”พ่อคงไม่เชื่อจริง ๆ ว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านพันธุวิศวกรรมหรอกนะ?”
สเปนเซอร์โดนคำพูดนี้ปลุกให้ตื่นแล้วจ้องเจย์ “เจ้าหนู แกเกือบหลอกฉันได้แล้ว แกพยายามจะสร้างความแตกแยกระหว่างฉันกับลูกชายเหรอ?”
เจย์ไม่ได้สนใจจะทำเรื่องไร้สาระอะไรแบบนั้น เขาแค่พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับร็อบบี้น้อยจากสเปนเซอร์เท่านั้น
เมื่อเขาเห็นสีหน้าของสเปนเซอร์และคนอื่น ๆ มันก็ชัดแล้วว่าองค์กรโลกาวินาศไม่มีพฤติกรรมจับตัวประกันกลับมาที่บ้าน
หากว่าเป็นเช่นนี้ก็เป็นไปได้ยากที่ร็อบบี้น้อยจะอยู่ที่ภูเขามุกนี่
ดวงตาแองเจลีนเริ่มมีน้ำตาเอ่อ ตอนนี้เมื่อลูกโป่งแห่งความหวังของเธอแตกไปแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจสลายแหลกลาญ
ตอนนี้สเปนเซอร์ก็หมดความอดทนแล้ว เขาสั่งพวกคอร์เวตต์ “เจ้าหมอนี่ปากไม่ดี หากว่าเราปล่อยให้มันหลุดไปได้ มันต้องทำให้เรื่องต่าง ๆ บานปลายแน่ ระเบิดมันให้แหลกไปซะ”
ตอนแรกเซย์นและคนอื่น ๆ ต่างก็ยืนอยู่รอบ ๆ และมองเจย์หลอกล่อพ่อลูกยอร์ก แต่ทันทีที่ได้ยินคำสั่งของสเปนเซอร์ พวกเขาก็กลัวมากจนเอามือกุมหัวและวิ่งหลบไปทั่ว
“ให้ตายเถอะคุณพระคุณเจ้า ฉันไม่อยากตาย”
อาวุธของพวกคอร์เวตต์เตรียมพร้อม ตามด้วยเสียงฟื้ว ๆ ของอาวุธ ตอนที่พวกเขาเริ่มเหนี่ยวไก เจย์และเกรย์สันก็สบตากันพร้อมขยับในเวลาเดียวกัน เจย์ไปอยู่ตรงหน้าโคลในชั่วพริบตา
เสี้ยววินาทีต่อมาอุ้งมือของเจย์ก็กำไว้รอบคอโคลแน่น เขานั้นเกลียดชังโคลลึกถึงแก่นอยู่แล้ว เขาจึงไม่ออมมือแม้แต่น้อยในการข่มขู่ครั้งนี้
ใบหน้าโคลเปลี่ยนเป็นสีเขียวละม่วงเพราะขาดอากาศหายใจ
“นายท่านยอร์ก บอกให้คนของคุณวางอาวุธซะไม่งั้นผมฆ่าลูกชายคุณแน่” เจย์ขู่
เพราะว่าโคลเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา ในใจของสเปนเซอร์ก็ตระหนกมาก แต่ว่าด้วยนิสัยการเป็นผู้นำของเขา เขาจึงพูดออกมาอย่างสงบนิ่งและไม่มีทีท่าตระหนกว่า “หากว่าแกฆ่าเขา ก็อย่าคิดเลยว่าจะก้าวออกจากป้อมตระกูลยอร์กไปได้ ฉันจะไม่มีทางเอาความปลอดภัยของป้อมมาแลกเพื่อช่วยชีวิตลูกชายหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!