ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 14

เซียวจิ่นหมิงรีบได้สติกลับมา เมื่อมองพิจารณาดู พบว่าบนตัวฉีซินจื่อเต็มไปด้วยตุ่มแดงมากมาย เป็นผดผื่นเต็มทั่วร่างกายอย่างหนาแน่น นางเกาขีดข่วนไปทั่วร่างกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่ ช่วยข้าด้วย จะต้องเป็นหยุนหรั่นเฟิงแน่ จะต้องนางทำร้ายข้าแน่"

เซียวจิ่นหมิงคิดขึ้นมาได้ว่า หยุนหรั่นเฟิงเคยบอกว่าห้ามมีอะไรกัน สีหน้าเย็นชาขึ้นมาทันที สะบัดแขนเสื้อหันหน้าไป พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไปหานาง”

ก่อนนอนหยุนหรั่นเฟิงไปในห้องทดลองแปบหนึ่ง รักษาบาดแผลบนไหล่ของตน แล้วก็ตรวจดูข้อมูลอุปกรณ์เครื่องมือภายในช่องว่างอย่างคร่าวๆ กว่าจะเสร็จแล้วได้นอนพักผ่อน ยังไม่ทันได้หลับ ประตูห้องถูกพังเปิดออกอย่างแรง

นางสะดุ้ง ถือกำสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้หมอนไว้อย่างอัตโนมัติ แล้วค่อยเงยหน้าหันไปมองเห็นเซียวจิ่นหมิงที่เข้ามาอย่างไม่บอกไม่กล่าว อดไม่ได้ที่จะกัดฟัน พร้อมพูดขึ้นว่า “เซียวจิ่นหมิง เจ้าเป็นบ้าอะไร”

“เอายาถอนพิษมาให้ข้า” เซียวจิ่นหมิงเยือกเย็นไปทั้งตัว ระหว่างคิ้วเผยให้เห็นถึงความโกรธที่ไม่อาจควบคุมได้

ปิ่นปักผมถูกทำลาย เดิมหยุนหรั่นเฟิงก็อัดอั้นตันใจอยู่แล้ว บวกกับความง่วงนอน จึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ยาถอนพิษ ไม่มี”

“ยังไงเจ้าก็เป็นถึงบุตรสาวตระกูลหยุน กลับไม่รักษาคำพูดขนาดนี้ ช่างทำให้ตระกูลหยุนของเจ้าอับอายขายหน้ายิ่ง” เซียวจิ่นหมิงพูดขึ้นอย่างโกรธโมโห

“ข้าทำให้ตระกูลหยุนอับอายขายหน้า?” หยุนหรั่นเฟิงโกรธจัดแล้วจริง พร้อมพูดขึ้นว่า “เซียวจิ่นหมิง เจ้าทำให้ตระกูลเซียวของเจ้ามีหน้ามีตาหรือ? เจ้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าไม่แตะต้องสินสอดของข้า อีกด้านก็เอาของของข้าไปให้ฉีซินจื่อ พูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง ที่แท้องค์ชายแปดเป็นคนแบบนี้ใช่ไหม”

สายตาเซียวจิ่นหมิงกลอกไปมา ความเยือกเย็นรอบกายยิ่งทวีเพิ่มมากขึ้น อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะลดต่ำลงหลายองศา พร้อมพูดขึ้นว่า “หยุนหรั่นเฟิง เจ้าพูดอะไรไปเรื่อย”

“ข้าพูดไปเรื่อย? พระชายารองฉีสวมปิ่นปักผมที่เป็นสินสอดของข้ามาอวดข้า พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเจ้าเป็นคนให้นาง ตอนนั้นมีคนอยู่ตั้งมากมาย ทำไม ไม่ยอมรับหรือ?”

เซียวจิ่นหมิงอึ้ง แล้วพูดขึ้นว่า “ปิ่นปักผม?” ในที่สุดเขาก็คิดขึ้นมาได้ ซินจื่อบอกว่าชอบปิ่นหยกในคลังอันหนึ่ง เขาจึงยกให้นาง แต่เขาไม่รู้ว่าสินสอดของหยุนหรั่นเฟิงก็อยู่ในห้องคลัง

หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “เห็นทีองค์ชายคงคิดขึ้นมาได้แล้ว ตอนกลางวันยังพูดอย่างมั่นใจว่า ไม่เกาะผู้หญิงกิน คิดไม่ถึงว่าลับหลังกลับทำไปนานแล้ว เอาสิ่งของภรรยาไปเอาใจสนม องค์ชายแปดหน้าของเจ้าล่ะ?”

