สภาพครอบครัวของลั่วเสี่ยวชิงไม่ค่อยดีเลย เช่นเดียวกับมู่ซีซีเมื่อก่อนนี้ พวกเธอต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย มู่ซีซีดีใจกับลั่วเสี่ยวชิงจริง ๆ เธอยิ้มและพูดกับลั่วเสี่ยวชิงว่า:" ถ้าเช่นนั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับเธอก่อน”
มู่ซีซีได้สั่งเมนูอาหารที่ตัวเองชอบเสร็จแล้วก็ส่งเมนูอาหารให้กับลั่วเสี่ยวชิง หลังจากที่ทั้งสองสั่งอาหารไปได้ไม่นาน อาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟแล้ว
ทั้งสองคนทานอาหารไปด้วยและพูดคุยไปด้วย มู่ซีซีบอกว่าช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เรื่องราวเกี่ยวกับชาติตระกูลของตัวเองและ เหตุการณ์การถูกลาพาตัวที่มู่อวี๋เฟยเป็นคนบงการ เธอได้เล่าให้ลั่วเสี่ยวชิงฟังทุกเรื่อง
หลังจากที่ลั่วเสี่ยวชิงได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วเธอก็ทำท่าทางตกตะลึงและตกใจกลัวจนเอามือทาบหน้าอกของเธอพร้อมพูดกับมู่ซีซีว่า: "โอ้พระเจ้า มู่อวี๋เฟยก็บ้ามากเกินไปแล้ว! โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ มันน่ากลัวเกินไปแล้วจริง ๆ"
ในขณะที่พูดอยู่นั้นลั่วเสี่ยวชิงก็กุมมือของมู่ซีซีรีบถามอย่างรวดเร็วว่า: "แล้วต่อมามู่อวี๋เฟยเป็นอย่างไรบ้าง?เธอถูกตำรวจจับไปแล้วหรือยัง?"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ในใจของมู่ซีซีก็รู้สึกวิตกกังวลและไม่สามารถอธิบายได้ เธอส่ายหัวให้กับลั่วเสี่ยวชิง: "มู่อวี๋เฟยกระโดดลงไปในแม่น้ำแล้ว และไม่รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว"
ลั่วเสี่ยวชิงตัวสั่นเทาขณะที่ฟังและจ้องมองมู่ซีซีพร้อมพูดขึ้นว่า: "มู่อวี๋เฟยกล้าทำกับตัวเองขนาดนี้เธอช่างโหดร้ายเกินไปแล้ว……”
ในขณะที่ลั่วเสี่ยวชิงพูดอยู่นั้นก็เห็นว่าสีหน้าของมู่ซีซีซีดเผือด และมองไปที่มู่ซีซีด้วยความรู้สึกผิดจึงปลอบโยนเธอ: "เราเปลี่ยนเรื่องคุยกันเถอะนะ เธอไม่ต้องกังวล ต่อไปนี้เวลาออกจากบ้านก็ระมัดระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน"
"อืม" หลังจากที่มู่ซีซีฟังแล้วก็พยักหน้า จากนั้นลั่วเสี่ยวชิงก็เปลี่ยนเรื่องคุยกับมู่ซีซี
หลังจากทานอาหารเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว ในตอนบ่ายมู่ซีซีก็ถูกลั่วเสี่ยวชิงลากไปช้อปปิ้งต่ออีกสักพัก เมื่อเห็นว่าใกล้จะห้าโมงเย็นแล้วคงถึงเวลาที่จี้หลิงชวนจะกลับมาแล้วล่ะ ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้นเธอก็ได้บอกลาลั่วเสี่ยวชิง
หลังจากนั่งแท็กซี่กลับคฤหาสน์แล้ว ป้าหลิงก็กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่
มู่ซีซีเหลือบดูเวลาก็เกือบจะหกโมงเย็น โดยปกติห้าโมงเย็นจี้หลิงชวนก็เลิกงานแล้ว ตามหลักแล้วเวลานี้เขาก็น่าจะกลับมาถึงบ้าน
ในขณะที่มู่ซีซีคิดอยู่นั้นเธอก็เดินไปที่ประตูห้องครัวและถามป้าหลิงว่า: “ป้าหลิงคะ คุณชายจี้ยังไม่กลับมาอีกเหรอคะ?”
“ยังไม่กลับมาเลยค่ะ” ป้าหลิงส่ายหัวให้กับมู่ซีซี
มู่ซีซีขึ้นไปเก็บกระเป๋าที่ชั้นบน แล้วเดินลงชั้นล่างเพื่อช่วยป้าหลิง เธอยุ่งอยู่นานกว่า 20 นาที ก็ยังไม่เห็นจี้หลิงชวนกลับมา จนทำให้มู่ซีซีรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
อาหารกลิ่นหอมถูกเสิร์ฟไว้บนโต๊ะทีละจาน มู่ซีซีนั่งลงที่โต๊ะอาหาร แววตาจ้องมองไปที่โต๊ะอย่างว่างเปล่า ขณะที่กลิ่นหอมของอาหารค่อย ๆจางลงอย่างช้า ๆ
หลังจากรอเกือบชั่วโมง จี้หลิงชวนก็ยังไม่กลับมา มู่ซีซีเหลือบดูเวลาบนนาฬิกาแขวน นี่มันก็ทุ่มครึ่งแล้ว
ป้าหลิงที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเช่นนี้จนทนดูต่อไปไม่ไหวก็รีบพูดกับมู่ซีซีด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า: “คุณหนูซีซี เอาแบบนี้ไหมคะเดี๋ยวป้าเอาอาหารไปอุ่น คุณหนูทานอะไรก่อนดีไหมคะ”
ช่วงกลางวันมู่ซีซีเดินช้อปปิ้งกับลั่วเสี่ยวชิง เธอก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย เวลานี้ท้องของเธอหิวมาก แต่ดูเหมือนว่ามู่ซีซีจะหิวเกินไป มองดูอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะแต่เธอก็ไม่รู้สึกอยากทานเลย เธอรีบส่ายหัวให้ป้าหลิงพร้อมพูดว่า: “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องแล้วค่ะ ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”
ป้าหลิงจึงทำได้เพียงเดินถอยกลับไปอย่างเงียบๆ
น้อยมากที่จี้หลิงชวนจะไม่กลับมาทานอาหารเย็นแบบนี้ แม้ว่าบางครั้งเขาจะไม่สามารถกลับมาทานอาหารได้เขาก็จะโทรแจ้งเธอก่อนทุกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่จี้หลิงชวนทำเช่นนี้
ในขณะที่คิดอยู่นั้นมู่ซีซีรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูกจนต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และเธอก็อดไม่ได้ที่จะกดโทรหาจี้หลิงชวนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...