ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ นิยาย บท 6

สรุปบท บทที่ 6 ลงมาจากบนตัวข้า: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์

สรุปตอน บทที่ 6 ลงมาจากบนตัวข้า – จากเรื่อง ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดย เธอเป็นดาวของฉัน

ตอน บทที่ 6 ลงมาจากบนตัวข้า ของนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติเรื่องดัง ราชินีหงสาร้อยเล่ห์ โดยนักเขียน เธอเป็นดาวของฉัน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนอีกด้าน เซียวจิ่นหมิง บุกมายังเรือนหยุนหรั่นเฟิงด้วยสายตาเฉียบคม

ปัง.....

เสียงกระหึ่มดังขึ้น ประตูถูกเตะเปิดออกอย่างแรง บานประตูชนผนังทั้งสองด้าน แล้วเด้งกลับอย่างแรง ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

หยุนหรั่นเฟิงตกใจ รีบออกมาจากช่องว่าง

นางเพิ่งนั่งอยู่บนเตียง เซียวจิ่นหมิงก็บุกมาเหมือนลมกระโชก ฝ่ามือใหญ่คว้าจับข้อมือของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างโกรธโมโหว่า “เอายาถอนพิษมา”

กว่าจะได้นอนหลับสบาย กลับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไฟแห่งความโกรธในใจหยุนหรั่นเฟิงกำลังลุกโชน ดวงตาที่งดงามเย็นยะเยือกแฝงไปด้วยเพลิงโกรธมองไปยังเซียวจิ่นหมิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ยาถอนพิษอะไร? กลางดึกแบบนี้ เจ้าเป็นบ้าอะไร? ป่วยก็รีบไปรักษา”

หางตาเซียวจิ่นหมิงเหลือบมองเรียวขาเรียวยาวคู่หนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ ภาพความทรงจำที่เคยถูกหยุนหรั่นเฟิงก่อกวนที่ผ่านมา ผุดขึ้นมาในความคิดของเขาทันทีอย่างควบคุมไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็หงุดหงิด ตะโกนเสียงดังด้วยความขยะแขยงว่า “ช่างไม่มีความอับอาย”

หยุนหรั่นเฟิงถูกด่าจนอึ้ง เมื่อได้สติกลับมา ในใจนึกขำ....เตียงยุคโบราณนี้แข็งเกินไป นางรังเกียจ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนนางยังถูกหมากัดบนเตียงนี้.....

นางจะไม่รังเกียจหรือ?

อีกอย่าง มีห้องพักผ่อนสบายระดับโรงแรมห้าดาวอยู่ในช่องว่าง นางจะยอมทรมานตนเองทำไม?

ยังไงก็ต้องนอนโรงแรมระดับห้าดาวสิ

แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากเปลี่ยนสวมชุดนอนแบบสายเดี่ยวอย่างเคยชินแล้ว ยังไม่นอนหลับก็ถูกปลุกโดยสุนัขบ้าที่บุกเข้ามา จนนางไม่ทันได้เปลี่ยนชุด....

หยุนหรั่นเฟิงส่งเสียงเมิน ทันใดนั้นก็นึกถึงสิ่งที่นางทำไว้ก่อนหน้านี้ กำเริบตอนนี้แล้วหรือ?

นางดึงไปที่กระโปรง จากนั้นก็ดึงผ้าห่มที่เลอะด้านข้างมาคลุมขาไว้ ค่อยพูดหยอกล้อขึ้นว่า “วันนี้เป็นวันเข้าห้องหอขององค์ชายกับศิษย์น้องอ่อนหวานไม่ใช่หรือ ทำไมถึงยังวิ่งมาหาข้าที่นี่? องค์ชายแปด หรือว่าท่าน...ทางด้านนั้นมีปัญหา?”

เซียวจิ่นหมิงรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดตรงๆของนาง ผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงไม่รู้จักอับอายขนาดนี้ อะไรก็ล้วนพูดออกมาได้?

เซียวจิ่นหมิงถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาอีกครั้งว่า “หยุนหรั่นเฟิง เจ้าทำอะไรซินจื่อกันแน่?”

หยุนหรั่นเฟิงกางมือออกอย่างคนพาล กะพริบตาแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะทำอะไรได้ ก็แค่ให้พระชายารองสุดที่รักของเจ้ายกน้ำชาให้ข้า เท่านั้นเองไม่ใช่หรือ? เรื่องแค่นี้นางก็ทำได้ไม่ดี กลับยังทำให้ข้าบาดเจ็บ ข้ายังใจกว้างไม่เอาเรื่องนาง ทำไม นางยังกลับมาแว๊งกัดข้าหรือ?”

