เมื่อพวกเขาผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย เด็กก็เริ่มเชื่อใจฟินน์
“แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะ?” เจย์มีความสงสัย พ่อแม่แบบไหนจะยอมยกลูกให้กับคนภายนอกอย่างง่ายดายเช่นนั้น? มันช่างดูน่าเหลวไหลสำหรับเขา
เจย์และเซ็ตตี้น้อยได้พบกันสองครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยพบกับพ่อแม่ของเธอมาก่อน
เขาคิดตามหลักการว่าพ่อแม่ของเซ็ตตี้น้อยต้องขาดการสั่งสอนและให้ความรู้แก่ลูกเป็นแน่ ชีวิตรักของพวกเขาคงต้องประหลาดแปลกน่าดู
เซ็ตตี้น้อยมองเจย์ด้วยความเศร้าโศกในดวงตาของเธอ
“พวกเขาหย่ากันเหรอ?” เขาสรุปออกมาอย่างใจกล้า
เซ็ตตี้น้อยส่ายหัว “พวกเขาจะไม่หย่ากันหรอกค่ะ พ่อของหนูเชื่อว่าจะมีแค่พ่อม่ายและแม่ม่ายเท่านั้นค่ะ ไม่มีการหย่าร้าง คุณพ่อกับคุณแม่รักกันมาก ท้ายสุดแล้วคุณพ่อของหนูก็ยกทุกอย่างให้คุณแม่ รวมถึงชีวิตของเขาด้วยค่ะ”
จู่ ๆ เจย์ก็นึกถึงวลีที่ว่า ‘ความรักที่เร่าร้อนมากเกินไปนั้นอยู่ได้ไม่นาน’
เขาเป็นคนดีและเขาสงสัยว่าเขาได้รับกรรมที่เขาควรจะได้รับหรือยัง
“แล้วคุณแม่ของหนูล่ะ?”
เธอทิ้งลูกแล้วแต่งงานใหม่เหรอ?
น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาของเซ็ตตี้น้อย “คุณแม่อยากไปกับคุณพ่อค่ะ คุณแม่ก็เลยกรีดข้อมือตัวเอง แต่คุณลุงของหนูช่วยชีวิตเธอเอาไว้ หลังจากนั้น 49 วัน คุณแม่บอกว่าเธอไม่สามารถตามคุณพ่อไปได้แล้วแม้แต่ชีวิตหลังความตายก็ตาม เธอจึงรอเขาอยู่ที่นี่”
น้ำตาในดวงตาของเซ็ตตี้น้อยเป็นส่องประกายวาววับ “หลังจากที่คุณพ่อจากไป ร่างกายของคุณแม่ก็อ่อนแอมาตลอด เพราะฉะนั้นพี่ฟินน์เลยรับหน้าที่สอนและชี้แนะหนูแทน”
เจย์ตกใจมากจนต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะหลุดจากออกมันได้
มันช่างเหมือนกับเนื้อเพลง Red spider lily :
‘คุณคือโลกของฉัน
ไม่มีคุณ
โลกของฉันจะพังทลาย
นอกจากความประหลาดใจอย่างมากแล้ว เจย์พบว่าตัวเองเริ่มอิจฉา
ยังมีความรักหวาน ๆ ในโลกใบนี้ที่ทำให้ใคร ๆ ก็ต่างอิจฉาขนาดนี้เลยหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!