ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า นิยาย บท 99

ตอนที่ 99 ซือโหยวไร้อาณา

หนิวโหย่วเต้าที่อยู่ในเรือนได้ยินเสียงจึงค่อยๆ เดินออกมา ยืนมองอยู่ใต้ชายคา

ไม่ตอบโต้? ไม่หลบหลีก? แถมยังไม่เอาเอาคืนด้วย? ให้ตายยังไงหยวนฟางก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดบ้าๆ เช่นนี้ของหยวนกัง เขาเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “หยวนเหยี่ย อาตมาไม่เคยคิดจะเอาคืนท่านเลยจริงๆ”

เขานึกว่าหยวนกังกำลังทดสอบเขา

หยวนกังไม่สนใจว่าเขาจะอยากแก้เค้นหรือไม่ ยื่นท่อนไม้ให้เขาพลางเอ่ยว่า “ข้าสั่งให้เจ้าตี!”

หยวนฟางไม่ยอมรับ พนมมือแล้วเอ่ยว่า “อามิตตาพุทธ สาธุ สาธุ!” เขาเอาแต่ส่ายหน้าปฏิเสธ

หยวนกังใบหน้าคร่ำเคร่งขึ้นมา เหวี่ยงไม้เสียงดังฟึ่บ หวดเข้าตรงริมกกหูเขาแล้วหยุดค้างไว้ “หากเจ้าไม่ตีข้า ข้าจะตีเจ้า!”

“….” หยวนฟางพูดไม่ออก นี่มันไร้เหตุผลชัดๆ อดไม่ได้ที่จะมองหนิวโหย่วเต้าเพื่อขอความช่วยเหลือ “เต้าเหยี่ย ท่านช่วยตัดสินเรื่องนี้ด้วยเถิดขอรับ!”

หนิวโหย่วเต้าที่ยืนอยู่บนบันไดยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “เขาให้เจ้าตีเจ้าก็ตีไปเถอะ จะกลัวไปทำไม! ชายชาตรีอกสามศอก พูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อเขาบอกว่าจะไม่ตอบโต้ ก็แปลว่าไม่ตอบโต้จริงๆ เจ้าวางใจได้ มีข้าจับตามองอยู่ตรงนี้ หากเขากล้าเอาคืน เจ้ามาฟ้องข้าได้เลย! ”

“นี่…” หยวนฟางลังเล นี่มิเท่ากับเป็นการบังคับฝืนใจคนหรอกหรือ

หยวนกังชูไม้ไว้ตรงหน้าเขา เอ่ยอีกครั้ง “ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเจ้าไม่ตี ข้าจะตีเจ้าแทน!”

ไม่เคยพบเห็นคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้มาก่อน หยวนฟางจนปัญญาเป็นอย่างยิ่ง ค่อยๆ ยื่นมือออกไปจับท่อนไม้

หยวนกังถอยหลังไปที่กลางลานเรือน กวักมือเรียกเขา “ตี!”

เรียกได้ว่าหยวนฟางถูกบีบบังคับจนไร้ทางถอยแล้ว อยากหามีดปังตอมาสับหยวนกังเป็นหมื่นๆ ชิ้นใจแทบขาด แต่สุดท้ายเขาก็ไม่กล้าอยู่ดี ได้แต่เดินเข้าไปหา เขาถือท่อนไม้เล็งแล้วเล็งอีก ชักเข้าชักออกซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตรงหน้าหยวนกัง ราวกับไม่รู้ว่าควรลงมือตรงไหนดี แต่ความจริงคือไม่กล้าลงมือ

“ตี!” หยวนกังพลันตวาดขึ้นมา

หยวนฟางเห็นท่าไม่ดี เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายหมดความอดทนแล้ว ถ้ายังไม่ตีอีกเขาจะเป็นฝ่ายถูกทุบตีแทน คิดๆ ดูแล้วไม่ว่าทางไหนก็ซวยเหมือนกัน อย่างนั้นก็ลุยไปเลยแล้วกัน เขาหวดไม้ออกไปเต็มแรง แต่สุดท้ายก็ยังคงออมแรงเอาไว้ ท่าดีทีเหลว ตีเข้าที่ไหล่ของหยวนกังเบาๆ เท่านั้น

“แรงกว่านี้!” หยวนกังตวาดอีกครั้ง

หยวนฟางจึงตีเขาแรงขึ้นอีกนิด หยวนกังมองเขาด้วยสายตาเยียบเย็น เจือไอสังหาร คล้ายกำลังถามว่า เจ้าล้อข้าเล่นอยู่หรือ?

สุดท้ายหยวนฟางจึงหวดท่อนไม้ใส่หัวไหล่ของหยวนกังเต็มแรงดัง ผัวะ! จากนั้นก็ดึงท่อนไม้กลับมาอย่างรวดเร็ว ท่าทางระแวดระวังอกสั่นขวัญแขวน

ผู้ใดจะทราบว่าหยวนกังกลับหันหลังเดินออกไป ท่าทางราวกับกำลังจะไปล้างแค้นใครสักคน เดินไปทางโม่หินที่อยู่ด้านข้าง

จะยกโม่หินมาทุบเขาหรือ? หยวนฟางตกใจขวัญผวา โยนท่อนไม้ทิ้งหันหลังวิ่งหนี วิ่งฉิวไปหลบอยู่ด้านหลังหนิวโหย่วเต้า ร้องขอความช่วยเหลือ “เต้าเหยี่ย ท่านเห็นแล้วใช่ไหมขอรับ เป็นเขาที่สั่งให้ข้าตี ข้าทำเพราะถูกบังคับ ข้าไม่มีทางเลือก! เป็นคนต้องมีเหตุผลสิขอรับ!”