เซียวจิ่นหมิงมองก็รู้ว่านางกำลังพูดโกหก ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์เพทุบาย

เขาหัวเราะเย้ยพร้อมเดินไปข้างหน้า ยื่นมืออย่างรวดเร็ว คว้าจับข้อมือของหยุนหรั่นเฟิงไว้ ออกแรงบีบรุนแรงจนแทบจะบีบกระดูกข้อมือของนางแหลกสลาย ใบหน้าดุดันขยับมาใกล้ พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่าคิดว่าไม่มีหลักฐาน ข้าก็จะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของเจ้า หยุนหรั่นเฟิง อย่าคิดใช้วิธีชั่วร้ายเพื่อดึงดูดความสนใจของข้า ข้าไม่มีวันชอบเจ้า ไม่มีทางไปตลอดชั่วชีวิตนี้”

“นับจากนี้ต่อไป เจ้าอยู่ในเรือนของเจ้าอย่างว่าง่าย หากทำอะไรชั่วร้ายอีก อย่าหาว่าข้าไม่ปรานีเจ้า”

หยุนหรั่นเฟิงเจ็บปวดปวดจนเหงื่อซึม จนใจที่ข้อมือถูกบีบแรงเกินไป นางไม่สามารถที่จะดิ้นรนได้ กลัวว่าจะถูกบีบจนกระดูกแหลก

ต่อให้ตอนนี้เซียวจิ่นหมิงย่ำแย่ขนาดไหน นางก็ยังคงไม่หายโมโห แต่ตอนนี้ข้อมือของนางสำคัญกว่า หยุนหรั่นเฟิงกำลังที่จะเตรียมรีบเข้าไปหายาในช่องว่าง นางจำได้มีว่าน้ำยาแก้ปวดเมื่อยอยู่

แต่นางก็ไม่กล้าประมาท ถึงแม้เซียวจิ่นหมิงจะถูกฉีดยาชาไปสามเข็ม แต่เข็มนั่นเป็นปรอมาณของหนูน้อยเท่านั้น หากผู้ชายสารเลวคนนี้ตื่นขึ้นมาจะแย่

นางครุ่นคิดสักครู่ จำได้ว่าภายในห้องพักผ่อนในช่องว่างยังมีธูปหอมช่วยในการนอนหลับ จึงล้วงเอาออกมาจุด จากนั้นค่อยเข้าไปในช่องว่างอย่างวางใจ รักษาข้อมือของตนเองอย่างง่ายๆ

ทาน้ำมันนวดอยู่สักพัก หยุนหรั่นเฟิงก็ไม่กล้านอนต่อในช่องว่าง ใครใช้ให้ภายในห้องนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญ?

นางออกมาจากภายในช่องว่าง มองดูผู้ชายบนพื้น สายตาแห่งความโกรธลุกวาว กระโดดลงมาจากเตียงอย่างไม่แม้แต่จะคิด ทั้งต่อยทั้งเตะเซียวจิ่นหมิงอย่างระบายแค้น เตะไปด้วยด่าไปด้วยว่า “คนสารเลว ใครใช้ให้เจ้ารังแกผู้หญิง ใครใช้ให้เจ้าบุกเข้ามาอย่างไม่บอกไม่กล่าว เตะเจ้าให้ตายไปเลย....ดูสิว่าเจ้ายังจะกล้าอวดดีไหม”

หยุนหรั่นเฟิงเหนื่อยจนหายใจหอบ ข้างหูไม่มีเสียงอวดดีของเซียวจิ่นหมิงที่ก่นด่าอย่างอวดดี รู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก พร้อมพูดขึ้นว่า “เสียดายที่ตอนนี้ข้าไม่มีกล้อง ไม่อย่างนั้นจะถ่ายภาพอัปลักษณ์ของเจ้าไว้ แล้วส่งไปให้คนทั่วทั้งเมืองจริงดู”

นางจ้องมองดูเซียวจิ่นหมิงบนพื้น ในใจแอบคิดว่า ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะสารเลว แต่ยังไงก็เป็นองค์ชายที่มีอำนาจทหารอยู่ในมือและเป็นองค์ชายคนโปรด หากนางฆ่าเซียวจิ่นหมิง ด้วยรูปร่าง กับกำลังของนางตอนนี้ อย่าว่าแต่จวนองค์ชายแปด แม้แต่เรือนนี้ก็ไม่สามารถเดินออกไปได้....

“ทำอย่างไรดีล่ะ?” หยุนหรั่นเฟิงครุ่นคิดไปด้วย มองพิจารณาดูเซียวจิ่นหมิงไปด้วย ท่าทางของเขาในตอนนี้คือก้มหน้าลงกับพื้น นานราบแขนขาไม่สามารถขยับได้....

เหมือนเต่าตัวหนึ่ง

ทันใดนั้นก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ นางเคลื่อนไหวความคิด หยิบปากกามาร์กเกอร์มาจากในช่องว่าง มองดูใบหน้าหล่อเหลาคมคายของอีกฝ่าย ยิ้มหัวเราะขึ้นมาอย่างชั่วร้าย สายตาเต็มไปด้วยความไม่หวังดี พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่มีความปรานีก่อน อย่าหาว่าข้าใจร้าย ไหนๆก็มาแล้ว ไม่มอบของขวัญให้เจ้าหน่อย จะไม่เป็นการยุติธรรมกับข้าที่ถูกกระทำ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีหงสาร้อยเล่ห์