เซียวจิ่นหมิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดับไฟเล็กน้อยที่ลุกโชนขึ้นมาเพราะนาง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “เอายาถอนพิษมาให้ข้า”
หยุนหรั่นเฟิงกำลังหงุดหงิดอย่างมาก ได้ยินเซียวจิ่นหมิงมาเพื่อหายาถอนพิษให้กับฉีซินจื่ออีก ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ข้าคุกเข่าขอร้องข้า ข้าก็จะให้นาง”
สีหน้าเซียวจิ่นหมิงบูดบึ้ง พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาดว่า “ไม่ได้”
อาจารย์มีลูกสาวคนนี้เพียงฉีซินจื่อ ก่อนตายคนที่ไม่วางใจที่สุดก็คือนาง เขาก็รับปากว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี จะปล่อยให้นางต้องทนกับความอัปยศได้อย่างไร
หยุนหรั่นเฟิงเบ้มือ พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นข้าก็ไม่รู้จะทำยังไง ที่จริงพิษนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตุ่มบนใบหน้าของนาง ไม่กี่วันก็จะหายไปเอง ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยบอกแล้วว่าพวกเจ้าสองคนห้ามมีอะไรกัน ต่อไปขอเพียงพวกเจ้าไม่คิดมีอะไรกัน ยับยั้งความต้องการไว้ให้ดีก็พอแล้ว มีหรือไม่มียาถอนพิษ ก็ไม่เป็นไร”
จากนั้นไม่รอให้เซียวจิ่นหมิงได้พูดตอบ สายตาหยุนหรั่นเฟิงก็ตั้งใจมองลงไป จับจ้องดูตรงตำแหน่งบางอย่าง แล้วก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า “หากองค์ชายทนไม่ไหวจริงๆ ลองเปลี่ยนคนดูไหม? ยังไงจวนก็ออกจะใหญ่โตขนาดนี้ มีสนมน่ารักอ่อนหวานสักแปดคนสิบคนก็ไม่ใช่เรื่องยาก พระชายารอง เป็นกุลสตรีใจดีมีเมตตา ยังไงก็ไม่ปฏิเสธแน่”
สีหน้าเซียวจิ่นหมิงยิ่งอยู่ก็ยิ่งมืดครึ้ม อุณหภูมิภายในห้องลดลงไปหลายระดับ คลื่นแห่งความโกรธภายในดวงตาพัดกระหน่ำ
หยุนหรั่นเฟิงรีบก้าวถอยหลังไปสองเก้าอย่างระแวดระวัง....ผู้ชายสารเลวคนนี้คงไม่คิดที่จะลงมืออีกมั้ง?
เซียวจิ่นหมิงมองดูใบหน้าระแวดระวังของหยุนหรั่นเฟิงอย่างเย็นชา แล้วก็ขี้เกียจที่จะพูดมากกับนาง สะบัดแขนเสื้อแล้วก็ออกจากประตูไป
“เฮ้อ ยาถอนพิษไม่เอาแล้วจริงๆหรือ?” หยุนหรั่นเฟิงถามขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะคิกคัก
เซียวจิ่นหมิงไม่แม้แต่จะหยุดฝีเท้า เดินตรงออกไปอย่างเดียว เขาไม่เชื่อว่า ไม่มีนาง ก็จะไม่สามารถที่จะหายาถอนพิษได้
เงาร่างของเขาเหมือนดั่งลม หันตัวแล้วก็ออกไปจากเรือนทันที
เซียวจิ่นหมิงไปแล้ว หยุนหรั่นเฟิงเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีหลินหลังคอยปรนนิบัติ จากนั้นก็ทานข้าว ตอนนี้มีเงินแล้ว อาหารที่ทานก็ดีขึ้น
“คุณหนู พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่จะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านแล้ว ท่านมีปัญหากับองค์ชายแปดแบบนี้ เขาจะยอมกลับไปพร้อมกับท่านไหม....” หลินหลังคอยปรนนิบัติไปด้วย พูดขึ้นมาอย่างเป็นกังวลไปด้วย
มือหยุนหรั่นเฟิงที่ถือตะเกียบหยุดชะงัก
เฮ้อ ลืมเรื่องที่จะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านแล้ว
นางครุ่นคิดแล้วก็พูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้เขารับปากข้าแล้ว เป็นถึงองค์ชายคนหนึ่ง คงไม่ใช่คนไม่รักษาคำพูด.....”
แต่ปัญหาตอนนี้คือ.... นางไม่อยากกลับไปเยี่ยมบ้านแล้ว
ที่ผ่านมาหยุนหรั่นเฟิงอยากให้เซียวจิ่นหมิงรับปากกลับไปเยี่ยมบ้านกับนาง เพราะตอนนั้นนางอยากอาศัยโอกาสนี้ไปเจอพ่อของเจ้าของร่างเดิม
แต่เมื่อหลายวันก่อน ได้เจอแล้วอย่างบังเอิญ แล้วจะกลับไปจวนแม่ทัพใหญ่อีกทำไม? ไปสู้รบตบมือกับน้องสาวกับแม่เลี้ยงหรือ?
ในขณะที่กำลังพูด พ่อบ้านหลิวก็วิ่งมาเรือนเหอซินอย่างเร่งรีบ หลังจากทำความเคารพหยุนหรั่นเฟิงแล้ว แล้วก็ยื่นใบรายการฉบับหนึ่งมาให้ พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายา พรุ่งนี้ที่จะกลับไปเยี่ยมบ้าน นี่เป็นของขวัญที่จวนองค์ชายแปดเตรียมไว้ให้กับจวนแม่ทัพใหญ่ ท่านตรวจดูก่อน"
หยุนหรั่นเฟิงรับในรายการมา ดูอย่างลวกๆ พ่อบ้านหลิวคนนี้เป็นคนเก่าคนแก่ของจวนองค์ชายแปด คนพวกนี้เตรียมการ จัดการได้ดีพอสมควร สิ่งของในรายการไม่ถือว่าล้ำค่าเกินไป แต่มูลค่าก็ไม่ด้อยอย่างแน่นอน เอามาเป็นของขวัญเพื่อกลับไปเยี่ยมบ้านนั้น เหมาะสมอย่างมาก
แต่ตอนนี้นางไม่อยากกลับบ้านแล้ว....
สายตาหยุนหรั่นเฟิงกลอกไปมา จู่ๆก็บีบต้นขาอย่างแรง ซี๊ด
ทันใดนั้น บนใบหน้าที่สวยงามของนางปรากฏร่องรอยความเศร้า ยกมือขึ้นแนบอกแล้วสะอื้น สักพักน้ำตาก็คลอเบ้า ราวกับถูกกระทำอย่างน่าสงสาร ขบฟันขาว เนิ่นนานค่อยขยับริมฝีปาก พูดออกมาอย่างเต็มล้นไปด้วยความทุกข์ระทม
“ไม่กลับไปแล้ว”
พ่อบ้านหลิวตกตะลึงอ้าปากค้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋า? ไม่กลับแล้ว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...
รอตอนต่ออยู่นะค่ะ...
รบกวนอัพเดทตอนใหม่ให้ด้วยนะคะ รอรอรอ...
สนุกมาก รอตอนใหม่อยู่ค่ะ...
รอการอัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ😭...
รอการอัพเดทอยู่นะคะ...
❤❤❤...
รออ่านเรื่องนี้ตั้งหลายวันนนน...