เดิมเซียวจิ่นหมิงยังค่อนข้างรู้สึกผิด เมื่อนางพูดแบบนี้ สีหน้าก็เคร่งเครียด พร้อมพูดขึ้นว่า “หยุนหรั่นเฟิง ก็แค่ปิ่นปักผมอันเดียว ทำไมเจ้าจะต้องโกรธโมโหขนาดนี้”

“ใช่ สำหรับเจ้านั้นเป็นเพียงปิ่นปักผมอันหนึ่ง แต่สำหรับข้า เป็นมรดกที่แม่ของข้าเหลือไว้ให้” หยุนหรั่นเฟิงหัวเราะเย้ย แววตาเป็นประกายราวเกล็ดน้ำแข็ง พูดด้วยเสียงเยือกเย็นเฉียบคมว่า “ฉีซินจื่อเอามรดกของแม่ข้า เหยียบย่ำจนกลายเป็นผงต่อหน้าข้า เซียวจิ่นหมิง ข้าจะบอกเจ้า อยากได้ยาถอนพิษ ไม่มีวัน”

เซียวจิ่นหมิงอึ้ง

เขาคิดไม่ถึงว่าเพียงช่วงบ่ายสั้นๆ กลับเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้

“ข้าไม่รู้....”

ไม่รอให้เขาพูดจบ หยุนหรั่นเฟิงก็หัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ฉีซินจื่อ นางเป็นแค่สนม กลับทำร้ายข้าเหยียดหยามข้า นางมีสิทธิ์อะไร ข้าเป็นคนที่ฮ่องเต้ประทานพระราชโองการ หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่าว่าแต่นาง ต่อให้เป็นเจ้า ก็รับไม่ไหว”

ถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับหยุนหรั่นเฟิง เป็นการถูกเหยียดหยามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเซียวจิ่นหมิง นางยังกล้าพูดขึ้นมาอีก สายตาเฉียบคม พร้อมหัวเราะเย้ยพูดขึ้นมาว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าดิ้นรนเพื่อให้ได้มาไม่ใช่หรือ? เจ้าลงทุนทำทุกอย่าง ก็เพื่อต้องการสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ?”

หยุนหรั่นเฟิงพูดขึ้นอย่างปราดเปรียวว่า “ข้าเสียใจแล้ว เราหย่ากัน นับจากนี้ไป ไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก”

เซียวจิ่นหมิงจ้องมองดวงตาสดใสจนน่าทึ่งของผู้หญิงตรงหน้า นึกถึงเปลวเพลิงขึ้นมา หยุนหรั่นเฟิงในตอนนี้เป็นเหมือนอย่างไฟ พร่างพรายร้อนระอุ ราวกับสามารถเผาผลาญทุกสิ่งได้

ใบหน้าของเขามืดมน ถลึงใส่หยุนหรั่นเฟิง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอย่าหวัง เจ้าคิดว่าจวนองค์ชายแปด เจ้าอยากมาก็มา อยากไปก็ไปได้ง่ายๆหรือ เสียใจตอนนี้ สายไปแล้ว”

หยุนหรั่นเฟิงหรี่ตาลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเจ้าไม่ยอม งั้นเราก็อดทนกันต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าทนได้ ศิษย์น้องของเจ้าจะทนไหว.....”

เพิ่งพูดเสร็จ หางตาของนางเหลือบเห็นแสงวาบเย็นขึ้นมาอย่างชัดเจน

ยังไม่ทันได้พูดอะไร เซียวจิ่นหมิงกระโจนเข้ามา กดทับนางลงบนเตียง

ในขณะเดียวกัน มีเสียงแตกดังขึ้นเหนือหลังคา มีดเล่มยาวพุ่งเข้ามาจากหน้าต่าง ตัดเสาเตียงขาดทันที ม่านสีขาวตกลงมา ปกคลุมกันแน่นเหมือนก้อนเมฆ

ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมาก ใกล้ชิดจนสามารถเห็นตนในรูม่านตาของกันและกันได้อย่างชัดเจน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์