หนิวโหย่วเต้ายื่นมือไปข้างหลัง ลากเขาออกมา จากนั้นชี้ไปทางหยวนกัง สื่อว่าให้หยวนฟางดูเอาเอง

หยวนฟางตะลึงงัน เห็นหยวนกังกำลังถอดเสื้อผ้าออก ถอดแล้วโยนใส่ตะกร้าที่อยู่ข้างๆ โม่หิน ถอดออกจนเหลือเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว กระทั่งรองเท้าถุงเท้าก็ถอดด้วย เผยกล้ามเนื้อหนั่นแน่นทั่วร่าง หุ่นกำยำสมบูรณ์แบบดุจประติมากรรมหิน เกิดเงาสะท้อนเป็นเส้นภายใต้แสงแดด เสมือนแฝงพลังที่พร้อมปะทุไว้ หากสตรีได้เห็นจะต้องหัวใจเต้นแรง แอบกลืนน้ำลายแน่นอน

“เจ้าคิดมากไปแล้ว เขาแค่กลัวจะทำเสื้อผ้าเสียหายเท่านั้น” หนิวโหย่วเต้าหัวเราะฮ่าๆ

หยวนกังหันกลับไปมองดูหยวนฟางที่หดหัวซ่อนตัวอยู่ เขาหยิบกระเบื้องหินที่วางอยู่บนโม่หินแผ่นหนึ่งขึ้นมา จับขอบสองข้างไว้ด้วยสองมือ จู่ๆ พลันโหม่งศีรษะใส่เต็มแรง

เพล้ง! กระเบื้องหินถูกศีรษะกระแทกจนแตกกระจาย

มุมปากหยวนฟางกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย พบว่าหยวนกังมักจะชอบทำเรื่องที่วิปริตอยู่เสมอจริงๆ ด้วย ทำร้ายเขายังพอเข้าใจได้ แต่ตอนนี้กระทั่งตัวเองก็ยังไม่เว้น!

หยวนกังเดินกลับมาที่กลางลาน กวักมือเรียกเขาอีกครั้ง “กลับมา!”

“…..” หยวนฟางพูดไม่ออก

หนิวโหย่วเต้ายื่นมือผลักหลังเขาทีหนึ่งพร้อมเอ่ยว่า “ไปเถอะ เขากำลังให้เจ้าช่วยฝึกฝนวรยุทธ์อยู่!”

ฝึกวรยุทธ์หรือ? หยวนฟางที่ถูกผลักลงบันไดใช้สมองใคร่ครวญดู เหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว

พอรู้เช่นนี้แล้ว เขาก็หยิบท่อนไม้ขึ้นมาจากพื้น เดินเข้าไปแล้วเอ่ยว่า “หยวนเหยี่ย เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะขอรับ”

“หยุดพูดไร้สาระ!” หยวนกังเอ่ยเสียงเย็นชา

ผัวะ! หยวนฟางหวดไม้ใส่ทันที ตีจนหยวนกังเซไปเล็กน้อย ปรากฏรอยแดงเส้นหนึ่งขึ้นบนแผ่นหลัง

“ฟู่ว!” หยวนกังพ่นลมหายใจออกมา หดแขนกำหมัดแนบเอว ย่อขาเป็นท่านั่งม้า[1] จากนั้นสูดหายใจลึกๆ คราหนึ่ง กล้ามเนื้อทั่วร่างหดเกร็งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เขาตะโกนสั่ง “เบาไป แรงขึ้นอีก!”

เบาไปหรือ? หยวนฟางจับไม้ด้วยสองมือ หวดใส่หลังหยวนกังดังผัวะ ท่อนไม้หักดังแคร่ก หยวนกังตั้งท่านั่งม้าอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเลยสักนิด

“เอาอีก!” หยวนกังปรายตาไปด้านข้าง

ตอนนี้ในที่สุดหยวนฟางก็เข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายขนท่อนไม้กองใหญ่กลับมาทำไม

เขาไม่พูดมากอีก เดินไปหยิบไม้ท่อนหนึ่ง จากนั้นเดินกลับมาแล้วหวดใส่หลังหยวนกังอย่างเต็มแรงอีกครั้ง ไม้หักดังแคร่กไปอีกครั้ง

หนิวโหย่วเต้าที่ยืนอยู่บนบันไดเอ่ยขึ้นมา “เจ้าหมี ถ้าเจ้าตีแบบนี้ ต่อให้โค่นต้นไม้ทั้งภูเขาก็ไม่พอใช้อยู่ดี ผสานกำลังภายในเข้าไปสักหน่อยเถอะ”

หยวนฟางพยักหน้ารับ หยิบไม้มาอีกท่อน ถ่ายเทกำลังภายในเข้าสู่ท่อนไม้ จากนั้นเอ่ยเตือนว่า “หยวนเหยี่ย หากว่าได้แรงตามที่ต้องการแล้วก็บอกนะขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า