พ่อมู่และแม่มู่ที่อยู่ด้านข้าง ทั้งสองต่างดีอกดีใจและมีความสุข แต่พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของจี้หลิงชวน พวกเขาต่างก็ต้อนรับจี้หลิงชวนและมู่อวี๋เฟยเข้าไปในห้องรับแขก
แม่มู่ชงชาให้กับจี้หลิงชวนและมู่อวี๋เฟยด้วยตนเอง เดิมทีแม่มูก็ยังต้องการพูดกับจี้หลิงชวนเพื่อเพิ่มความสนิทสนม แต่สีหน้าของจี้หลิงชวนเย็นชาและเผยให้เห็นว่าไม่ต้องการสนิทสนมกับคนแปลกหน้า เมื่อเป็นเช่นนั้นคำพูดทุกอย่างก็กลืนหายไป
ในห้องรับแขกขนาดใหญ่ บางครั้งมีเพียงเสียงของมู่อวี๋เฟยและแม่มู่พูดคุยกันเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วการสนทนาระหว่างมู่อวี๋เฟยและแม่มู่ก็เริ่มอึดอัด โชคดีที่สาวใช้เข้ามาได้ทันเวลาและกล่าวกับทุกคนว่า "คุณท่าน คุณหญิ่ง อาหารค่ำเตรียมพร้อมแล้ว"
เมื่อพ่อมู่และแม่มู่ได้ยินคำบอกกล่าวของสาวใช้ ทั้งสองต่างก็โล่งใจ พวกเขาไม่ต้องเผชิญกับความเยือกเย็นของจี้หลิงชวน
พ่อมู่และแม่มู่ชวนจี้หลิงชวนและมู่อวี๋เฟยเข้าไปในห้องอาหาร ต่างคนต่างก็นั่งในที่ของตน
จี้หลิงชวนที่ไม่พูดจาอะไรตั้งแต่ตอนที่ก้าวเข้ามาภายในบ้าน ขณะนี้สายตาของเขามองไปยังที่นั่งตรงข้ามกับเขา บริเวณนั้นยังคงว่างอยู่ ในที่สุดเขาก็เริ่มพูดประโยคแรกของค่ำคืนนี้ "คุณลุง ผมจำได้ว่ามู่อวี๋เฟยมีน้องสาว?"
ทันทีที่สิ้นเสียงของจี้หลิงชวน สายตาของทุกคนในตอนนั้นต่างก็จ้องมองมาที่เขา
มู่อวี๋เฟยที่นั่งถัดจากจี้หลิงชวนก็จ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่เคลือบแคลงและระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าจี้หลิงชวนไม่ได้มีท่าทีโกรธเคือง ภายในใจของเธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่เธอกลับอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอยู่ดีๆคุณชายจี้ถึงกล่าวถึงนังมู่ซีซีขึ้นมา?
มู่อวี๋เฟยระงับความรู้สึกแปลกๆภายในใจของเธอ เธอมองจี้หลิงชวนและยิ้มให้กับเขาพร้อมอธิบาย "คุณชายจี้ ฉันมีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง แต่ตอนนี้เธอยังคงอยู่ที่โรงเรียน ในตอนนี้เธออาจไม่ได้กลับมา"
เมื่อมู่อวี๋เฟยกล่าวเช่นนี้ แม่มู่ที่อยู่ด้านข้างก็พูดออกมาทันทีโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง "วันนี้ตอนที่มู่อวี๋เฟยโทรมาบอกว่าพวกคุณตกลงจะมาทานอาหารเย็นที่บ้าน เด็กคนนั้นเองก็อยู่บ้านพอดีแล้วเด็กคนนั้นก็บอกว่าที่โรงเรียนมีเรื่องด่วนต้องไปจัดการและจะไม่กลับมาทานอาหารที่บ้าน"
จี้หลิงชวนที่อยู่ด้านข้าง เขาไม่กล่าวอะไรเพียงแต่หรี่สายตาลง เหอะ สามารถพูดได้ว่ามู่ซีซีรู้ว่าในคืนนี้เขาจะมาทานข้าวเย็นที่บ้าน ดังนั้นเธอจึงจงใจที่จะไม่กลับบ้านมาทานข้าว
เหอะ นิสัยแย่ๆที่ชอบหลบหน้าเขา ดูเหมือนว่าเขาจะต้องสั่งสอนเธอเสียหน่อยแล้ว!
จี้หลิงชวนไม่ได้กล่าวถึงมู่ซีซีอีก พ่อมู่ แม่มู่และมู่อวี๋เฟยก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้
หลังจากที่เจ้าภาพได้เพลิดเพลินไปกับอาหารค่ำ พ่อมู่และจี้หลิงชวนก็ดื่มชาด้วยกัน เขาพูดคุยกับจี้หลิงชวนเป็นครั้งคราว พ่อมู่รู้ว่าจี้หลิงชวนชอบเล่นหมากล้อม พ่อมู่เองก็สนใจและเล่นหมากล้อม แต่เขาเป็นคนเดียวภายในบ้านที่สามารถเล่นหมากล้อมได้ ตอนนี้เขาก็รู้ว่าจี้หลิงชวนเองก็ชอบเล่น ดังนั้นเขาจึงชวนให้จี้หลิงชวนมาเล่นหมากล้อมกับเขา
จี้หลิงชวนชำเลืองมองนาฬิกาด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว เขาเองก็อยากรู้ว่ามู่ซีซีจะหลบหน้าเขาไปถึงเมื่อไหร่
เมื่อคิดเช่นนั้น มุมปากของเขาก็กระตุกอย่างมีเล่ห์นัย และเขาก็ไม่ปฏิเสธคำเชิญชวนการเล่นหมากล้อมของพ่อมู่
หลังจากที่เล่นหมากล้อมจบแล้วก็เป็นเวลาประมาณสองทุ่ม
หูของจี้หลิงชวนนั้นให้ความสนใจกับเสียงของประตูอยู่เสมอ และในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของประตู นิ้วเรียวยาวของเขาก็หยุดนิ่งในทันที ขณะนั้นมุมปากของเขาก็กระตุกเล็กน้อย
มู่ซีซีผลักประตูบ้านและก้าวเข้ามาจากนั้นเธอเรียกพ่อและแม่ของเธอ "พ่อ แม่..."
ทันทีที่พูดจบ สายตาของมู่ซีซีก็เหลือบเห็นจี้หลิงชวนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกับพ่อของเธอ มู่ซีซีตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...