เพราะรู้ว่ายังไงเขาก็เอาชนะเธอไม่ได้ เจนสันจึงหยุดเดิน
วิทนีย์มาหยุดตรงหน้าเขา ใบหน้าของเธอโศกเศร้า “เธอชอบพวกผู้หญิงที่เรียนวิชามารยาทจริง ๆ เหรอ หรือว่าแค่เป็นข้ออ้างให้ฉันออกไปจากชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้?”
เจนสันจ้องมองสายตาจริงจังของวิทนีย์ “ฉันแค่คิดว่าเธอควรไปเข้าชั้นเรียนมารยาทบ้าง จะได้ลบรังสีป่าเถื่อนในตัวเธอลงไป”
วิทนีย์บอก “งั้นถ้าฉันไปเรียนมารยาทแล้วนายจะชอบฉันใช่ไหม?”
เจนสันขมวดคิ้ว
“ฉันไม่ยอมผู้หญิงที่เที่ยวไปทำตัวคลุกคลีกับพวกผู้ชาย” เจนสันบอก
วิทนีย์นึกได้ว่าเธอมักจะไปแตะเนื้อต้องตัวกับพวกผู้ชายเสมอเวลาที่ต่อสู้ กลายเป็นว่านั้นเป็นสิ่งที่เกินกว่าเจนสันผู้เป็นโรคกลัวเชื้อโรคจะรับไหว
“ก็ได้ งั้นฉันจะทำตามที่นายบอก เวรจริง ๆ จากนี้ไปฉันก็จะไม่สู้กับใครอีกแล้ว”
เจนสันมองเธอ “ฉันไม่ชอบผู้หญิงที่พูดคำหยาบเหมือนกัน”
วิทนีย์รีบเอามือปิดปาก “โอเค ฉันยอมปัญญาอ่อนดีกว่าจะพูดคำหยาบ”
เจนสันมองวิทนีย์…
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เธอมักจะมาอยู่เคียงข้างเขาเสมอในตอนที่เขาเหงาหรือคิดถึงบ้าน
เธอเป็นเหมือนนกกระจอกที่ร้องจิ๊บ ๆ ไม่หยุด เธอช่วยขับไล่ความเศร้าและความหงุดหงิดใจของเขาไป
อาจจะเป็นเพราะนิสัยที่แก่เกินวัยของเขา เขามักมองวิทนีย์เป็นเหมือนน้องสาวของเขาทั้ง ๆ ที่เธอแก่กว่าตั้ง 5 ปี
วิทนีย์ถามอย่างระมัดระวัง “เธอมีเงื่อนไขอย่างอื่นอีกไหม เจนส์?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!