"ในตอนนี้เธออยู่ที่ศูนย์การแพทย์ซีไน่ชาน ฉันได้พูดคุยกับแพทย์ที่นั่นแล้ว ตอนนี้เธอไม่ได้บาดเจ็บถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต แกไม่ต้องกังวล" เวินจิ่งอธิบาย
"อืม ฉันเข้าใจแล้ว" หลังจากจี้หลิงชวนพูดจบเขาก็วางสาย จากนั้นเขาก็เรียกแท็กซี่และตรงไปยังศูนย์การแพทย์ซีไน่ชาน
เวินจิ่งไม่วางใจที่จะให้เขาไปเพียงลำพัง เมื่อวางสายโทรศัพท์เขาก็ตรงไปยังโรงพยาบาลเช่นกัน
เวินจิ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนักและเขามาถึงเร็วกว่าจี้หลิงชวน เขารอบริเวณประตูทางเข้าโรงพยาบาลประมาณ20นาที จากนั้นเขาก็เห็นจี้หลิงชวนที่กำลังลงจากรถแท็กซี่
จี้หลิงชวนเองก็เห็นเวินจิ่ง เมื่อทั้งคู่สบสายตากัน เวินจิ่งเห็นท่าทางกังวลใจของพี่น้องเขา เขาจึงพยักหน้าให้กับจี้หลิงชวนและพูดว่า "ฉันจะพาแกไปพบเธอที่ห้องพักผู้ป่วยก่อน"
เวินจิ่งกำลังศึกษาปริญญาเอกด้านการแพทย์ในสหรัฐอเมริกา เขามักจะมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับอาจารย์เพื่อเข้าร่วมการผ่าตัดที่สำคัญ ดังนั้นเวินจิ่งจึงคุ้นเคยกับโรงพยาบาลเป็นอย่างดี
ผู้ที่คุ้นเคยกับถนนหนทางได้เดินนำจี้หลิงชวนไปยังแผนกผู้ป่วยใน หลังจากที่เขานำจี้หลิงชวนไปยังห้องพักผู้ป่วยแล้วเวินจิ่งก็พูดกับจี้หลิงชวนว่า "อยู่ในห้องนี้ แกเข้าไปก่อน หลังจากที่แกเจอเธอแล้ว ฉันจะเล่ารายละเอียดให้แกฟัง"
จี้หลิงชวนพยักหน้า เวินจิ่งเดินไปและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างทางเดิน
จี้หลิงชวนยืนอยู่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วย มือของเขาที่กำลังเหยียดออกไปและสัมผัสประตูนั้นแข็งทื่อในทันที ความรู้สึกต่างๆพรั่งพรูเข้ามา ชูเหยานั้นหายตัวไปเป็นเวลาห้าปี ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาจี้หลิงชวนไม่เคยเลิกตามหาตัวชูเหยา แต่เหมือนกับว่าชูเหยานั้นได้จากเขาไปแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะตามหาอย่างไรจี้หลิงชวนก็ตามหาเธอไม่พบ
แต่จู่ๆทันใดนั้น บุคคลที่เขาตามหามาเป็นระยะเวลาห้าปีก็ปรากฏตัวขึ้น จี้หลิงชวนนั้นกลัวจริงๆว่านี่อาจเป็นเพียงแค่ความฝัน
เขาค่อยๆสูดลมหายเข้าใจออก หลังจากปรับอารมณ์ของตัวเองให้คงที่แล้ว จี้หลิงชวนเอื้อมมือออกไปและสัมผัสประตูห้องจากนั้นเขาก็ค่อยๆผลักบานประตูที่กำลังปิดอยู่ให้เปิดออก
ทันทีที่ประตูเปิดออก จี้หลิงชวนที่ยืนอยู่บริเวณประตู สายตาของเขามองเห็นคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก
ใบหน้าเล็กๆนั้นซีดเผือดและดูน่ากลัว มีรอยฟกช้ำมากมายบนหน้าผาก เพียงแค่มองก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอได้รับบาดเจ็บ
ร่างกายซูบผอม เธอนอนขดตัวอยู่บนเตียงราวกับสัตว์ตัวน้อยที่กำลังบาดเจ็บ
แต่เพียงครั้งแรกที่จี้หลิงชวนเห็น เขาก็รู้ในทันทีว่านี่คือชูเหยาที่เขาตามหามานานถึงห้าปี
จี้หลิงชวนเม้มริมฝีปากแน่น เขาอดไม่ได้ที่จะก้าวเท้าเบาๆและค่อยๆก้าวไปยังเตียงผู้ป่วยที่ชูเหยากำลังนอนอยู่
ชูเหยาในตอนนี้กับชูเหยาเมื่อห้าปีก่อนนั้นเปลี่ยนไปมาก ชูเหยาเมื่อห้าปีที่แล้วนั้นเธอทั้งงดงาม ดูสดใส มีชีวิตชีวา ชูเหยาในตอนนี้แม้ว่าเธอจะยังไม่ลืมตา จี้หลิงชวนกลับสัมผัสได้เลยว่าชูเหยานั้นซูบผอมและโทรมจากภายใน
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เวินจิ่งพูดก่อนหน้านี้ว่าชูเหยานั้นได้รับการช่วยเหลือออกมาจากโรงรถ หัวใจของเขาราวกับว่าถูกก้อนหินขนาดใหญ่ทับไว้และทำให้รู้สึกหายใจลำบาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...