มู่ซีซีกำลังจะพูดบางสิ่ง แต่ทางด้านแม่มู่ก็พูดขัดจังหวะเธอเสียก่อน แม่มู่แสดงสีหน้าที่ภาคภูมิใจและหันหน้ามองพ่อมู่และมู่ซีซี "นี่ต้องขอบคุณมู่อวี๋เฟยของเรา จะต้องเป็นอวี๋เฟยที่เข้าไปพูดคุยกับคุณชายจี้ ไม่เช่นนั้นคุณชายจี้จะมอบเงินตั้งมากมายมหาศาลให้แก่เราได้อย่างไร" แม่มู่กล่าวอย่างปิติยินดี สีหน้าของเธอยิ้มดั่งดอกไม้ผลิบาน
ทางด้านพ่อมู่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเมื่อได้ฟังแม่มู่กล่าวแล้ว เขาก็พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ อย่างไรก็ตามในตอนนี้ในสายตาของคนในบ้านมู่อวี๋เฟยก็คือภรรยาของจี้หลิงชวน ใครก็ไม่สามารถคิดได้ว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้นเป็นเพราะมู่ซีซี
"อย่างไรก็ตามครั้งนี้คุณชายจี้ช่วยบริษัทของเราไว้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะพูดอย่างไรพวกเราก็ต้องแสดงความขอบคุณต่อเขา" ทันใดนั้นคุณพ่อมู่ก็พูดออกมา หลังจากที่เขาพูด เขาก็ครุ่นคิดและมองไปยังแม่มู่พร้อมกับกล่าวว่า "ใช่แล้ว คุณให้มู่อวี๋เฟยโทรหาเขา เชิญคุณชายจี้มาทานข้าวที่บ้านของเรากัน"
เมื่อมู่ซีซีได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเธอก็เต้นตึกตักในทันที เธอมองดูพ่อมู่ที่กำลังพูดและเธอกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ความคิดนี้หายไปจากพ่อมู่ แม่มู่ที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นทันทีและรีบกล่าวตอบรับ "เป็นความคิดที่ดี! ฉันจะให้มู่อวี๋เฟยของเราโทรไปหาเขาเดี๋ยวนี้!"
ในตอนนี้แม่มู่ต้องการที่ปฏิบัติต่อลูกเขยอย่างดี
โดยที่ไม่ให้โอกาสมู่ซีซีได้กล่าวอะไรออกมา แม่มู่จึงหยิบโทรศัพท์และกดหมายเลขของมู่อวี๋เฟยจากนั้นก็เดินออกไป
"อวี๋เฟย ต้องขอบใจลูกของแม่มาก ตอนนี้บริษัทของพวกเราได้รับการแก้ไขปัญหาแล้ว ที่แท้ก็เป็นเพราะความเข้าใจผิด ตอนนี้ไม่เพียงแต่บริษัทของเราจะดีเท่านั้น แต่ยังดีขึ้นกว่าเก่าอีกด้วย ใช่แล้ว อวี๋เฟย พวกเราอยากจะชวนคุณชายจี้มาทานข้าวเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ หนูรีบไปคุยกับคุณชายจี้เร็วเข้า" แม่มู่คุยโทรศัพท์และพูดจาด้วยรอยยิ้มสดใส
มู่อวี๋เฟยที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ เมื่อได้ยินเช่นนั้นกลับรู้สึกสับสนขึ้น เมื่อคืนเธออยู่ที่บ้าน ทำอาหารด้วยตัวเองและรอให้จี้หลิงชวนกลับจากเลิกงาน แต่กระทั่งรุ่งเช้ามู่อวี๋เฟยก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของจี้หลิงชวน มู่อวี๋เฟยนั่งรออยู่บนโซฟาตลอดทั้งคืนก็ไม่เห็นว่าจี้หลิงชวนกลับบ้าน เธอคิดว่าเธอจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการปิดบริษัทของเธอในวันนี้ แต่กลับไม่คาดคิดว่าเรื่องราวต่างๆจะพลิกผัน
แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าบริษัทของบ้านเธอจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
เป็นคุณชายจี้ที่แสดงความใส่ใจต่อเธอและแสดงความเมตตาต่อลูกน้องในบริษัทของเธอ เมื่อคิดได้เช่นนั้น มู่อวี๋เฟยก็ยิ้มกว้างในทันที เธอตอบรับโดยไม่ลังเลใจ "ได้ แม่ ฉันเข้าใจแล้ว รอฉันโทรหาจี้หลิงชวนและบอกเรื่องนี้กับเขา"
หลังจากวางสายแล้ว มู่อวี๋เฟยก็กดโทรศัพท์โทรหาจี้หลิงชวนอย่างดีอกดีใจ
หลังจากรอสายอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายแล้วสายก็ตัดไปอย่างอัตโนมัติ จี้หลิงชวนไม่รับสายของเธอ สีหน้าของมู่อวี๋เฟยที่ดีอกดีใจกก็กลายเป็นแข็งทื่อในทันที
อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากของตนเอง เธอกดหมายเลขโทรศัพท์ของจี้หลิงชวนและพยายามโทรหาเขาอีกครั้ง
โทรศัพท์ดังขึ้นครู่หนึ่งและในที่สุดก็สามารถติดต่อได้
ทันทีที่ติดต่อได้ มู่อวี๋เฟยก็รีบกล่าวทันทีว่า "คุณชายจี้ ฉันเอง! มู่อวี๋เฟย!"
เมื่อสิ้นเสียงของมู่อวี๋เฟย ปลายสายโทรศัพท์ก็มีเสียงที่เย็นชาของจี้หลิงชวนดังขึ้น "มีอะไร?"
มู่อวี๋เฟยไม่ได้สังเกตเห็นความเฉยเมยและความเหินห่างในน้ำเสียงของจี้หลิงชวน เธอกล่าวอย่างดีใจว่า "คุณชายจี้ พ่อและแม่ของฉันอยากชวนคุณไปทานอาหารที่บ้านเพื่อแสดงความขอบคุณ คืนนี้คุณมีเวลาว่างไหม?"
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของมู่อวี๋เฟย เขาคิดจะปฏิเสธ แต่ในสมองของเขาจู่ๆก็ปรากฎใบหน้าที่งดงามของมู่ซีซี
มุมปากของจี้หลิงชวนกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุ และทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนความคิด "เอาสิ ช่วงบ่ายเดี๋ยวผมจะเข้าไปรับคุณ"
เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ยินคำตอบรับของจี้หลิงชวน เธอก็รีบกล่าวผ่านทางโทรศัพท์ด้วยความดีใจ "ได้เลยคุณชายจี้ ฉันจะรอไปพร้อมกับคุณ...."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...