจารย์อวี้ชางยังไม่ดีอีกหรือ?”

หนิวโหย่วเต้าส่ายหน้า นอกจากยิ้มเจื่อนแล้วยังจะกล่าวอันใดได้อีก ไอรีนโนเวล

ระหว่างคนเรามีความแตกต่างด้านศักดิ์ฐานะอยู่ คนบางจำพวก เพียงพูดประโยคเดียวก็ทำให้เจ้าตายได้แล้ว

คนบางจำพวก แค่เจ้ากระแอมเล็กน้อยก็นับว่าหาเรื่องใส่ตัวแล้ว

ส่วนคนอย่างอวี้ชางนี้ ตัวตนสถานะล้วนประจักษ์ชัด ถ้อยคำบางอย่างไม่อาจกล่าวเหลวไหลได้ เขาไม่มีหลักฐานยืนยัน ต่อให้พูดไปก็สั่นคลอนอวี้ชางไม่ได้ อย่างมากก็แค่สร้างความไม่สะดวกให้อวี้ชางนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น ยามนี้แหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว อีกฝ่ายต้องระมัดระวังแน่ เป็นไปได้ยากที่จะจับจุดอ่อนอันใดของอีกฝ่ายได้

หากไม่มีหลักฐานยืนยัน ด้วยฐานะของอวี้ชางแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าบุ่มบ่ามทำอะไร เว้นเสียแต่ยอดคนทั้งเก้า แต่ถึงจะเผยเรื่องนี้ออกไป เกรงว่าในสายตาของยอดคนทั้งเก้าแล้วคงไม่อาจนับเป็นเรื่องสำคัญอันใดเลย

อีกทั้งขอเพียงเขากล้าพูด เขายังคิดว่าจะรอดไปได้หรือ? ต้องถูกแคว้นฉีคุมตัวไว้ทันทีแน่นอน!

เจ้าบอกว่าอวี้ชางเป็นคนของหอจันทร์กระจ่างอย่างนั้นหรือ? แม่ทัพบัญชาการฮูเหยียนอู๋เฮิ่นแห่งแคว้นฉีก็เป็นศิษย์ของอวี้ชาง กุมอำนาจทหารไว้ในมือ หากเอ่ยไปเช่นนี้ต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่ มิใช่เรื่องเล็กๆ เลย แคว้นฉีจะไม่คุมตัวเขาไปสอบสวนให้กระจ่างได้หรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า